เจาะลึก การบินไทย Boeing 787-8 Dreamliner เครื่องบินที่ไฮเทคที่สุดในฝูงบินปัจจุบัน

รีวิวเครื่องบินบนการบินไทยกันมาครบทุกแบบแล้ว แต่วันนี้ผมจะพูดถึง Boeing 787-8 Dreamliner ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องบินรุ่นที่ไฮเทคที่สุด ของฝูงบินการบินไทยอีกครั้งแบบเจาะลึกกันเลยครับ ซึ่งมีหลายเรื่องที่คุณผู้อ่านอาจจะไม่รู้มาก่อน โดยจะเน้นในมุมของผู้โดยสารอย่างเราๆ ท่านๆ เป็นหลัก ว่าจะได้รับประโยชน์อะไรจากการบินบนเครื่องบินสุดไฮเทครุ่นนี้กันบ้างครับ

คนส่วนมาก พอมีเที่ยวบินจะเดินทาง ก็ขึ้นเครื่องบินกันไป โดยไม่ทันได้สังเกตว่ามันเป็นเครื่องบินรุ่นไหน ก็อาจจะแยกความแตกต่างไม่ค่อยได้ครับ แต่แท้จริงแล้ว เครื่องบินมีหลายแบบ หลายรุ่น และแต่ละรุ่นก็มีเทคโนโลยีที่แตกต่างกันอย่างมาก และส่งผลต่อความสบายของเราเวลาเดินทางที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ ‘Boeing 787’ หรือชื่อเล่น ‘Dreamliner’ ที่ถือได้ว่าเป็นเครื่องบินพาณิชย์ของ Boeing ที่ใหม่ที่สุดในตลาดปัจจุบัน และการบินไทยก็มี Boeing 787-8 Dreamliner ประจำการอยู่มากถึง 6 ลำแล้วด้วย

Boeing 787-8 Dreamliner

เครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ เป็นเครื่องบินขนาดกลาง ลำตัวกว้าง ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ที่สุดของโบอิ้ง เป็นหนึ่งในเครื่องบินที่มีความประหยัดน้ำมันสูงที่สุดในบรรดาเครื่องบินพาณิชย์ทั่วโลก และยังเป็นเครื่องบินโดยสารรุ่นแรกของโลกที่ใช้วัสดุผสม (composite materials) เป็นตัวถังหลักของโครงสร้างเครื่องบิน ส่งผลให้เครื่องบินมีน้ำหนักเบา และมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องบินรุ่นอื่นที่มีขนาดเท่ากันอย่างชัดเจน

โบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ได้ทำการบินทดลองครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2552 และส่งมอบลำแรกให้กับสายการบิน ANA ในเดือนตุลาคม 2554 ส่วนของการบินไทย ได้รับมอบลำแรกในเดือนกรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา และเป็นหนึ่งในเครื่องบินแบบที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกอย่างรวดเร็ว นับถึงปัจจุบัน มีเครื่องบิน 787-8 บินทำการอยู่ทั่วโลกแล้วมากกว่า 400 ลำ

การบินไทยได้จัดหาเครื่องบิน โบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ จำนวนทั้งสิ้น 6 ลำ สำหรับทำการบินในเส้นทางระหว่างประเทศ ดังนี้

ลำที่ 1 ทะเบียน HS-TQA กรกฎาคม 2557 นามพระราชทาน องครักษ์
ลำที่ 2 ทะเบียน HS-TQB กันยายน 2557 นามพระราชทาน จตุรพักตรพิมาน
ลำที่ 3 ทะเบียน HS-TQC ตุลาคม 2557 นามพระราชทาน ปราณบุรี
ลำที่ 4 ทะเบียน HS-TQD พฤศจิกายน 2557 นามพระราชทาน วาปีปทุม
ลำที่ 5 ทะเบียน HS-TQE เมษายน 2558 นามพระราชทาน โกสุมพิสัย
ลำที่ 6 ทะเบียน HS-TQF มิถุนายน 2558 นามพระราชทาน กงไกรลาส

ใช้น้ำมันน้อยกว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ของการบินไทย ติดตั้งเครื่องยนต์ Rolls-Royce Trent 1000-AE รุ่นใหม่ ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับ 787 ดรีมไลเนอร์โดยเฉพาะ การทำงานของเครื่องยนต์แบบนี้ จะไม่มีการรั่วไหลของมวลอากาศจากเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ที่ไม่ต้องใช้มวลอากาศจากเครื่องยนต์มาใช้ในระบบปรับอากาศและระบบ pneumatics เหมือนกับเครื่องบินพาณิชย์รุ่นก่อนหน้า (แต่เปลี่ยนไปใช้ระบบไฟฟ้าทดแทนเกือบทั้งหมด) จึงทำให้เครื่องบิน โบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ เป็นเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น ประกอบกับโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบา ทำให้เครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ เผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้น้อยลงถึงกว่า 20% เมื่อเทียบกับเครื่องบินขนาดเดียวกัน

เงียบกว่าทุกรุ่น

อีกจุดเด่นที่สำคัญของเครื่องยนต์และการออกแบบของ 787 ก็คือเรื่องของ “เสียงรบกวน” ที่มีการใช้ ‘Chevrons’ บริเวณปลายด้านหลังของเครื่องยนต์ทั้งสองข้าง ที่เราจะมองเห็นเป็นลอนซิกแซก คล้ายฟันปลา เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นจากเครื่องยนต์ และตัวโครงสร้างของเครื่องบินเองก็มีการเก็บเสียงที่ดีกว่าเครื่องบินรุ่นก่อนหน้าด้วย ซึ่งส่งผลให้เราได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่เบาลงกว่าการโดยสารบนเครื่องบินแบบอื่นๆ และผลพลอยได้ก็คือ เครื่องรบกวนบริเวณโดยรอบสนามบิน เวลาเครื่องบิน 787 ทำการบินขึ้นและลง ก็ลดน้อยลงกว่าเครื่องบินรุ่นอื่นๆ ด้วยครับ

วิธีการสังเกตว่าเครื่องบินที่เราจะขึ้นบินเป็น 787 หรือไม่ นอกเหนือจากการตรวจสอบเลขทะเบียนเครื่องบินแล้ว ก็ให้สังเกตบริเวณท้ายของเครื่องยนต์ใต้ปีกเครื่องบินนี่แหละครับ ว่ามันมีส่วนของรอยหยักๆ หรือ Chevrons  อยู่หรือไม่ ถ้ามี ก็ชัดเจนเลยว่าเป็น Boeing 787-8 Dreamliner แน่ๆ

กรองอากาศ คุมความชื้น ถึงที่หมายแบบไม่รู้สึกเหนื่อย

ส่วนของผู้โดยสารอย่างเราๆ ท่านๆ จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ นอกจากเรื่องเสียงรบกวนแล้ว ก็น่าจะเป็นเรื่องนี้ครับ 787 ดรีมไลเนอร์ ได้ใช้ระบบการกรองอากาศด้วยเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งให้ทั้งความสะอาดของอากาศในห้องโดยสาร และช่วยลดความแห้งกร้าน สร้างความชื้นภายในห้องโดยสารได้มากขึ้น อาการผิวหน้า ผิวหนังแห้ง ตาแห้ง หรือหายใจลำบาก จะเกิดขึ้นน้อยลงกว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินรุ่นอื่นๆ และมันยังมีระบบการควบคุมแรงดัน ที่สามารถบรรเทาผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวน ช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกวิงเวียนคลื่นไส้น้อยลง และพักผ่อนได้มากขึ้น

ใครที่เคยบินด้วย 787 แล้ว จะรู้สึกเหนื่อยน้อยกว่าเครื่องบินรุ่นอื่นค่อนข้างชัดเจนเลยล่ะครับ

ทุกที่นั่งคือที่นั่งริมหน้าต่าง

หน้าต่างเครื่องบิน เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ 787 ดรีมไลเนอร์ครับ ที่มันมีขนาดหน้าต่างใหญ่กว่าเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไปถึงกว่า 65% เลย จน Boeing แอบโฆษณาว่า มันเป็นหน้าต่างที่ใหญ่จนมองเห็นได้จากทุกที่นั่ง หรือ ทุกที่นั่งเป็นที่นั่งริมหน้าต่าง (เว่อเกินไปเนอะ) และมันยังเป็นหน้าต่างที่ไม่มีม่านพลาสติกแบบที่เราคุ้นเคยกันด้วย เพราะหน้าต่างของ 787 เป็นการตัดแสงด้วยระบบไฟฟ้า มีปุ่มให้เลือกปรับได้ 5 ระดับ จากสว่างสุด ไล่มาจนมืด ซึ่งทำไม่ได้ในเครื่องบินรุ่นอื่นๆ ที่มีแค่เปิดให้สว่างสุดๆ กับปิดสนิทไปเลย

ข้อดีของระบบตัดแสงไฟฟ้าของหน้าต่าง 787 ก็คือผู้โดยสารแต่ละคนสามารถปรับให้แสงนวลสบายตาได้ โดยไม่จำเป็นต้องปิดจนมืดทึบ และส่วนของลูกเรือเองก็สามารถควบคุมแสงสว่างของเครื่องบินทั้งลำได้โดยการกดจากแผงควบคุมหลัก

ส่วนข้อด้อยของหน้าต่างแบบนี้ ก็จะพบเจอได้จากไฟลต์ที่ต้องบินข้ามคืน ในขณะที่ด้านนอกยังสว่างอยู่ เพราะการตัดแสงด้วยไฟฟ้า มันไม่สามารถทำได้มืดสนิท 100% ครับ อย่างเช่นในรูปนี้ ที่ทุกคนดิมแสงหน้าต่างลงจนสุดแล้ว แต่ด้านนอกเครื่องบินยังสว่างมาก จนมีแสงรบกวนลอดเข้ามาเป็นแสงเขียวๆ ทั้งลำ ยากที่จะทำให้ห้องโดยสารมืดสนิทอยู่เหมือนกัน

การบินไทย โบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์

ปัจจุบัน การบินไทยมีโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์อยู่ในฝูงบินจำนวน 6 ลำครับ ทั้งหมดเป็นเครื่องบินแบบ 787-8 และ ภายในมีการตกแต่งในสไตล์ไทยร่วมสมัย ที่นำสีและองค์ประกอบจากมรดกวัฒนธรรมทางสถาปัตยกรรมและธรรมชาติของไทยมาผสมผสาน มีลายพื้นผ้าทอที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยอยู่เป็นลายผ้าบุที่นั่ง ภาชนะใส่อาหาร และ การตกแต่งผนังห้องโดยสาร แบ่งที่นั่งออกเป็น 2 คลาส คือ Royal Silk Class จำนวน 24 ที่นั่ง และ Economy Class อีก 240 ที่นั่ง

Royal Silk Class

Royal Silk Class หรือที่นั่งชั้นธุรกิจของการบินไทยบน 787 ดรีมไลเนอร์ มีอยู่ทั้งหมด 24 ที่นั่ง จัดวางในลักษณะเรียงหน้ากระดานแบบ 2-2-2 มีความกว้างที่นั่ง 19 นิ้ว สามารถเอนที่นั่งเป็นเตียงนอนราบได้ถึง 180 องศา ยาว 198 เซนติเมตร มีผนังกั้นระหว่างที่นั่ง เพื่อความเป็นส่วนตัวและเข้าสู่ทางเดินได้อย่างสะดวก

ระบบหน้าจอความบันเทิงบนเครื่องบิน เป็นของ Panasonic eX3 หน้าจอขนาด 16 นิ้ว รองรับระบบทัชสกรีน และควมคุมผ่านรีโมทคอนโทรลที่มีหน้าจอทัชสกรีนเช่นกัน เต็มอิ่มด้วยคอนเทนต์ภาพยนตร์ เกมส์ เพลง และ รายการโทรทัศน์ ที่มีการอัปเดตเรื่องใหม่ๆ เข้าไปทุกเดือนครับ

เมนูอาหาร และ เครื่องดื่ม บนการบินไทย Royal Silk Class ยังคงมีตัวเลือกมากมาย พร้อมการบริการอย่างนอบน้อมจากลูกเรือการบินไทยไม่ต่างจากมาตรฐานบนเครื่องบินแบบอื่นๆ

Economy Class

ห้องโดยสารชั้นประหยัดของการบินไทย 787 ดรีมไลเนอร์ จัดวางในลักษณะเรียงหน้ากระดานแบบ 3-3-3 ในโทนสีทองและสีม่วงสด จำนวน 240 ที่นั่ง แต่ละที่นั่งมีความกว้าง 16 นิ้ว และระยะห่างระหว่างแถว 32 นิ้ว ส่วนระบบหน้าจอความบันเทิง เป็นรุ่นเดียวกับที่นั่งในชั้นธุรกิจ แต่ว่าใช้หน้าจอทัชสกรีนขนาด 11 นิ้ว และไม่มีหน้าจอบนรีโมทคอนโทรล

ไฟภายในห้องโดยสารของ 787 ดรีมไลเนอร์ เป็นไฟที่สามารถแสดงได้ทุกสี (LED Mood Lighting) และสามารถเปิดไฟเป็นสีรุ้ง ไล่เรียงสีมาจากด้านหน้าสุดของเครื่องบินได้ด้วย แต่ในยามทำการปกติ ส่วนมากก็ไม่มีการเปิดไฟสีรุ้งแบบนี้ครับ

การบินไทย 787 Dreamliner ชั้น Economy เคยได้รับรางวัล Best Economy Class ประจำปี 2015 จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ AirlineRatings.com ด้วยนะครับ

เส้นทางบิน

ปัจจุบัน การบินไทยนำเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ มาให้บริการในเส้นทางบิน โอซาก้า ฮอกไกโด เพิร์ท บริสเบน โฮจิมินห์ ฮานอย ดูไบ เดนปาซ่าร์ เดลลี และ สิงคโปร์ เป็นบางเที่ยวบิน ซึ่งจะพิจารณาการสลับไปใช้ในเส้นทางอื่นๆ หรือปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต

787-9 กำลังจะมา!

เซอร์ไพร์สจากการบินไทย คือ การบินไทยกำลังจะมี Dreamliner ตัวใหม่ ในรุ่น Boeing 787-9 ที่มีพิสัยการบินไกลกว่า และมีขนาดใหญ่กว่า 787-8 มาประจำฝูงบินด้วยนะครับ โดยจะมาทั้งหมด 2 ลำ และจะรับมอบในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 โดยยังไม่เปิดเผยว่าจะนำมาใช้บินในเส้นทางไหนกันแน่

ขอขอบคุณข้อมูลจากการบินไทยครับ