รีวิวไฟลต์วันนี้ ผมพาไปเดินทางข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ขึ้นเครื่องสายการบิน ANA ของญี่ปุ่นในชั้น Business Class เดินทางจากโตเกียวนาริตะ ไปยังซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกาครับ เส้นทางนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางยอดนิยม ของทั้งชาวญี่ปุ่นเอง และชาวเอเชียที่จะเดินทางไปอเมริกาโดยไปเปลี่ยนเครื่องที่โตเกียวด้วย
ANA เป็นสายการบินเอกชนที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดของญี่ปุ่น มีเส้นทางครอบคลุมมากมาย และเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม Star Alliance สะสมไมล์ร่วมกับการบินไทยได้ และมักจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คนไทยใช้บินข้ามไปยังทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งต้องเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโตเกียวนาริตะครับ โดยส่วนมาก ANA จะทำ code-share ร่วมกับสายการบิน United เพื่อบินต่อไปยังอเมริกาอยู่เป็นประจำ ดังนั้น ใครอยากบินด้วยเครื่องของ ANA และบริการของ ANA ต้องดูในขั้นตอนการจองด้วยนะครับ ว่าไฟลต์ที่เดินทางจากญี่ปุ่นไปอเมริกานั้น เป็น ANA operated flight หรือไม่ (มักจะมีวงเล็บบอกเอาไว้เสมอ หรือจะดูจากเลขไฟลต์ก็ได้เหมือนกัน) ซึ่งผมขอแนะนำให้เดินทางด้วย ANA นี่แหละครับ ยังไงสายการบินฝรั่ง ก็บริการสู้สายการบินเอเชียไม่ได้จริงๆ
Disclosure: บทความนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง
การเดินทางวันนี้ ผมได้เดินทางต่อเครื่องจากกรุงเทพนะครับ จึงไม่มีส่วนของขั้นตอนการเช็กอินที่สนามบินนาริตะในรีวิวนี้
Flight: NH8
Route: NRT-SFO
Date: 4 Jan 2016
Departure Time: 17:10
Arrival Time: 09:30
Duration: 9 hr 20 mins
Seat: 8C
Class: Business Class
Aircraft: Boeing 777-300ER
Registration: JA779A
หากเดินทางต่อเครื่องจากกรุงเทพ เพื่อไปอเมริกานั้น ส่วนมากเราจะได้ไฟลต์เดินทางออกจากญี่ปุ่นในช่วงเย็นครับ เพราะเดินทางออกจากกรุงเทพในเวลาเช้าตรู่ มาถึงญี่ปุ่นประมาณบ่ายสามโมง นั่งรอในเลานจ์ได้ไม่นาน ก็จะถึงเวลาเดินทางต่อไปถึงอเมริกาในช่วงเช้าของวันเดียวกันพอดี ถือว่าเป็นไฟลต์ที่สวยมากๆ ในการเดินทางไปอเมริกาเลยครับ
การต่อเครื่องที่สนามบินนาริตะ ก็ไม่มีขั้นตอนอะไรยุ่งยากครับ ไม่ต้องผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเดินไปขึ้นเครื่องตาม Gate ของไฟลต์ใหม่ได้เลย กรณีนี้เป็นเทอร์มินัลเดียวกันด้วย ไปนั่งรอที่ ANA Lounge อาบน้ำอาบท่าเสียหน่อย แล้วก็เดินมายังเกตใหม่ได้แบบชิลๆ (หากเป็นคนละเทอร์มินัล ก็มีรถรับส่งระหว่างเทอร์มินัลเช่นกัน ไม่ยุ่งยาก)
Boarding
ถึงเวลา boarding ทาง ANA ก็จะกั้นแถวแยกเป็น 3 แถว คือ First Class + บัตร ANA Diamond, Business Class + บัตรทอง Star Alliance และ Economy Class ครับ เพื่อรอการเรียกขึ้นเครื่องตามลำดับ ผมได้รับแจ้งว่าไฟลต์วันนี้เต็มทุกที่นั่งเลย
On-board
Boeing 777-300ER ของ ANA จัดวางที่นั่ง First Class จำนวน 8 ที่เอาไว้หน้าสุดของเครื่องบินครับ และค่อยเป็น Business Class อีก 62 ที่นั่ง จัดวางแบบ 1-2-1 ทุกที่นั่งติดทางเดิน ให้ความเป็นส่วนตัว และความสะดวกในการลุกเข้าออกจากที่นั่ง เหมาะกับการเดินทางระยะไกลๆ แบบข้ามทวีปอย่างไฟลต์นี้เลย
ANA เรียกที่นั่ง Business Class แบบนี้ว่า ANA Business Staggered ครับ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นั่ง Business แบบที่ใหม่และดีที่สุดของ ANA มักใช้ในเที่ยวบินระยะไกลๆ บนเครื่องบินแบบ Boeing 777-300ER และ Boeing 787-9 รวมถึง 787-8 บางลำด้วย
เมื่อเข้ามานั่งแล้ว เก้าอี้ก็ใหญ่เต็มตัว นั่งสบายดีครับ ด้านหน้าเป็นหน้าจอความบันเทิง และด้านล่างเป็นที่สอดขาเมื่อปรับที่นั่งลงไปเป็นเตียงที่สามารถปรับนอนราบได้ 180 องศา
ด้านล่างของหน้าจอ เป็นตำแหน่งของที่เก็บโต๊ะขนาดใหญ่ครับ ที่สามารถดึงสไลด์ออกมาได้ ถูกล็อกเอาไว้ด้วยสลักสีแดง
เวลาดึงโต๊ะออกมาแล้ว ยังสามารถกางซ้ายขวาออกไปได้อีก เป็นโต๊ะที่ใหญ่สะใจมาก และเมื่อถึงเวลาเสิร์ฟจริงๆ ก็จะมีผ้าปูโต๊ะมาให้อีกชั้นหนึ่ง
ด้านล่างของจอ ยังมีช่องเล็กๆ อีกช่องที่เปิดออกมาได้ เป็นปล๊กไฟแบบ Universal, ช่องเสียบ USB และ iPod Interface (ที่เดี๋ยวนี้ไม่มีใครใช้กันแล้ว) ตำแหน่งของปลั๊กค่อนข้างประหลาดครับ ไปอยู่ใต้จอแบบนี้ ตอนเสียบชาร์จมือถือ ก็จะไปห้อยๆ อยู่ที่ขา ไม่มีที่ให้วาง แต่ถ้าใช้เสียบชาร์จคอมพิวเตอร์ตอนที่ดึงโต๊ะออกมาใช้งาน ก็สะดวกดีอยู่
ด้านข้าง เป็นโต๊ะขนาดใหญ่พร้อมไฟอ่านหนังสือ มีช่องเก็บนิตยสาร และกล่องใส่ของไม่ให้กลิ้งไปมาครับ โต๊ะตัวนี้สะดวกมากทีเดียวสำหรับวางของเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงแก้วน้ำ และอาหารจานเล็กๆ ได้ โดยไม่ต้องกางโต๊ะตัวใหญ่ออกมา
ปุ่มปรับเก้าอี้ อยู่ด้านข้างลำตัวครับ สามารถปรับได้ละเอียดพอสมควร ทั้งปรับเอน ปรับเลื่อนหน้า/หลัง (จะได้วางขาในช่องสอดขาได้พอดีกับสรีระแต่ละคน) ปรับ Lumbar ที่รองรับกระดูกสันหลัง และยังมีไฟ Do Not Disturb สำหรับแจ้งพนักงานต้อนรับไม่ให้ปลุก เมื่อต้องการพักผ่อนเต็มที่ด้วย
ก้มลงไปดูใต้ที่นั่ง จะมีช่องเก็บรองเท้า (shoe box) ให้ด้วยครับ แต่จริงๆ พื้นที่ของพื้นรอบที่นั่ง Business แบบนี้มีค่อนข้างมากอยู่แล้ว เลยอาจจะไม่ได้ให้ใช้ช่องเก็บใต้ที่นั่งอันนี้
รองเท้าแตะสำหรับใส่บนเครื่องบิน ที่ผมชอบคือในถุงจะมีช้อนรองเท้าพลาสติกมาให้ด้วย เป็นจุดเล็กๆ ที่ ANA ใส่ใจครับ เวลาเปลี่ยนกลับมาใส่รองเท้าปกติของเรา จะได้ใส่ได้ง่ายดาย
หูฟังแบบ noise cancellation เป็นของสายการบินสั่งทำเอง ไม่ได้ใช้ของมียี่ห้ออะไรเป็นพิเศษครับ
ชุดกระเป๋า amenities ที่ให้มา เป็นกระเป๋าผ้าบางๆ ของ L’Occitane ครับ และของใช้ภายในก็เป็นของ L’Occitane ทั้งหมด แต่ส่วนตัวผมค่อนข้างผิดหวังที่ให้ของมาค่อนข้างน้อยไปหน่อย เมื่อเทียบกับ Business Class สายการบินอื่นๆ ในระดับเดียวกัน
ข้อเสียของที่นั่งตัวนี้ คือถึงแม้จะเป็นที่นั่งริมหน้าต่าง แต่เราก็จะมองไม่เห็นหน้าต่างเท่าไหร่หรอกครับ เรียกว่าอยู่ไกลมาก 555 (ต้องเลือกที่นั่ง A หรือ K ถึงจะติดหน้าต่างจริงๆ ถ้าเป็น C กับ H แบบนี้ ไม่ต้องหวังว่าจะเห็นอะไรเลยครับ ติดฉากกั้นของเก้าอี้ก่อน)
ก่อนเครื่องขึ้น พนักงานต้อนรับเอาเครื่องดื่ม welcome drink มาให้เลือกครับ แต่ที่น่าแปลกใจคือ ทุกอย่างถูกเสิร์ฟมาให้แก้วพลาสติก (ที่ดูไม่ดีนัก) ทั้งหมดเลย ที่เห็นในรูปนี่คือแชมเปญนะเนี่ย ดื่มจากแก้วพลาสติกก็แปลกๆ เหมือนกัน
จากนั้นเมนูก็ตามมาครับ มีตัวเลือกของอาหารประเภทต่างๆ ทั้งสองมื้อ และเมนูของว่างที่สามารถสั่งได้ตลอดไฟลต์ จุใจมาก (เน้นของกินครับ สายการบินนี้)
พอเครื่องขึ้นแล้ว ผมแก้ตัวอีกครั้ง ลองสั่งแชมเปญอีกแก้ว คราวนี้มาเป็นแก้วปกติแล้วครับ (ค่อยยังชั่ว) แถมเอามารินให้ถึงที่เลยด้วย แหม ถ้าทำแบบนี้ตั้งแต่แรกจะได้ไม่ตกใจ
ออเดิร์ฟแรกมาเสิร์ฟแล้วครับ อย่างสวยงาม มีเมนูหลากหลายปนกันแบบพอดีคำ จานนี้บางอันก็อร่อยมาก และบางอันก็ไม่ถูกปากเอาเสียเลย หวานๆ เค็มๆ ปนกันไปหมดครับ แต่ก็น่าจะเรียกน้ำย่อยได้ดีแหละนะ
(บอกแล้ว สายการบินนี้เน้นของกิน สวยงามทุกการจัดวาง) ถาดต่อมา มาวางเพื่อเรียกน้ำย่อยกันอย่างต่อเนื่องครับ ผมเลือกรับเมนูอาหารญี่ปุ่น ซึ่งก็น่าจะเป็นช้อยส์ที่ดีที่สุดแล้ว เพราะสายการบินญี่ปุ่น จะเลือกรับเมนูอื่นก็คงสู้อาหารญี่ปุ่นไม่ได้
จานนี้ประกอบไปด้วยซูชิ ซาชิมิเนื้อปู ซาชิมิปลา หอยเป๋าฮื้อ กุ้ง ไข่ปลาแซลมอน ฯลฯ อย่างละคำ จัดมาอย่างสวยงามน่าทาน อร่อยทุกอย่างจริงๆ ครับ
เมนคอร์ส เป็นปลาแซลมอนย่างเนย ข้าวสวยญี่ปุ่น และซุปมิโสะ อร่อยมากๆ เช่นกันครับ เป็นมื้อเย็นบนเครื่องบินที่ดีงามมากๆ
เค้ก ขนมหวาน ผลไม้ และชีสนานาชนิด ถูกเข็นมาให้เลือกตามความต้องการ โดนเค้กไปอีกสองชิ้นสิครับ
ปิดท้ายด้วยการสั่งไอศกรีม Ben & Jerry’s มาอีกถ้วยครับ มีหลายรสให้เลือกด้วยนะ
Lavatory
หลังจัดเต็มกับมื้ออาหารไป ผมลุกไปแปรงฟันที่ห้องน้ำครับ สายการบิน ANA ได้เตรียมชุดแปรงสีฟันเอาไว้ให้ในห้องน้ำด้วย
ส้วมของ ANA ก็ทำตามมาตรฐานญี่ปุ่นเลยครับ คือการฟลัชโดยใช้ระบบเซนเซอร์ และมีระบบฉีดน้ำทำความสะอาดทั้งหนัก เบา และของคุณผู้หญิง เลือกปรับระดับความแรงของน้ำได้ สายการบินอื่นๆ ควรทำตามนะครับเนี่ย
Flatbed
ผมปรับเอนที่นั่งเป็นท่านอนครับ สามารถกดปรับเอนได้ราบสนิท 180 องศาเลย และหมอนกัลผ้าห่มก็ให้มาเข้ากับเตียงขนาดย่อมๆ ของที่นั่งแบบนี้มาก ให้ความสบายแบบหลับพักผ่อนได้สบายๆ
ช่องสอดขา ก็ไม่ได้แคบเกินไปครับ พอมีพื้นที่ให้จัดท่านอนได้แบบหลวมๆ แม้ว่าพื้นที่ใต้จอจะเตี้ยไปหน่อย แต่โดยรวมก็หลับได้ไม่ยากเลยกับเที่ยวบินยาวๆ แบบนี้ครับ
In-flight WiFi
บนเครื่องบินของสายการบิน ANA บางแบบ จะมี WiFi ให้ใช้ด้วยนะครับ และลำนี้ก็มีติดตั้งไว้ให้ใช้เช่นกัน ซึ่ง ANA เปิดให้ใช้งานได้ฟรี 15 นาที จากนั้นก็จะมีแพลนให้เลือกครับ ว่าจะเล่นยาวไม่อั้นตลอดทั้งไฟลต์ ในราคา $19.95 หรือจะเลือกซื้อแค่ชั่วโมงเดียว ในราคา $8.95 ก็ได้
ความเร็วของ in-flight WiFi นี่จริงๆ ก็คาดหวังอะไรไม่ค่อยได้อยู่แล้วครับ แต่เห็นช้าๆ แบบนี้ ค่อนข้างเสถียรเลย ใช้งานได้เรื่อยๆ เพียงพอที่จะใช้ทำงานอะไรเร่งด่วนได้ แชตไลน์ได้สบาย (ถ้าไม่โหลดรูป) ตอบอีเมล เปิดเว็บต่างๆ แบบไม่ติดขัดครับ
Ippudo Ramen on board
ทีเด็ดของมื้ออาหารบน ANA Flight ก็คงเป็นเจ้านี่แหละครับ ราเมง Ippudo ที่สามารถสั่งกับพนักงานต้อนรับได้ และจะใช้เวลาสักพักในการทำตามออเดอร์ รสชาติเหมือนกินที่ร้านเป๊ะๆ ชามใหญ่พอดิบพอดี หรือถ้าไม่พอก็ยังสามารถสั่งเพิ่มได้เรื่อยๆ ครับ ชามนี้ถือว่าฟินมากกก และรีเฟรชได้ดีมากหลังจากตื่นนอน
ANA x Star Wars Project
ตลอดปี 2016 นี้ สายการบิน ANA ร่วมกับ Star Wars ทำเครื่องบินลายพิเศษ รวมถึงมีของที่ระลึกเกี่ยวกับ ANA x Star Wars จำหน่ายบนเครื่องบินด้วย อย่างโมเดลเครื่องบิน ANA ลาย Star Wars นี่ก็ได้รับความนิยมสูงมากครับ ช่วงแรกๆ ที่วางขายนี่ต้องจองกับพนักงานต้อนรับกันตั้งแต่ได้ที่นั่ง และเครื่องยังไม่ออกเดินทางเลยทีเดียว แน่นอนว่า ไฟลต์นี้ผมก็แอบสอยมาด้วยลำนึง
หน้าตาก็ประมาณนี้ครับ โมเดลเครื่องบิน ANA ลาย R2-D2 ราคาขายบนเครื่องบินอยู่ที่ 5,500 เยน
สรุป
หลังจากเคยรีวิว Business Class ของ ANA ในเส้นทางใกล้ๆ และยอดนิยมอย่างกรุงเทพ-โตเกียวให้ได้อ่านกันไปแล้ว (และได้เครื่องเก่าอย่าง Boeing 777-200 ที่ใช้ที่นั่ง Business แบบโบราณสุดๆ) พอมาเจอ Business แบบ long-haul ของ ANA ก็พบว่า มันดีงามอย่างมากครับ จากจุดแข็งของ ANA คือเรื่องอาหารอร่อย บริการนอบน้อมแบบญี่ปุ่น คิกขุๆ นิ่มๆ เนิบๆ ไฟล์ต 9 ชั่วโมง ก้มคำนับร้อยครั้ง ยังใช้ที่นั่ง Business ที่ค่อนข้างสบายอีกด้วย ให้ความเป็นส่วนตัวสูง เดินทางระยะไกลๆ แบบไปอเมริกานี่เหมาะมากครับ
จุดเด่นเรื่องอาหารของ ANA ยังคงน่าประทับใจอย่างมากทุกเมนูเลยครับ โดยเฉพาะจานหลัก ที่อร่อยไม่แพ้ร้านอาหารญี่ปุ่นมาตรฐานดีๆ บนพื้นโลก และยังมีราเมง Ippudo ที่ให้สั่งได้ตลอดทั้งไฟลต์ เรียกได้ว่านอนก็ดี ไม่นอนก็อิ่มสบายตลอดการเดินทาง ข้อเสียของ ANA ยังคงอยู่ที่หน้าจอความบันเทิง ที่มีตัวเลือกของหนังค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสายการบินอื่นๆ ในระดับเดียวกัน เข้าขั้นสอบไม่ผ่านเลยทีเดียว (ไม่มีให้ดู ก็นอนไปฮะ)
อีกหนึ่งเรื่องคือราคาค่าตั๋ว Business Class ของ ANA จัดได้ว่าค่อนข้างสูงเลยครับ ส่วนมากถ้าเดินทางไปอเมริกาจากกรุงเทพ มักจะไปเจอตัวเลือกที่ถูกกว่าเสมอ เช่น กรณีของกลุ่ม Star Alliance ก็มักเจอ EVA Air หรือ United ที่ถูกกว่า หรือถ้าไม่ใช่กลุ่มสตาร์ ก็มี Cathay Pacific ที่ราคาน่าสนใจมาก
พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ
- รีวิว First Class สายการบิน SWISS — ขั้นสุดของสวิส เส้นทาง Zurich-Bangkok
- พาเดินงาน AIX 2024 ✈️ — พรีวิวที่นั่งใหม่ การบินไทย Airbus A320 ก่อนใช้จริงสิ้นปีนี้
- รีวิว การบินไทย Royal First Class ปี 2024 — กรุงเทพ-ลอนดอน Boeing 777-300ER
- รีวิว Qatar Qsuite ปี 2024 — ยังเป็น Business Class ที่ดีที่สุดอยู่มั้ย?
- รีวิว ANA “The Suite” — First Class ใหม่ บน Boeing 777-300ER
- รีวิว Dassault Falcon 6X — พาบินไปสิงคโปร์ด้วย Private Jet ลำตัวกว้างสุดในโลก
- รีวิว EVA Air Business Class — ซีแอตเทิล-ไทเป Boeing 787-10
- รีวิวกระเป๋าเดินทาง Samsonite ใหม่ 3 รุ่น — ทน เท่ เบา ล้อดีจริง ฟังก์ชั่นครบ!
- เจาะลึก ATC — เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ อาชีพสำคัญในอุตสาหกรรมการบิน
- รีวิว Business Class สายการบิน Swiss — กรุงเทพ-ซูริค Boeing 777-300ER
- พาชม “SAT-1” เทอร์มินัลใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดแล้ววันนี้
- รีวิว Finnair Business Class ที่นั่งแบบใหม่ ใหญ่สบายมาก แต่ปรับเอนไม่ได้! 🤨
- สุดในรุ่น “ACH130 Aston Martin Edition” — เฮลิคอปเตอร์ Airbus ที่ตกแต่งโดย Aston Martin!
- รีวิว Shark Aero เครื่องบินสปอร์ตสายซิ่ง เร็ว แรง ทำสถิติบินเดี่ยวรอบโลกมาแล้ว
- รีวิว Emirates First Class ปี 2023 — บินสบาย อาบน้ำบนเครื่องบิน หรูสุดแบบไม่เกรงใจใคร
- รีวิว ANA 「THE Room」 Business Class แบบใหม่ล่าสุด กว้างสุด มีประตูทุกที่นั่ง
- รีวิวคู่ พาซู่ชิงขึ้น First Class – สายการบิน Cathay Pacific ไปนิวยอร์ก!
- พาเจาะลึก Airbus A330neo ลำใหม่ล่าสุดของ Thai Lion Air
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019
- รีวิว First Class สายการบิน Cathay Pacific นิวยอร์ก-ฮ่องกง ยาวๆ 16 ชั่วโมงรวด
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific นั่งไกลๆ ปรับปรุงเมนูใหม่ อาหารจัดเต็มสุดๆ
- รีวิว First Class สายการบิน Lufthansa พร้อมรีวิว First Class Terminal สนามบิน Frankfurt
- พาชม เจาะลึก Airbus A330neo รุ่นใหม่ล่าสุด ลำแรกของ Thai AirAsia X
- รีวิว Business Class สายการบิน EVA Air ไทเป-ซานฟรานซิสโก (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Business Class สายการบิน Hong Kong Airlines เครื่องบินใหม่ ราคาสุดคุ้ม
- รีวิว Business Class – Cathay Pacific บน Boeing 777-300ER เส้นทาง SFO-HKG
- รีวิว Business Class บน Boeing 787-10 ใหม่ล่าสุด สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่เหมือน First Class เป็นห้องส่วนตัว ปิดประตูได้!
- บุกศูนย์ฝึกลูกเรือ Singapore Airlines ชมเบื้องหลังเที่ยวบินที่ไกลที่สุดในโลก!
- รีวิว Royal First Class การบินไทย บน Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน
- 6 ความลับของ Economy Class รู้แล้วจะนั่งสบายขึ้นอีกเยอะ!
- รีวิว ‘Throne Seat’ ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย
- รีวิวสุดยอด First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด บน Singapore Airlines A380
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific กรุงเทพฯ – ฮ่องกง
- รีวิว Emirates First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด – First Class แรกของโลกที่เป็นห้องปิด 100%
- รีวิว ‘Premium Economy’ การบินไทย ดีงามไม่ต่างจาก Business Class
- รีวิว Premium Flatbed ชั้นธุรกิจ สายการบิน Thai AirAsia X
- รีวิว ห้องอาบน้ำบนเครื่องบิน Emirates First Class – Airbus A380
- รีวิว ANA Premium Economy ชั้นประหยัดพรีเมียม นั่งสบาย ในราคาไม่โหดร้าย
- พาชมโรงงาน Boeing พร้อมพา Boeing 787-9 ลำใหม่ของการบินไทยกลับสุวรรณภูมิ
- รีวิว Emirates First Class Suites ห้องส่วนตัวสุดหรูบนเครื่องบิน
- รีวิว First Class สายการบิน Korean Air แบบใหม่ล่าสุดบน Boeing 777-300ER
- พรีวิว! ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย บน Boeing 787-9
- รีวิว Prestige Suites ที่นั่ง Business Class แบบใหม่บนสายการบิน Korean Air
- การบินไทย มีที่นั่ง Business Class แบบไหนบ้าง? + วิธีจองให้ได้ที่นั่งแบบใหม่
- รีวิว ScootBiz สายการบิน NokScoot เส้นทางดอนเมือง-ไทเป ที่นั่งกว้าง ราคาเบา
- รีวิว First Class แบบใหม่ของ Singapore Airlines – Boeing 777-300ER
- รีวิว “The Private Room” โคตรเลานจ์ของสนามบิน Singapore Changi
- รีวิวไฟลต์สุดน่ารัก เครื่องบิน “Gudetama” ไข่ขี้เกียจ ลำเดียวในโลก
- รีวิว การบินไทย Royal Silk Class บน Airbus A350-900 XWB รุ่นล่าสุด
- รีวิว Etihad ‘Business Studio’ ชั้นธุรกิจที่ไม่มีความทัดเทียม (B77W/A380)
- รีวิว United Polaris Business Class ชั้นธุรกิจรูปแบบใหม่ของ UA
- รีวิว First Class สายการบิน ANA สุดยอดความหรูหราแบบญี่ปุ่น
- รีวิว First Class Suite สายการบิน Asiana หรู เนี๊ยบ สไตล์เกาหลี
- รีวิว Business Class บน A380 สายการบิน Emirates
- รีวิว ชั้น Smile Plus (ชั้นประหยัดพรีเมียม) สายการบินไทยสมายล์
- รีวิว Lufthansa Business Class บน Boeing 747-8I
- รีวิว Etihad First Class “Apartment” ที่สุดของการเดินทางในชั้นเฟิร์สคลาส
- เจาะลึก การบินไทย Boeing 787-8 Dreamliner เครื่องบินที่ไฮเทคที่สุดในฝูงบินปัจจุบัน
- รีวิว Business Class บน Airbus A380 สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางโตเกียว-ซานฟรานฯ (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Royal Silk Class บนการบินไทย Boeing 787 Dreamliner
- รีวิว United Business First Class บน Boeing 787-8 Dreamliner
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว (Boeing 777-200ER)
- รีวิว การบินไทย ชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ใหม่ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการบินไทย
- รีวิว Business Class สายการบิน Austrian เส้นทางกรุงเทพ-เวียนนา
- รีวิว การบินไทย Royal First Class เส้นทางกรุงเทพ-แฟรงก์เฟิร์ต
- รีวิว Royal Laurel Class สายการบิน EVA Air เส้นทางไทเป-ซานฟรานซิสโก
- รีวิว เครื่องบินที่มุ้งมิ้งกระดิ่งแมวที่สุดในโลก Hello Kitty Jet
- รีวิว Royal First Class บนการบินไทย Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว