วันนี้ผมพาไปนั่งชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ของการบินไทยครับ แต่ไม่ใช่ Royal Silk Class ธรรมดาทั่วไป เพราะมันเป็น Royal Silk Class ที่อยู่ในช่วง “ทดลอง” การบริการรูปแบบใหม่ของการบินไทย ที่มีความเปลี่ยนแปลงจากชั้นธุรกิจดั้งเดิมอย่างมากทีเดียว
เท่าที่ผมทราบ ตอนนี้ การบินไทย กำลังอยู่ในช่วงทดลองการบริการบนชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ใหม่ครับ โดยเริ่มจากการทดลองบนเที่ยวบิน TG676 / 677 เส้นทาง กรุงเทพ – โตเกียว (นาริตะ) ที่ใช้เครื่องบินแบบ Airbus A380 เส้นทางเดียวก่อน (เพิ่งเริ่มทดลองมาได้ประมาณ 1 เดือน) และได้ขยายไปยัง TG910 / 911 เส้นทาง กรุงเทพ – ลอนดอน เพิ่มอีก 1 เส้นทางแล้วในเดือนพฤศจิกายน ดังนั้น ใครที่มีโอกาสได้ใช้บริการ Royal Silk Class ในเที่ยวบินดังกล่าวช่วงนี้ ก็จะได้รับการบริการรูปแบบใหม่ทั้งหมดเลยครับ
Disclosure: บทความนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง
ผมได้ยินข่าวก็พลาดไม่ได้ที่จะหาไฟลต์เดินทางมาทดลองบริการรูปแบบใหม่นี้เช่นกัน โดยได้ทำการบินในไฟลต์ TG676 / 677 เส้นทางกรุงเทพ – โตเกียว (นาริตะ) เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เราไปชมบริการใหม่ของการบินไทยพร้อมกันเลยครับ
Flight: TG676
Route: BKK-NRT
Date: 29 Oct 2015
Departure Time: 08:00
Arrival Time: 15:50
Duration: 5 hr 50 mins
Seat: 24B
Class: Royal Silk Class
Aircraft: Airbus A380-800
Registration: HS-TUE (ศรีราชา)
เที่ยวบินขาไป TG676 ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเวลา 8 โมงเช้าครับ ก็เลยต้องตื่นเช้า แหกขี้ตามาสนามบินกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง แต่ความจริงผมว่าไฟลต์ไปญี่ปุ่นที่ออกเช้านี่สบายกว่าไฟลต์กลางคืนค่อนข้างมากครับ เพราะเที่ยวบินไม่ได้ยาวมาก (ไม่ถึง 6 ชั่วโมง) ถ้าบินไฟลต์กลางคืนก็จะได้นอนไม่เต็มที่ แถมยังไปถึงญี่ปุ่นเช้ามืดอีก ให้ลุยต่อทั้งวันก็ร่างคงจะพังแน่ๆ ผมเลยชอบไฟลต์ญี่ปุ่นช่วงเช้าแบบนี้มากกว่าครับ
Check-in
การเช็กอินของ Royal Silk Class การบินไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ สามารถมาเช็กอินที่เคาน์เตอร์ของ Royal Silk Class ที่ถูกจัดแยกเอาไว้ต่างหากได้เลยที่บริเวณ Row A ครับ เช้าๆ แบบนี้ผู้โดยสารไม่เยอะมาก แทบไม่ต้องรอคิวเลย
![DSC00886](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00886-1024x682.jpg)
เคาน์เตอร์เช็กอินจะมีเก้าอี้สำหรับนั่งรอด้วย ขั้นตอนdการเช็กอินก็รวดเร็วดี และหลังจากได้บอดดิ้งพาส และ กรอกใบ ตม.แล้ว ก็สามารถเดินมาที่บริเวณท้าย Row A เพื่อผ่านขั้นตอนการ X-Ray และด่าน ตม. ที่ช่องพิเศษ Fast Track ได้เลย คนน้อยมากครับ
![DSC00887](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00887-1024x682.jpg)
เพียงไม่กี่นาทีหลังจากเดินทางถึงสนามบิน ก็หลุดเข้ามาอยู่ด้านในได้แล้ว สะดวก รวดเร็วดีนะครับ
Royal Silk Lounge, Suvarnabhumi Airport
![DSC00890](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00890-1024x682.jpg)
ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ของการบินไทย สามารถเลือกใช้บริการห้องรับรองหรือ Lounge ได้หลากหลายแห่งมากครับ มีกระจัดกระจายอยู่ใกล้กับ Gate ที่เราจะต้องเดินทางทั่วทั้งสุวรรณภูมิเลย อย่างกรณีนี้ TG676 ออกเดินทางจากเกต C3 ก็ไปเลือกใช้ Royal Silk Lounge ของ Concourse C ได้เลย พอถึงเวลาบอดดิ้ง ก็ไม่ต้องเดินไกลมาก
![DSC00895](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00895-1024x682.jpg)
ภายใน Royal Silk Lounge เวลาเช้าๆ แบบนี้ ก็มีคนมาใช้บริการไม่แน่นครับ หาที่นั่งที่เป็นมุมส่วนตัวได้ง่าย และมีหลายโซนให้เลือกนั่ง ว่าจะนั่งโซฟาแบบสบายๆ หรือจะนั่งแบบมีโต๊ะสำหรับทานอาหารเช้า ก็เลือกเอาตามสะดวกเลย
![DSC00892](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00892-1024x682.jpg)
![DSC00893](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00893-1024x682.jpg)
ไลน์อาหาร ก็มีหลากหลายนะครับ ทั้งอาหารเช้าแบบไทยๆ โจ๊กไก่ หรือข้าวพร้อมกับอาหารไทย ข้าวต้มมัด หรือแบบฝรั่งพวกขนมปัง ไข่ดาว แฮม ไส้กรอก ก็มีให้เลือกเยอะอยู่
![DSC00894](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00894-1024x682.jpg)
ผมเลือกมาทานไม่มากนัก เพราะจะได้ไปทานต่อบนเครื่องบินที่ได้ยินว่าบริการรูปแบบใหม่ จัดเต็มเรื่องอาหารการกินอย่างมากเลยครับ
Boarding
![DSC00896](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00896-1024x682.jpg)
![DSC00898](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00898-1024x682.jpg)
ถึงเวลาบอดดิ้งที่เกต C3 เดินไม่ไกลจากเลานจ์ ก็ขึ้นเครื่องได้เลยครับ มองออกไปเห็นเจ้านกยักษ์ Airbus A380-800 จอดรอที่เกตอยู่แล้ว (สุวรรณภูมิครับ คุณต้องเช็ดกระจกสนามบินบ้างนะ…)
![DSC00899](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00899-1024x682.jpg)
ผู้โดยสาร Royal First Class, Royal SIlk Class และสมาชิกบัตรทอง Star Alliance ถูกเรียกให้ขึ้นเครื่องเป็นกลุ่มแรกครับ จากตรงนี้ก็เดินชิลๆ ขึ้นเครื่องได้เลย โดยจะถูกแยกให้ขึ้นไปบริเวณชั้นบนของเครื่องบิน ที่เป็นพื้นที่ของชั้นธุรกิจ Royal Silk Class (เครื่องบินแบบ Airbus A380 เป็นเครื่องบินสองชั้น ยาวตลอดทั้งลำ จุผู้โดยสารได้มหาศาล และมีพื้นที่ภายในค่อนข้างมาก จึงน่าจะเป็นเหตุผลที่การบินไทย เลือกเอาเที่ยวบินที่ใช้ A380 มาทดลองบริการรูปแบบใหม่ก่อนเที่ยวบินทีใช้เครื่องบินแบบอื่นๆ นะครับ)
On Board
![tg-a380-seatmap](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/tg-a380-seatmap.png)
เดินขึ้นมาชั้นบนของเครื่องบิน ก็จะมีพนักงานรอต้อนรับอยู่ครับ ที่นั่งขาไปของผมคือ 24B ซึ่งที่นั่งในชั้น Royal Silk Class ของ Airbus A380 จะคอนฟิกแบบ 1-2-1 ทุกแถว แต่ว่าที่นั่งคู่กลางจะถูกสลับระหว่างที่นั่งห่างกัน กับแบบชิดกัน (สำหรับคนที่เดินทางเป็นคู่ จะได้เลือกแบบนั่งชิดกันได้นั่นเองครับ) ส่วนถ้าเดินทางเดี่ยวๆ แบบผมนี่ก็เลือกที่นั่งริมหน้าต่างไปเลย ให้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก โดยที่นั่งริมหน้าต่าง ก็จะมีแบบ เก้าอี้อยู่ติดหน้าต่างเลย และมีโต๊ะข้างๆ ติดทางเดิน (A และ K) กับแบบเก้าอี้อยู่ติดทางเดิน และโต๊ะอยู่ริมหน้าต่าง (B และ J) สลับกันไปเช่นกัน
![DSC00901](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00901-1024x682.jpg)
ทุกที่นั่ง สามารถปรับเอนนอนได้ราบ 180 องศานะครับ ซึ่งเป็นแบบมีช่องสอดขาบริเวณใต้จอภาพหน้าที่นั่ง ส่วนพื้นที่ของโต๊ะด้านข้าง ก็มีที่ว่างเหลือเยอะมากๆ ไม่อึดอัดครับ
![DSC00902](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00902-1024x682.jpg)
![DSC00903](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00903-1024x682.jpg)
การปรับเปลี่ยนบริการรูปแบบใหม่ เริ่มต้นเห็นได้จากตรงนี้ครับ ทุกที่นั่งเมื่อขึ้นเครื่องมาแล้ว จะมีขนมชิ้นเล็กๆ ในกล่องกระดาษสีทองวางไว้คู่กับดอกกล้วยไม้ และผ้าเย็น (ผมไม่แน่ใจว่าจริงๆ มันเป็นผ้าร้อนหรือเปล่า เพราะขึ้นเครื่องมา มันก็เย็นแล้ว แต่มันก็ไม่ได้เย็นจัดเหมือนผ้าเย็นทั่วไป) จากนั้น พนักงานต้อนรับก็จะมาถามเครื่องดื่ม Welcome Drink ทันที ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นแชมเปญอยู่แล้ว
![DSC00905](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00905-1024x682.jpg)
แก้วแชมเปญ ถูกปรับปรุงใหม่ ให้เป็นขนาด full size เลยครับ ชนิดที่ผู้โดยสาร Royal First Class เห็นอาจจะต้องมีงอนทีเดียว เพราะแก้วแชมเปญ Dom Pérignon ของ Royal First Class ยังไม่ดูดีขนาดนี้เลย
![DSC00911](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00911-1024x695.jpg)
ส่วนที่ถูกปรับเปลี่ยนหลักๆ เลยของบริการใหม่นี้ คือส่วนของเมนูอาหาร และรูปแบบการเสิร์ฟอาหารครับ ที่จะใช้เมนูหลายรูปแบบขึ้น รวมแล้วมีรายการอาหารและของหวานทั้งหมดมากกว่า 24 รายการ ซึ่งการบินไทยเรียกว่า “สำรับอาหาร” ที่เดี๋ยวจะได้เห็นหน้าตากันอย่างละเอียดในรีวิวนี้ครับ
Seat Features / Amenities
![DSC00917](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00917-1024x682.jpg)
ที่นั่ง Royal Silk Class บนการบินไทย Airbus A380 มีขนาดปานกลางครับ ไม่ได้กว้างใหญ่มาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดอะไร มีที่พักแขนทั้งสองข้างแบบ fix ตำแหน่ง และมีปุ่มปรับที่นั่งอย่างละเอียด พร้อมฟังก์ชันนวดหลังอยู่ที่แผงด้านข้างที่วางแขน และรีโมทสำหรับควบคุมหน้าจอความบันเทิง
![DSC00919](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00919-1024x682.jpg)
![DSC00921](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00921-1024x682.jpg)
ใต้ที่วางแขน เป็นช่องสำหรับเก็บของ โดยการบินไทยได้เตรียมหูฟังชนิด on ear แบบ noise cancellation เอาไว้ให้ พร้อมกับน้ำดื่มอีก 1 ขวด (ตอนนี้ใช้ของ Purra)
![DSC00915](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00915-1024x682.jpg)
ด้านข้าง เป็นโต๊ะไม้ มีขนาดเพียงพอที่จะวางอาหารว่างและแก้วเครื่องดื่มได้โดยไม่ต้องเปิดโต๊ะอาหารออกมาให้เกะกะ และยังเป็นตำแหน่งของที่เก็บนิตยสารด้วย ด้านข้างนี้ยังมีโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือ ที่สามารถปรับระดับความสว่างได้ด้วยครับ
![DSC00904](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00904-1024x682.jpg)
มองไปด้านหน้า เจอกับหน้าจอความบันเทิงขนาด 16 นิ้ว ช่องสอดขาตอนปรับเอนนอนราบใต้จอภาพ ส่วนด้านข้างจะเป็นโต๊ะอะลูมิเนียมขนาดใหญ่พับเอาไว้อยู่ เด่นสะดุดตามากเกินไปนิด
![DSC00920](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00920-1024x682.jpg)
ย้อนกลับมา เจอกับปลั๊กไฟแบบ Universal 1 จุดด้านข้างที่นั่งครับ สามารถใช้เสียบชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ระหว่างเดินทางได้ตลอดทั้งไฟลต์
![DSC00916](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00916-1024x682.jpg)
ช่องสอดขาใต้จอภาพหน้าที่นั่ง มีหน้าตาแบบนี้ครับ ถ้าอยู่ในตำแหน่งนั่งตรงอยู่ ก็สามารถวางเท้าได้ในตำแหน่งด้านล่าง ถ้าไม่ถึงก็สามารถกดเลื่อนที่นั่งไปด้านหน้าได้นิดหน่อย ส่วนพอปรับนอนราบแล้ว ขาก็จะไปสอดอยู่ในช่องด้านบนแทน
![IMG_0942](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/IMG_0942-1024x768.jpg)
กระเป๋า amenities ที่ให้มากับการบินไทย Royal Silk Class ขาไปนี้ เป็นของ THANN ครับ โดยที่ด้านในก็ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ผ้าปิดตา ที่อุดหู ชุดแแปรงสีฟัน หวี โลชั่น ถุงเท้าสำหรับใส่บนเครื่องบิน เป็นต้น และยังมีรองเท้าผ้าสำหรับใส่บนเครื่องบินวางไว้ให้ต่างหากทุกที่นั่งอีกด้วย
![DSC00930](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00930-1024x682.jpg)
เข็มขัดนิรภัยของชั้นธุรกิจ Royal SIlk Class บนการบินไทย Airbus A380 จะมีความแตกต่างจากคลาสอื่นๆ เลยครับ เพราะเป็นเข็มขัดนิรภัยแบบสามจุด หรือเป็นแบบเดียวกับที่เราใช้ในรถยนต์เลย คือจะมีอีก 1 เส้นมาพาดขวางลำตัวเราด้วย โดยต้องคาดเมื่อเครื่องบินขึ้นและลงครับ อาจจะเพิ่มความอึดอัดนิดหน่อย แต่สามารถที่จะถอดเฉพาะเส้นนี้ออกได้ ให้เหลือเฉพาะที่เอว เมื่อเครื่องบินขึ้นไปรักษาระดับความสูงได้แล้ว
1st Meal
มาดูการบริการรูปแบบใหม่ของการบินไทยกันครับ อย่างที่บอกไปว่า ทีเด็ดของการปรับปรุงรูปแบบการบริการของ Royal Silk Class ใหม่ (ที่ยังคงอยู่ในช่วงทดลอง) อยู่ที่เรื่องของอาหารเป็นหลัก ซึ่งหลังจากที่เครื่องบินไต่ระดับความสูงได้แล้ว พนักงานต้อนรับก็จะมาเสิร์ฟของทานเล่นเลยทันที พร้อมเครื่องดื่มที่ได้เลือกเอาไว้ก่อนที่เครื่องบินจะขึ้น
![DSC00934](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00934-1024x682.jpg)
![DSC00932](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00932-1024x682.jpg)
ถั่วนานาชนิด มาเสิร์ฟพร้อมแชมเปญ (อีกหนึ่งแก้ว) เรียกน้ำย่อยกันก่อนเลยครับ
![DSC00954](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00954-1024x682.jpg)
อาหารจานหลัก (ต้องนับเป็นมื้อเช้า) ถูกเสิร์ฟตามมาครับ ซึ่งผมเลือกเป็นข้าวหน้าปลาไหล สังเกตว่า อาหารไม่ได้ถูกเสิร์ฟเป็นถาด และมีทุกอย่างรวมๆ กันเหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว แต่จะมาเป็นจานแยกกันทั้งหมด และยังใช้ถ้วยชามแบบใหม่ด้วย จัดเต็มมาทั้งปริมาณ และความสวยงามครับ จานนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำมะนาวอัญชัน ที่ขึ้นชื่อของการบินไทย
![DSC00955](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00955-1024x682.jpg)
ที่ผมชื่นชอบคือ มีการปรับปรุงคุณภาพของอาหารอย่างเห็นได้ชัด ที่เห็นนี่อร่อยมากครับ และข้าวก็อุ่นร้อนมาแบบพอดีๆ ไม่มีส่วนที่แข็งจนทานไม่ได้ ปลาไหลก็ชิ้นใหญ่ และให้มาในปริมาณที่เหมาะสมเลย
![DSC00969](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00969-1024x682.jpg)
ขนมหวาน เป็นทับทิมกรอบ เสิร์ฟมาในแก้วสวยงาม น่าเสียดายที่น้ำแข็งก้อนใหญ่ไปนิด และโดยรวมจืดไปหน่อย แต่ก็เย็นสดชื่นปิดท้ายมื้อเช้าได้ดีทีเดียว
Flat Bed
![DSC00931](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00931-1024x682.jpg)
จริงๆ ไฟลต์เช้าของญี่ปุ่นแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกอยากนอนหรอกครับ แต่ผมก็ได้ปรับเอนหลังเพื่อความสบาย แล้วก็พบว่า บริเวณบานพับของโต๊ะตัวใหญ่ด้านข้างที่นั่ง มีตำแหน่งที่เบียดๆ กับเข่าอยู่บ้างเหมือนกัน ถ้านอนราบนี่ต้องจัดท่ากันเล็กน้อย
![DSC00958](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00958-1024x682.jpg)
หมอนและผ้าห่มนวม มีวางไว้ให้บนทุกที่นั่งตั้งแต่ขึ้นเครื่องเลยนะครับ ถ้าใครอยากจะเอนหลังพักผ่อน ก็สามารถปรับที่นั่งมาเป็นท่านอน ราบได้แบนสนิท 180 องศา ไฟลต์กลางวันแบบนี้ ใส่ผ้าปิดตา ที่อุดหู ก็หลับได้ไม่ยาก เท่าที่สังเกตดู ก็หลับกันไปเกินครึ่งเลยทีเดียว
Lavatory
![DSC00936](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00936-1024x682.jpg)
![DSC00944](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00944-1024x682.jpg)
ห้องน้ำในชั้นธุรกิจ Royal SIlk Class ของการบินไทย Airbus A380 มีทั้งหมด 4 ห้องครับ คือด้านหน้าสุด 2 ห้อง และบริเวณด้านหลังที่นั่งแถว 24 อีก 2 ห้อง ซึ่งห้องหน้าสุดจะใหญ่กว่านะครับ ส่วนห้องที่ถ่ายภาพมานี้ เป็นห้องด้านหลัง จริงๆ ก็ไม่ได้แคบอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษครับ การบินไทยยังคงรักษามาตรฐานความสะอาดได้เป็นอย่างดี โดยมีพนักงานเข้าไปสำรวจและทำความสะอาดเป็นระยะๆ ตลอดเที่ยวบิน
2nd Meal
![DSC00961](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00961-1024x682.jpg)
จานเรียกน้ำย่อย ถูกเสิร์ฟมาแบบเซอร์ไพรส์ครับ เพราะจานนี้จะไม่อยู่ในเมนูอาหารเลย (พนักงานต้อนรับแจ้งเองเลยว่า เป็นจานเซอร์ไพร์สให้ผู้โดยสาร) เห็นหน้าตาแบบนี้ มันคือ Vegetable Caviar ครับ สวยงาม อร่อย และเรียกน้ำย่อยได้ดีมากทีเดียว
![DSC00963](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00963-1024x682.jpg)
มื้อนี้ มาเป็น “สำรับ” เลยครับ นั่นคือเราสามารถเลือกอาหารมาประกอบเองได้ 4 อย่าง (แน่นอนว่าผู้โดยสารแต่ละคนก็จะเลือกไม่เหมือนกัน) อย่างจานนี้ ก็มียำหมูย่าง มัสมั่นเนื้อ ต้มยำทะเล และ ไชโป๊ผัดไข่ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และพริกน้ำปลา ทั้งหมดเอามารวมอยู่ในถาดเดียวกัน ดูไม่ค่อยคุ้นตากับมื้ออาหารของการบินไทยดั้งเดิม
![DSC00964](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00964-1024x682.jpg)
![DSC00967](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00967-1024x682.jpg)
![DSC00966](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00966-1024x682.jpg)
![DSC00965](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00965-1024x682.jpg)
ยืนยันถึงคุณภาพได้ครับ ว่า”อร่อยทุกจาน” และให้ปริมาณที่เยอะอย่างเหลือเฟือ รวมถึงสามารถขอเพิ่มได้ด้วยถ้าชื่นชอบจานไหนเป็นพิเศษ (และชอยส์นั้นยังไม่หมด) ขอใช้คำว่า รสชาติดีจนน่าตกใจเลยดีกว่า เหนือความคาดหมายครับ
![DSC00968](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00968-1024x682.jpg)
ของหวานปิดท้าย เป็นไอศกรีมลิ้นจี่ เสิร์ฟพร้อมผลไม้สดครับ
![DSC00972](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00972-1024x682.jpg)
และอย่างที่บอกไปครับ ว่าการบริการในรูปแบบใหม่นี้ ยังอยู่ในช่วงทดลองอยู่ พนักงานต้อนรับก็มาสอบถามถึงความพึงพอใจ และให้กรอกแบบสอบถามเล็กน้อย เพื่อเอาไปปรับปรุงการให้บริการต่อไป ซึ่งเดี๋ยวผมจะสรุปตอนท้ายนะครับ ว่ามันมีอะไรดีขึ้นบ้าง และอะไรที่ยังน่าปรับปรุงอีกบ้าง
Narita Airport Arrival
![DSC00975](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00975-1024x682.jpg)
เกือบๆ 6 ชั่วโมง เราก็เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่นครับ แทบจะไม่ได้หลับบนเครื่องเลยสำหรับไฟลต์นี้ เมื่อเครื่องบินจอดแล้ว การบินไทยก็จะเปิดทางให้กับผู้โดยสาร Royal First Class ที่อยู่ส่วนหน้าสุดของเครื่องได้ลงก่อนครับ จึงตามด้วยชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ทะยอยตามออกมา
![DSC00976](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00976-1024x682.jpg)
จากตัวเครื่อง ถ้าเป็นไฟลต์นาริตะนี่ต้องทำใจก่อนเลยนะครับ เพราะสะพานเทียบท่าของเกตที่รองรับ Airbus A380 ได้ของสนามบินนี้ จะอยู่ค่อนข้างไกลจากด่านตรวจคนเข้าเมืองครับ เดินไกลแน่นอนสำหรับไฟลต์นี้ เมื่อผ่านด่าน ตม. แล้ว มาถึงสายพานรับกระเป๋า ก็จะเริ่มทะยอยออกมาพอดี ไม่ต้องรอนานมาก (เพราะเดินมาตั้งไกล เสียเวลามากพอแล้ว) ซึ่งกระเป๋าของผู้โดยสาร Royal Silk Class ก็จะถูกจัดลำดับเป็น Priority ออกมาก่อน Economy Class ครับ เป็นอันสิ้นสุดการให้บริการในเที่ยวบินขาไป ของการบินไทยไฟลต์นี้ เดี๋ยวเราไปชมขากลับกันต่อนะครับ
Flight: TG677
Route: NRT-BKK
Date: 1 Nov 2015
Departure Time: 17:59
Arrival Time: 22:21
Duration: 6 hr 22 mins
Seat: 12A
Class: Royal Silk Class
Aircraft: Airbus A380-800
Registration: HS-TUB (มัญจาคีรี)
เที่ยวบินขากลับ ผมเดินทางด้วย TG677 ที่ใช้เครื่องบิน Airbus A380 อีกครั้ง (เพื่อทดลองบริการใหม่) โดยเดินทางออกจากสนามบินนาริตะ ในเวลา 17:30 น. ในช่วงเย็น แต่เที่ยวบินนี้ล่าช้าเล็กน้อย ได้ออกเดินทางจริงในเวลาประมาณ 17:59 น.ครับ
Check-in
![IMG_1277](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/IMG_1277-1024x768.jpg)
การเช็กอินของ Royal Silk Class ที่สนามบินนาริตะ จะถูกแยกจากเคาน์เตอร์ปกติของการบินไทย มาอยู่ใน Row B ของเทอร์มินัล 1 South Wing ครับ ซึ่งป้ายของสนามบินจะระบุว่าเป็น First Class Check-in มีโลโก้ของการบินไทยกำกับอยู่ชัดเจน
![IMG_1276](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/IMG_1276-1024x768.jpg)
สำหรับไฟลต์ TG677 นี้ เคาน์เตอร์เช็กอินจะเปิดเวลา 15:00 น. ตรงครับ ใครที่วางแผนจะเดินทางไฟลต์นี้ ถ้าไปถึงสนามบินก่อนบ่ายสามก็ต้องยืนรอนิดนึงครับ คราวนี้ผมไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อย ก็เริ่มจะมีคิวรอเคาน์เตอร์เปิดอยู่บ้าง ส่วนขั้นตอนการเช็กอินก็เป็นไปได้อย่างเรียบร้อย อาจจะไม่ได้เร็วมาก เพราะจะสังเกตได้ว่า ผู้โดยสารแต่ละคนเวลามาเที่ยวญี่ปุ่นนี่แบกของกลับทีหลายใบ หลายกล่องกันหน่อย ไฟลต์นี้เลยต้องรับภาระในการเช็กอินเยอะเป็นพิเศษครับ
![IMG_1278](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/IMG_1278-1024x768.jpg)
ที่สนามบินนาริตะเทอร์มินัล 1 จะมีเคาน์เตอร์สำหรับ X-ray แยกสำหรับผู้โดยสาร First Class, Business Class และผู้โดยสารบัตรทอง Star Alliance ด้วยครับ สามารถมาเดินผ่านประตูดำๆ ที่เขียนว่า Gold Track นี้ได้เลย คิวจะสั้นกว่าแถว X-ray ของผู้โดยสารทั่วไปมากพอสมควร
ANA Lounge, Terminal 1, Narita Airport
![DSC00977](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00977-1024x682.jpg)
สำหรับห้องรับรอง หรือ Lounge สำหรับผู้โดยสาร Royal SIlk Class การบินไทย สามารถเลือกใช้บริการที่สนามบินนาริตะได้ 2 แห่งครับ คือเลานจ์ของสายการบิน United และเลานจ์ชองสายการบิน ANA ซึ่งครั้งนี้ (และขอแนะนำสำหรับทุกๆ ครั้งเลย) ผมเลือกใช้ของ ANA เจ้าถิ่นครับ เพราะดีกว่าและเหมาะกับคนเอเชียอย่างเราๆ ท่านๆ มากกว่าของ United แน่นอน ของกินนี่จัดเต็มกันแบบสุดๆ ไปเลย
![DSC00978](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00978-1024x682.jpg)
ANA Lounge ตั้งอยู่บริเวณ Satellite 4 หรือโซนของเกต 40 ครับ ใกล้กับหลุมจอดของเครื่องบินการบินไทย TG677 ที่จะเดินทางกลับอยู่แล้ว หลังจากที่เดินซื้อของฝากอะไรกันในสนามบินนาริตะเป็นที่เรียบร้อย ก็มาพักผ่อนที่ ANA Lounge แห่งนี้ก่อนขึ้นเครื่องกันครับ
![DSC00979](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00979-1024x682.jpg)
![DSC00983](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00983-1024x682.jpg)
โซนที่นั่ง มีหลากหลายโซนครับ ทั้งแบบโซฟานั่งสบาย และแบบโต๊ะอาหาร ให้เลือกได้ตามใจชอบ
![DSC00991](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00991-1024x682.jpg)
โซนที่เป็นโซฟา จะมีปลั๊กอยู่แทบทุกตำแหน่งเลยครับ สามารถชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนเดินทาง พร้อมกับ Wi-Fi ฟรีของ Lounge เอง ที่ต้องผ่านหน้าจอลงทะเบียนเล็กน้อย
![DSC00984](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00984-1024x682.jpg)
![DSC00985](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00985-1024x682.jpg)
ส่วนของกิน ที่ขึ้นชื่อว่ายอดเยี่ยมของ ANA Lounge ก็จะมีทีเด็ดคือ Noodle Bar ที่สามารถไปสั่งราเมง อูด้งต่างๆ หรือข้าวแกงกะหรี่จากเมนูที่มีไว้ให้เลือกได้ และ Noodle Bar นี้ก็จะทำสดๆ มาให้ครับ อันนี้ถือว่าสุดมาก และอร่อยมากด้วย
![DSC00990](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00990-1024x682.jpg)
![DSC00988](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00988-1024x682.jpg)
![DSC00989](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00989-1024x682.jpg)
หรือถ้าไม่สั่งแบบทานสดๆ ก็จะมีบุฟเฟ่ต์ที่วางเอาไว้ให้บริการตัวเองอยู่แล้ว ทั้งข้าวปั้น ข้าวห่อสาหร่าย อาหารญี่ปุ่นแบบกรุบกริบ และอาหารหนัก เช่นพาสต้า และ มีตบอล
เครื่องดื่มนอกจากจะมีตัวเลือกหลากหลายในตู้เย็นแล้ว ที่ผมชอบมากคือเครื่องรินเบียร์ Asahi อัตโนมัติเครื่องนี้ ให้เราหยิบแก้วเปล่าที่ถูกแช่เย็นเอาไว้ในตู้เย็น มาวางที่เครื่องและกดปุ่มรินเบียร์ เครื่องจะทำการเอียงแก้ว และรินเบียร์ให้อัตโนมัติครับ ดีงามมากมาย
![DSC00986](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00986-1024x682.jpg)
จริงๆ Lounge แห่งนี้มีห้องอาบน้ำด้วยนะครับ ถ้ามีเวลามากพอ ก็สามารถขอใช้บริการห้องอาบน้ำได้ด้วยครับ นับว่าเป็น Lounge ที่มีความสะดวกสบายอย่างมากแห่งหนึ่งเลย
Boarding
![DSC00992](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00992-1024x682.jpg)
เมื่อถึงเวลา Boarding ซึ่งดูได้จากหน้าจอแสดงสถานะเที่ยวบินใน Lounge ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินมาที่เกตครับ การบินไทยเปิดให้ผู้โดยสาร Royal First, Royal Silk และสมาชิกบัตรทอง Star Alliance ขึ้นเครื่องได้ก่อนเลยตามสูตร
![DSC00995](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00995-1024x682.jpg)
มองออกไป เจอเจ้านกยักษ์ “มัญจาคีรี” รอที่จะพาเรากลับไปกรุงเทพมหานครอย่างสวยงามครับ ช่วงนี้ญี่ปุ่นเริ่มมืดเร็วแล้ว นี่ยังไม่หกโมงเย็น ก็แทบจะมืดสนิทราวกับสามทุ่ม
On Board
![DSC00997](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00997-1024x682.jpg)
ขากลับนี้ ผมเลือกที่นั่ง 12A ซึ่งเป็นที่นั่งแถวหน้าสุด ริมหน้าต่าง ของชั้น Royal Silk Class บนเครื่องบินนี้ครับ เรียกว่าเข้าประตูเครื่องมา ก็เจอที่นั่งเลย ที่นั่งตัวนี้ถือว่าส่วนตัวมากครับ เหมาะสำหรับใครที่เดินทางคนเดียว ขึ้นปุ๊บก็เจอที่นั่งไม่ต้องเดินไกล ตอนลงก็ได้ลงก่อนคนอื่นด้วย และ สังเกตว่าถ้าเป็นที่นั่ง A โต๊ะก็จะอยู่ริมทางเดินแทน ต่างจากเที่ยวบินขามาครับ
![DSC00998](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00998-1024x682.jpg)
การบริการรูปแบบใหม่ ถูกใช้บนเที่ยวบิน TG677 เช่นกันครับ ขึ้นมาก็จะเจอกับขนมในกล่องกระดาษสีทอง ผ้าเย็น และเครื่องดื่ม Welcome Drink ซึ่งรอบนี้มีการเปลี่ยนแชมเปญมาใช้ Veuve Clicquot Brut ที่พนักงานแจ้งว่าไม่ได้มีในเมนู
![DSC01002](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01002-1024x682.jpg)
เมนูอาหารแบบใหม่ หรือแบบ “สำรับอาหาร” ยังจัดเต็มเหมือนขามาครับ แต่จะเป็นคนละเมนูกันทั้งหมด สังเกตว่ามีให้เลือกเยอะมากๆๆๆ จนเลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียว
![DSC01003](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01003-1024x682.jpg)
กระเป๋า amenities ในเที่ยวบินนี้เป็นของ Samsonite ครับ ผมได้สีดำ (จริงๆ มีหลายสีมาก) แต่ของด้านในยังเป็นของชุดเดียวกับเที่ยวบินขามา คืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ บนเครื่องบิน พวกผ้าปิดตา ที่อุดหู แปรงสีฟัน โลชั่น ถุงเท้า ฯลฯ
![DSC01005](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01005-1024x682.jpg)
มองไปด้านหน้า ของที่นั่ง 12A ก็ประมาณนี้ครับ ส่วนตัวมากๆ
![DSC01006](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01006-1024x682.jpg)
Cheers! ดื่มตั้งแต่เครื่องบินยังไม่ออกเดินทางกันเลย
![DSC01011](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01011-1024x682.jpg)
![DSC01012](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01012-1024x682.jpg)
เมื่อเครื่องบินขึ้นทำระดับความสูงได้แล้ว พนักงานต้อนรับก็นำออเดิร์ฟมาเสิร์ฟครับ เป็นถั่วนานาชนิด (อีกแล้ว) พร้อมเครื่องดื่มที่มีให้เลือกเพิ่มเติม ที่พนักงานเอา “ชามะขาม” เย็นๆ มานำเสนอ รสชาติออกจะคล้ายๆ ชามะนาว แต่หอมหวานกว่า ถูกใจครับ
![DSC01031](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01031-1024x682.jpg)
จานเซอร์ไพร์สเรียกน้ำย่อย ที่ไม่มีในเมนู ถูกเสิร์ฟตามมาครับ ซึ่งผมจำไม่ได้จริงๆ ว่ามันเรียกว่าอะไร มีเป็นไข่ปลาแซลมอน และขนมปังกรอบๆ เข้ากันดีครับ
![DSC01033](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01033-1024x682.jpg)
สำรับอาหาร ซึ่งถือว่าเป็นอาหารจานหลักมื้อเย็น ในเที่ยวบินนี้ ผมเลือกรับเป็น พล่ากุ้ง, ต้มยำโป๊ะแตกทะเล, แกงเผ็ดเป็ดย่าง, ผัดมะระใส่ไข่ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และพริกน้ำปลา
![DSC01034](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01034-1024x682.jpg)
![DSC01035](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01035-1024x682.jpg)
![DSC01036](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01036-1024x682.jpg)
![DSC01037](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01037-1024x682.jpg)
ข้อสังเกตคือ อาหารในตัวเลือกของสำรับไทยนี้ จะยืนพื้นเป็นอาหารที่มีรสจัดเกือบทั้งหมดเลยครับ ใครที่ไม่ค่อยทานเผ็ดนี่อาจจะลำบากหน่อย แม้ว่าจะไม่ได้ถูกปรุงมาแบบเผ็ดจัด แต่ด้วยความที่มันเผ็ดทุกอย่าง เลยอาจจะขัดอกขัดใจหลายคนโดยเฉพาะฝรั่งที่ไม่คุ้นเคยกับรสอาหารไทยเหมือนกัน แต่โดยรวมแล้ว ต้องถือว่าปรุงมาได้อร่อยเลยนะครับ และให้ความรู้สึกว่ามันเป็นอาหารเครื่องบินน้อยลงกว่าเดิมเยอะ ด้วยรูปแบบการเสิร์ฟที่มาเป็นจานแยกกันแบบนี้
![DSC01039](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01039-1024x682.jpg)
ของหวานปิดท้ายมื้อนี้ เป็นเชอร์เบตส้ม เสิร์ฟมาในแก้วสวยงาม น่าทาน
![DSC01014](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01014-1024x682.jpg)
บนเครื่องบินแบบ Airbus A380 ของการบินไทยทุกลำ และ Airbus A330 บางลำ จะมีให้บริการ WiFI บนเครื่องบิน ในชื่อ THAI Sky Connect ด้วยนะครับ ซึ่งเพิ่งจะปรับราคาใหม่ไปเร็วๆ นี้เอง เริ่มต้นที่ 5MB ราคา $4.99 ไปจนถึง 30MB ราคา $24.99 ครับ
![DSC01040](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01040-1024x682.jpg)
หลังมื้อเย็นแล้ว ก็ได้เวลาเอนหลัง งีบเสียหน่อยครับ แกะผ้าห่ม และปรับที่นั่งเป็นท่านอนราบ 180 องศา เตรียมหลับได้เลย
![DSC01042](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01042-1024x682.jpg)
งีบไปได้สัก 2 ชั่วโมงครับ พอลุกมาได้นิดหน่อย พนักงานก็จะสังเกตและเดินมาถามว่าจะรับอะไร พร้อมเสนอตัวเลือกเป็นชามะลิ ที่มาจากไร่บุญรอด จ.เชียงราย ผมก็ขอรับมา หอมดีนะครับ
![DSC01043](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01043-1024x682.jpg)
ก่อนเครื่องลงได้ไม่นาน พนักงานก็นำเซอร์ไพร์สมาให้ปิดท้ายครับ เป็นช็อกโกแลตร้อน ที่โรยหน้าเป็นชื่อจริงของผม พร้อมโลโก้การบินไทย … ด้วยเหตุใดก็ไม่อาจทราบได้ แต่ได้ใจไปเต็มๆ จริงๆ
Suvarnabhumi Airport Arrival
![IMG_1355](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/IMG_1355-1024x768.jpg)
เมื่อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสาร Royal Silk Class สามารถมาใช้ช่องตรวจคนเข้าเมืองแบบ Fast Track ได้ครับ แต่เที่ยวบินนี้ ผมลงมาเห็นช่องปกติว่างโล่งไม่มีคน ก็เลยผ่านช่องตรวจแบบอัตโนมัติมา และมาถึงสายพานก่อนที่กระเป๋าจะถูกลำเลียงมาเสียอีก เลยต้องมายืนรอกระเป๋าที่สายพานอีกนานพอสมควร
Wrap Up
นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการบินไทยนะครับ ที่เล็งเห็นว่าต้องมีการปรับปรุงบริการ และอาหาร บนชั้นธุรกิจ Royal Silk Class เพื่อการแข่งขันกับสายการบินในกลุ่มเดียวกันได้ดียิ่งขึ้น และเริ่ม “ทดลอง” เปลี่ยนแปลงในบางเส้นทางเพื่อฟังเสียงตอบรับจากผู้โดยสารก่อน ที่แน่นอนว่า ความเปลี่ยนแปลงก็ต้องมีผลกระทบเรื่องต่างๆ ตามมา ทั้งเรื่องดีและไม่ดีปะปนกันไป
เรื่องที่ดีอย่างมาก และเห็นได้ชัดอย่างมาก คือคุณภาพของอาหารบนเครื่องบิน ที่มีการปรับปรุงทั้งหน้าตา (ที่ต้องยอมรับว่าอาหารชั้นธุรกิจก่อนปรับปรุง หน้าตาไม่ดีเท่าที่ควรนัก) และรสชาติ ที่ดีกว่าเดิมอย่างมาก รวมถึงมีตัวเลือกที่มากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แต่ก็มีผลกระทบตามมาหลายอย่าง คือ ตัวเลือกที่ผู้โดยสารต้องการอาจจะหมดได้ง่าย เพราะอาหารแต่ละอย่างถูกเตรียมขึ้นมาอย่างจำกัด ส่งผลต่ออารมณ์ของผู้โดยสารว่าไม่ได้ช้อยส์ที่ตัวเองต้องการแบบ 100%
![DSC00973](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC00973-1024x682.jpg)
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อระยะเวลาในการเสิร์ฟ ที่ผู้โดยสารต้องรออาหารนานกว่าปกติ เนื่องจากต้องเตรียมสำรับอาหารตามช้อยส์ของผู้โดยสารแต่ละคน จะเตรียมไว้ล่วงหน้าแบบเมื่อก่อนก็ไม่ได้ การเสิร์ฟแบบนี้ จึงช้ากว่าเดิมพอสมควรเลย รวมถึงจำนวนจานชามที่เยอะขึ้น การเก็บถาด เก็บจาน ก็อาจจะใช้เวลานานขึ้นตามลำดับด้วย กับไฟลต์ญี่ปุ่นซึ่งถือว่าไม่ได้ยาวนานมาก อาจทำให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนน้อยลงครับ (แต่ก็ยังดีที่ทั้ง TG676 และ TG677 ไม่ใช่ red-eye flight ที่ต้องเดินทางข้ามคืน)
สิ่งที่หายไปจากการเสิร์ฟแบบนี้ คือผมสังเกตว่าไม่มีเกลือ พริกไทย และไม้จิ้มฟันมาให้ เพราะไม่ได้มาเป็นถาดใหญ่ๆ เหมือนเดิมแล้ว จึงเป็นสิ่งที่ผู้โดยสารแต่ละท่านต้องขอเอง (ผมได้คอมเมนต์จุดนี้ไปบนเครื่องบินแล้ว และคาดว่าน่าจะปรับปรุงให้มีได้ไม่ยากนักในอนาคต)
การบริการจากพนักงานต้อนรับโดยรวม อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากๆ เลยครับ ผมยังคงยอมรับถึงคุณภาพของงานบริการในการบินไทยชั้นพรีเมียม ว่าไม่เป็นรองสายการบินอื่นๆ อยู่เช่นเดิม และไม่ได้มีข้อยกเว้นกับไฟลต์ล่าสุดที่ได้ใช้บริการครั้งนี้ด้วย
ใครสนใจทดลองบริการรูปแบบใหม่ของการบินไทย Royal Silk Class ตอนนี้มีให้บริการ 4 เที่ยวบินครับ คือ TG676 (BKK-NRT), TG677 (NRT-BKK), TG910 (BKK-LHR) และ TG911 (LHR-BKK) ซึ่งก็จะทดลองไปจนถึงสิ้นปีนี้ก่อน และถ้า feedback โดยรวมโอเค ปีหน้าก็จะถูกขยายไปยังเส้นทางอื่นๆ ต่อไปในอนาคตด้วยครับ
สนนราคาตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ-โตเกียว ในชั้น Royal Silk Class เริ่มต้นที่ประมาณ 64,000 บาท หรือถ้าใช้ไมล์ Royal Orchid Plus แลก ก็จะใช้ 75,000 ไมล์ บวกค่าภาษีสนามบินอีกประมาณ 9,000 บาทครับ
![DSC01038](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/11/DSC01038-1024x682.jpg)
- รีวิว First Class สายการบิน SWISS — ขั้นสุดของสวิส เส้นทาง Zurich-Bangkok
- พาเดินงาน AIX 2024 ✈️ — พรีวิวที่นั่งใหม่ การบินไทย Airbus A320 ก่อนใช้จริงสิ้นปีนี้
- รีวิว การบินไทย Royal First Class ปี 2024 — กรุงเทพ-ลอนดอน Boeing 777-300ER
- รีวิว Qatar Qsuite ปี 2024 — ยังเป็น Business Class ที่ดีที่สุดอยู่มั้ย?
- รีวิว ANA “The Suite” — First Class ใหม่ บน Boeing 777-300ER
- รีวิว Dassault Falcon 6X — พาบินไปสิงคโปร์ด้วย Private Jet ลำตัวกว้างสุดในโลก
- รีวิว EVA Air Business Class — ซีแอตเทิล-ไทเป Boeing 787-10
- รีวิวกระเป๋าเดินทาง Samsonite ใหม่ 3 รุ่น — ทน เท่ เบา ล้อดีจริง ฟังก์ชั่นครบ!
- เจาะลึก ATC — เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ อาชีพสำคัญในอุตสาหกรรมการบิน
- รีวิว Business Class สายการบิน Swiss — กรุงเทพ-ซูริค Boeing 777-300ER
- พาชม “SAT-1” เทอร์มินัลใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดแล้ววันนี้
- รีวิว Finnair Business Class ที่นั่งแบบใหม่ ใหญ่สบายมาก แต่ปรับเอนไม่ได้! 🤨
- สุดในรุ่น “ACH130 Aston Martin Edition” — เฮลิคอปเตอร์ Airbus ที่ตกแต่งโดย Aston Martin!
- รีวิว Shark Aero เครื่องบินสปอร์ตสายซิ่ง เร็ว แรง ทำสถิติบินเดี่ยวรอบโลกมาแล้ว
- รีวิว Emirates First Class ปี 2023 — บินสบาย อาบน้ำบนเครื่องบิน หรูสุดแบบไม่เกรงใจใคร
- รีวิว ANA 「THE Room」 Business Class แบบใหม่ล่าสุด กว้างสุด มีประตูทุกที่นั่ง
- รีวิวคู่ พาซู่ชิงขึ้น First Class – สายการบิน Cathay Pacific ไปนิวยอร์ก!
- พาเจาะลึก Airbus A330neo ลำใหม่ล่าสุดของ Thai Lion Air
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019
- รีวิว First Class สายการบิน Cathay Pacific นิวยอร์ก-ฮ่องกง ยาวๆ 16 ชั่วโมงรวด
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific นั่งไกลๆ ปรับปรุงเมนูใหม่ อาหารจัดเต็มสุดๆ
- รีวิว First Class สายการบิน Lufthansa พร้อมรีวิว First Class Terminal สนามบิน Frankfurt
- พาชม เจาะลึก Airbus A330neo รุ่นใหม่ล่าสุด ลำแรกของ Thai AirAsia X
- รีวิว Business Class สายการบิน EVA Air ไทเป-ซานฟรานซิสโก (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Business Class สายการบิน Hong Kong Airlines เครื่องบินใหม่ ราคาสุดคุ้ม
- รีวิว Business Class – Cathay Pacific บน Boeing 777-300ER เส้นทาง SFO-HKG
- รีวิว Business Class บน Boeing 787-10 ใหม่ล่าสุด สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่เหมือน First Class เป็นห้องส่วนตัว ปิดประตูได้!
- บุกศูนย์ฝึกลูกเรือ Singapore Airlines ชมเบื้องหลังเที่ยวบินที่ไกลที่สุดในโลก!
- รีวิว Royal First Class การบินไทย บน Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน
- 6 ความลับของ Economy Class รู้แล้วจะนั่งสบายขึ้นอีกเยอะ!
- รีวิว ‘Throne Seat’ ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย
- รีวิวสุดยอด First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด บน Singapore Airlines A380
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific กรุงเทพฯ – ฮ่องกง
- รีวิว Emirates First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด – First Class แรกของโลกที่เป็นห้องปิด 100%
- รีวิว ‘Premium Economy’ การบินไทย ดีงามไม่ต่างจาก Business Class
- รีวิว Premium Flatbed ชั้นธุรกิจ สายการบิน Thai AirAsia X
- รีวิว ห้องอาบน้ำบนเครื่องบิน Emirates First Class – Airbus A380
- รีวิว ANA Premium Economy ชั้นประหยัดพรีเมียม นั่งสบาย ในราคาไม่โหดร้าย
- พาชมโรงงาน Boeing พร้อมพา Boeing 787-9 ลำใหม่ของการบินไทยกลับสุวรรณภูมิ
- รีวิว Emirates First Class Suites ห้องส่วนตัวสุดหรูบนเครื่องบิน
- รีวิว First Class สายการบิน Korean Air แบบใหม่ล่าสุดบน Boeing 777-300ER
- พรีวิว! ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย บน Boeing 787-9
- รีวิว Prestige Suites ที่นั่ง Business Class แบบใหม่บนสายการบิน Korean Air
- การบินไทย มีที่นั่ง Business Class แบบไหนบ้าง? + วิธีจองให้ได้ที่นั่งแบบใหม่
- รีวิว ScootBiz สายการบิน NokScoot เส้นทางดอนเมือง-ไทเป ที่นั่งกว้าง ราคาเบา
- รีวิว First Class แบบใหม่ของ Singapore Airlines – Boeing 777-300ER
- รีวิว “The Private Room” โคตรเลานจ์ของสนามบิน Singapore Changi
- รีวิวไฟลต์สุดน่ารัก เครื่องบิน “Gudetama” ไข่ขี้เกียจ ลำเดียวในโลก
- รีวิว การบินไทย Royal Silk Class บน Airbus A350-900 XWB รุ่นล่าสุด
- รีวิว Etihad ‘Business Studio’ ชั้นธุรกิจที่ไม่มีความทัดเทียม (B77W/A380)
- รีวิว United Polaris Business Class ชั้นธุรกิจรูปแบบใหม่ของ UA
- รีวิว First Class สายการบิน ANA สุดยอดความหรูหราแบบญี่ปุ่น
- รีวิว First Class Suite สายการบิน Asiana หรู เนี๊ยบ สไตล์เกาหลี
- รีวิว Business Class บน A380 สายการบิน Emirates
- รีวิว ชั้น Smile Plus (ชั้นประหยัดพรีเมียม) สายการบินไทยสมายล์
- รีวิว Lufthansa Business Class บน Boeing 747-8I
- รีวิว Etihad First Class “Apartment” ที่สุดของการเดินทางในชั้นเฟิร์สคลาส
- เจาะลึก การบินไทย Boeing 787-8 Dreamliner เครื่องบินที่ไฮเทคที่สุดในฝูงบินปัจจุบัน
- รีวิว Business Class บน Airbus A380 สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางโตเกียว-ซานฟรานฯ (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Royal Silk Class บนการบินไทย Boeing 787 Dreamliner
- รีวิว United Business First Class บน Boeing 787-8 Dreamliner
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว (Boeing 777-200ER)
- รีวิว การบินไทย ชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ใหม่ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการบินไทย
- รีวิว Business Class สายการบิน Austrian เส้นทางกรุงเทพ-เวียนนา
- รีวิว การบินไทย Royal First Class เส้นทางกรุงเทพ-แฟรงก์เฟิร์ต
- รีวิว Royal Laurel Class สายการบิน EVA Air เส้นทางไทเป-ซานฟรานซิสโก
- รีวิว เครื่องบินที่มุ้งมิ้งกระดิ่งแมวที่สุดในโลก Hello Kitty Jet
- รีวิว Royal First Class บนการบินไทย Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว