สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้ผมจะพาไปดูที่นั่งชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ของการบินไทยในฝูงบินปัจจุบัน ว่ามีที่นั่งกี่แบบ มีแบบไหนบ้าง ถ้าจองจะได้แบบใหม่หรือแบบเก่า ซึ่งผมดูแล้วก็มีหลายแบบ และชวนสับสนอยู่เหมือนกัน เลยเอามาสรุปให้ดูกันเลยทีเดียวครับ

Disclosure: บทความนี้ ผู้เขียนรวบรวมจากข้อมูลและจากประสบการณ์ของผู้เขียน โดยไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบัน การบินไทยมีเครื่องบินในฝูงบินมากถึง 10 แบบครับ และมีเก้าอี้ในชั้นธุรกิจที่แตกต่างกันถึง 4-5 แบบหลักๆ เลย มีตั้งแต่เก้าอี้รุ่นเก่ามากๆ จนถึงรุ่นใหม่มากๆ แถมบางเส้นทาง มีการผสมรุ่นเครื่องบินที่ใช้ในการบินอยู่เรื่อยๆ จนคนจองเองก็สับสนว่า จองแล้วจะได้ที่นั่งแบบไหน มาดูสรุปกันครับ

สรุปประเภทที่นั่ง Royal Silk Class ของการบินไทย

Recliner Seat 

ที่นั่งแบบแรก และเป็นแบบเก่าที่สุด เรียกว่า Recliner ปรับเอนได้ไม่มากนัก ที่นั่งแบบนี้ เจอได้ยากแล้วครับ เพราะเหลือเพียงแค่ Airbus A330-300 (ทะเบียน HS-TEL, เทพามาตย์) ลำนี้ด้านนอกเป็นลวดลาย Star Alliance ที่การบินไทยไม่ได้ใช้ในการบินมาสักพักแล้ว และบน Boeing 737-400 ที่การบินไทยใช้บินในเส้นทางกรุงเทพฯ – เกาะสมุย เท่านั้น

อัปเดต 2 ก.ย. 61 – การบินไทย ปลดระวางเครื่องบินแบบ Boeing-737-400 แล้ว

1st Gen Angle Flat

ที่นั่งแบบถัดมา เป็นที่นั่งแบบ “pod” หรือหลายคนอาจเรียกว่า “ที่นั่งหอย” เจเนอเรชั่นแรก ใช้มานานมากแล้วเหมือนกันครับ ที่นั่งแบบนี้สามารถปรับเอนได้เกือบราบ โดยยังมีองศาที่เอียงกับพื้นอยู่ (ไม่ขนานกับพื้น) ทำให้เวลานอนแล้วอาจจะไหลลงมาเรื่อยๆ ถูกใช้ในเครื่องบินแบบ Boeing 777-200 ทุกลำ (รหัส 777) และบน Boeing 747-400 บางลำ (รหัส 74R) เป็นที่นั่งแบบคู่ ใช้โต๊ะเล็กๆ ตรงกลางร่วมกัน ผู้โดยสารที่นั่งริมหน้าต่าง ต้องปีนข้ามผู้โดยสารคนข้างๆ เพื่อออกมายังทางเดิน

2nd Gen Angle Flat

ที่นั่งหอย เจนใหม่ หรือ 2nd Gen Angle Flat เป็นแบบที่ถูกอัปเกรดขึ้นมาจาก 1st Gen Angle Flat เล็กน้อย (จนหลายคนอาจแยกไม่ออก) ยังคงเอนนอนได้เกือบราบ แต่ก็ยังไม่สามารถเอนขนานพื้นได้อยู่ดี นอนแล้วไหลอยู่ดี มีที่เก็บของด้านข้างที่นั่งมากขึ้นเล็กน้อย โดยรวมถือว่าเก่ามากแล้วครับ รุ่นนี้จะมีช่องเสียบปลั๊กแบบ universal เพิ่มขึ้นมาจาก 1st gen แล้ว

ที่นั่งแบบ 2nd Gen Angle Flat ถูกใช้ในเครื่องบินหลายแบบมากตอนนี้ ประกอบไปด้วย Airbus A330-300 จำนวน 15 ลำ (รหัส 330 และ 33H) วางที่นั่งแบบ 2-2-2, Boeing 777-200ER ทุกลำ (รหัส 77E) วางที่นั่งแบบ 2-2-2, Boeing 777-300 ทุกลำ (รหัส 77R) ซึ่งวางที่นั่งแบบ 2-3-2 ยกเว้นแถวหน้าสุด, และ Boeing 747-400 บางลำ (รหัส 74N)

ที่นั่งหอยทั้ง 2 เจเนอเรชั่นนี้ ผมว่าเหมาะกับไฟลต์ที่บินไม่ไกลมากนัก (อาจจะในประเทศ หรือ ในทวีปเดียวกัน) หากต้องบินข้ามทวีป ที่จำเป็นต้องนอนบนเครื่องบิน ควรหลีกเลี่ยงที่นั่งสองแบบนี้ได้แล้วครับ

Full Flat 1-2-1

เก้าอี้แบบถัดมา ถือว่าเป็นแบบใหม่ที่สุดของการบินไทยครับ นั่นคือแบบ Full Flat ที่สามารถปรับเอนนอนได้ราบ 180 องศา ปรับแล้วขนานกับพื้นเหมือนเตียงนอน ทุกที่นั่งสามารถเดินออกมาที่ทางเดินได้โดยไม่ต้องปีนข้ามผู้โดยสารคนข้างๆ วางเรียงที่นั่งแบบ 1-2-1 ซึ่งเป็นที่นั่งแบบที่คนเดินทางภาวนาจะได้เจอที่นั่งชั้นธุรกิจแบบนี้ เมื่อจองตั๋วในยุคปัจจุบัน เพราะนอนได้สบาย และมีความเป็นส่วนตัวสูงนั่นเอง นอกจากนี้ มันยังมีระบบหน้าจอความบันเทิงแบบใหม่ด้วย

การบินไทย มีที่นั่ง Full Flat อยู่ 2-3 แบบ แต่ว่ามีฟีเจอร์ที่ใกล้เคียงกันมากครับ ถูกใช้ในเครื่องบินแบบใหม่ๆ ของการบินไทย ประกอบไปด้วย Airbus A380-800 ทุกลำ, Boeing 777-300ER (รหัส 77B) ทุกลำ,  Airbus A350-900XWB ทุกลำ และ Boeing 787-9 Dreamliner แบบล่าสุด

เฉพาะบน Boeing 787-9 Dreamliner จะมีการวางที่นั่ง 1-2-1 แบบ reverse herringbone ซึ่งเป็นที่นั่งวางในแนวเฉียงเข้าหากันครับ โดยมีฟีเจอร์ต่างๆ ใกล้เคียงกับที่นั่ง flat bed รุ่นอื่นๆ เพียงแค่มันจะไม่มีที่นั่งแบบ 2 ที่ติดกัน ที่สามารถคุยกันได้อย่างสะดวกเท่านั้นเอง

Full Flat 2-2-2

นอกจากนี้ การบินไทยยังมีที่นั่งแบบ Full Flat แต่จัดเรียงแบบ 2-2-2 ด้วย ซึ่งการจัดเรียงแบบนี้ จะทำให้ที่นั่งฝั่งริมหน้าต่างทั้งสองฝั่ง ไม่สามารถเดินออกมายังทางเดินได้ ถ้าไม่ปีนข้ามเก้าอี้ของผู้โดยสารข้างๆ ก่อน ลดความเป็นส่วนตัวลงมานิดหน่อย ตอนนี้มีที่นั่งแบบนี้ใช้ใน Boeing 787-8 Dreamliner เพียงรุ่นเดียวครับ

Throne Seat

ที่นั่งแบบล่าสุด คือเครื่องบินแบบ Airbus A330-300 ที่การบินไทยนำไป retrofit ที่นั่งใหม่ โดยเป็นที่นั่งแบบ Throne Seat จัดเรียงแบบ 1-2-1 สลับกับ 1-2-2 เยื้องไปมาระหว่างแถว (อ่านรีวิว >>ที่นี่<<)

สรุปแบบเครื่องบินของการบินไทย

Airbus A330-300

ที่นั่ง Royal Silk Class: 2nd Gen Angle Flat และ Throne Seat (เฉพาะ 33R)
จำนวนที่นั่ง Royal Silk Class: 36 / 31
จัดเรียงที่นั่ง: 2-2-2 / 1-2-1 สลับกับ 1-2-2 (เฉพาะ 33R)

Airbus A350-900 XWB

ที่นั่ง Royal Silk Class: Full Flat 1-2-1
จำนวนที่นั่ง Royal Silk Class: 32
จัดเรียงที่นั่ง: 1-2-1

Airbus A380-800

 

ที่นั่ง Royal Silk Class: Full Flat 1-2-1
จำนวนที่นั่ง Royal Silk Class: 60
จัดเรียงที่นั่ง: 1-2-1

Boeing 747-400

รหัสประเภทเครื่องบิน: 74R / 74N
ที่นั่ง Royal Silk Class: 1st Gen Angle Flat / 2nd Gen Angle Flat
จำนวนที่นั่ง Royal Silk Class: 40 / 40
จัดเรียงที่นั่ง: 2-2

Boeing 777-200

รหัสประเภทเครื่องบิน: 777
ที่นั่ง Royal Silk Class: 1st Gen Angle Flat
จำนวนที่นั่ง Royal Silk Class: 30
จัดเรียงที่นั่ง: 2-2-2

Boeing 777-200ER

รหัสประเภทเครื่องบิน: 77E
ที่นั่ง Royal Silk Class: 2nd Gen Angle Flat
จำนวนที่นั่ง Royal Silk Class: 30
จัดเรียงที่นั่ง: 2-2-2

Boeing 777-300

รหัสประเภทเครื่องบิน: 77R
ที่นั่ง Royal Silk Class: 2nd Gen Angle Flat
จำนวนที่นั่ง Royal Silk Class: 34
จัดเรียงที่นั่ง: 2-3-2 (ยกเว้นแถวหน้าสุด 2-2-2)

Boeing 777-300ER

รหัสประเภทเครื่องบิน: 77B
ที่นั่ง Royal Silk Class: Full Flat 1-2-1
จำนวนที่นั่ง Royal Silk Class: 42
จัดเรียงที่นั่ง: 1-2-1

Boeing 787-8

รหัสประเภทเครื่องบิน: 787-8
ที่นั่ง Royal Silk Class: Full Flat 2-2-2
จำนวนที่นั่ง Royal Silk Class: 24
จัดเรียงที่นั่ง: 2-2-2

Boeing 787-9

รหัสประเภทเครื่องบิน: 787-9
ที่นั่ง Royal Silk Class: Full Flat 1-2-1 (Reverse Herringbone)
จำนวนที่นั่ง Royal Silk Class: 30
จัดเรียงที่นั่ง: 1-2-1

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจองแล้วจะได้ที่นั่งแบบไหน?

เอาล่ะครับ ทีนี้เรารู้แล้วว่า การบินไทยมีที่นั่ง Business Class หลายแบบเหลือเกิน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าไฟลต์ไหน เราจะได้ที่นั่งแบบไหน?

หลักสำคัญมากๆ ที่เราต้องรู้เลย ก็คือ ไฟลต์ที่เราจะเดินทางนั้น เค้าใช้เครื่องบินแบบไหนในการบินครับ วิธีการตรวจสอบก็ไม่ยากเลย เพราะส่วนมากจะมีบอกเอาไว้อย่างชัดเจนตั้งแต่ขั้นตอนการจองตั๋วแล้วครับ

หรือถ้าเกิดจองตั๋วไปแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเครื่องบินแบบไหน ก็สามารถนำเลขการจอง (booking code 6 หลัก) มาตรวจสอบผ่านหน้าเว็บของการบินไทย ในช่อง “Manage My Booking” หรือ “จัดการการจอง” ได้ครับ ในรายละเอียดการจองของเราจะมีแบบของเครื่องบินระบุเอาไว้อยู่เสมอ

หรืออีกหนึ่งวิธี คือให้คือเลขไฟลต์ กับ วันที่จะเดินทางไป กรอกในเว็บ www.seatguru.com เพื่อดูรุ่นเครื่องบินที่จะใช้บินในไฟลต์ของเราก็ได้นะครับ (แต่บางครั้งข้อมูลอาจจะไม่ได้แม่นยำเท่ากับเอาเลขบุ๊กกิ้งไปกรอกในหน้าเว็บของการบินไทยโดยตรง)

ข้อควรระวังก็คือ อย่าจำว่า เส้นทางนี้ การบินไทยใช้เครื่องบินแบบนี้บินครับ เพราะมันเปลี่ยนได้ตลอด ให้ดูจากการจองในแต่ละวันจะดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ประเภทของเครื่องบินนี่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลานะครับ เช่นในกรณีที่เครื่องบินแบบที่ควรจะนำมาบินเกิดมีปัญหา และการบินไทยได้นำเครื่องบินแบบอื่นมาใช้ทดแทน เราก็อาจจะโชคไม่ดี (หรือโชคดี) ได้ที่นั่งในแบบที่เราไม่ได้คาดคิดเอาไว้ก็เป็นได้ครับ

ในบางเส้นทางที่มีตารางบินมากกว่าวันละ 1 เที่ยวบินนี้ แต่ละเที่ยวบินอาจจะใช้เครื่องบินคนละแบบกันก็ได้นะครับ ให้ลองเช็คแบบของเครื่องบินในไฟลต์ต่างๆ ดู และเลือกไฟลต์ที่ใช้เครื่องบินแบบใหม่ เพื่อที่จะได้ใช้ที่นั่ง Royal Silk Class แบบใหม่ ไม่ต้องผิดหวังเจอเก้าอี้แบบเก่าที่อาจจะนั่งไม่สบายเท่ากับแบบใหม่ๆ ครับ (จ่ายเท่ากันนี่นา เลือกอันที่นั่งสบายดีกว่าเนอะ)

ไม่ว่าจะได้เครื่องบินแบบไหนก็ตาม ผมแนะนำให้ทำการ “เลือกที่นั่ง” ก่อนทำการบินทุกครั้งนะครับ บนเครื่องบินลำเดียวกัน แต่ละที่นั่งนั้นให้ความสบายต่างกัน ทุกลำต่างมีทั้งที่นั่งที่ดีและไม่ดีอยู่เสมอ เช่น ที่นั่งใกล้ห้องน้ำหรือใกล้ครัว ก็อาจจะมีเสียงดังรบกวนตลอดทั้งไฟลต์ หรือบางที่นั่งก็แคบกว่าที่นั่งอื่นๆ นั่นเองครับ

อ่าน >> ขึ้นเครื่องบิน เลือกที่นั่งตรงไหนดีที่สุด?

นอกจากนี้ ผู้โดยสารในชั้น Royal Silk Class ของการบินไทยทุกคน ยังได้รับสิทธิ์ในการเช็กอินในเคาน์เตอร์พิเศษ, ผ่าน ตม. ในช่องพิเศษ, สิทธิ์ในการเข้าใช้เลานจ์ Royal Silk Lounge, สิทธิ์ในการขึ้นเครื่องก่อน, สิทธิ์ในการได้รับกระเป๋าก่อน และหากเดินทางออกจากสุวรรณภูมิ ก็สามารถเข้าใช้บริการนวด Royal Orchid Spa ได้ฟรีด้วยนะครับ

สุดท้ายนี้ก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพทุกท่านครับ

บทความโดย: อู๋ spin9