รีวิววันนี้ ผมพาไปขึ้นชั้นธุรกิจ Premium Flatbed สายการบินต้นทุนต่ำอย่าง Thai AirAsia X ครับ ที่ตั้งใจจะเขียนรีวิวมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้เขียนสักที ขึ้นปีใหม่ 2018 มา มีโอกาสได้ขึ้นก่อนเลยไฟลต์นึง เลยไม่พลาดที่จะเอามาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านกันครับ
Disclosure: บทความนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง
สายการบิน Thai AirAsia X เป็นสายการบินระยะไกลต้นทุนต่ำ (Long-haul Low-cost) ที่เกิดจากความร่วมกันของ “AirAsia X” จากมาเลเซีย กับ “Thai AirAsia” เริ่มบินในปี 2014 ปัจจุบันทำการบินจากสนามบินดอนเมือง ไปยังสนามบินโตเกียวนาริตะ (NRT), โอซาก้า (KIX), โซล (ICN) และเซี่ยงไฮ้ (PVG) โดยใช้เครื่องบินแบบ Airbus A330-300 ทั้งหมด มีเครื่องบิน 6 ลำ และอยู่ในขั้นตอนการสั่งซื้อมาเพิ่มอีก 4 ลำครับ
แม้ว่า Thai AirAsia X จะเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ แต่ก็เลือกที่จะทำชั้นธุรกิจเอาไว้ด้วย โดยใช้ชื่อเรียกว่า Premium Flatbed แต่อย่าเข้าใจผิดไปว่ามันคือที่นั่งแบบนอนราบ 180 องศานะครับ เพราะมันเป็นที่นั่งแบบปรับเอนได้แค่เกือบราบเท่านั้น เหมือนกับเก้าอี้ Business Class ของการบินไทยรุ่นเก่าๆ นั่นเอง จัดวางที่นั่งแบบ 2-2-2 อยู่หน้าสุดของเครื่องบินแค่จำนวน 2 แถว (รวม 12 ที่นั่ง) เท่านั้น
ไฟลต์วันนี้ ผมจะพาไปขึ้น Premium Flatbed จากดอนเมือง ไปโตเกียวนาริตะกันครับ
Flight: XJ600
Route: DMK-NRT
Date: 4 Jan 2018
Departure Time: 23:45
Arrival Time: 08:00 (+1)
Duration: 6 hr 15 mins
Seat: 2D
Class: Premium Flatbed
Aircraft: Airbus A330-300
Registration: HS-XTA
Check-in
ขั้นตอนการเช็กอินที่สนามบินดอนเมือง ค่อนข้างน่ากลัวสำหรับผู้โดยสารหลายๆ คนนะครับ เพราะปริมาณผู้โดยสารที่แออัดมาก เรามักจะเจอกับคิวยาวเหยียดเพื่อรอเช็กอินตามเคาน์เตอร์ของสายการบินต่างๆ อยู่เป็นประจำ และไฟลต์ที่ผมจะเดินทางนี้ก็เช่นกันครับ แม้ว่าผมจะเดินทางมาถึงสนามบินก่อนเวลาถึง 3 ชั่วโมง แต่แถวที่รอเช็กอินก็ยาวจนล้นจากที่กั้นแถวปกติออกมาไกลแล้ว
Thai AirAsia X แยกเคาน์เตอร์สำหรับผู้โดยสาร Premium Flatbed เอาไว้ครับ โดยมีพรมแดงเป็นเอกลักษณ์อยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ สามารถมาเช็กอินที่เคาน์เตอร์นี้ได้เลยโดยที่ไม่ต้องไปต่อคิวรวมกับผู้โดยสารในชั้นปกติ ซึ่งดูแล้วน่าจะประหยัดเวลาต่อคิวไปได้อย่างน้อยๆ 45 นาทีเลยครับ
เจ้าหน้าที่เช็กอิน จะติดแท็ก Xpress Bag ให้ที่กระเป๋าโหลดด้วย เพื่อที่จะได้รับกระเป๋าก่อนเมื่อถึงที่หมาย ซึ่งเดี๋ยวจะแสดงให้ดูตอนท้ายรีวิวครับ
หน้าตาของ boarding pass จะเหมือนกับไฟลต์ AirAsia ปกติเลยนะครับ พิมพ์ใส่กระดาษอ่อนมาแบบนี้เลย
Boarding
Thai AirAsia X แม้ว่าจะเป็นชั้น Flatbed แต่ก็ไม่มีเลานจ์ให้บริการนะครับ ผมแนะนำว่า ใครที่เดินทางในชั้น Flatbed ไม่ต้องเผื่อเวลาล่วงหน้ามากนัก เพราะเข้ามาก่อนก็ไม่มีเลานจ์ให้ใช้อยู่ดี (ยกเว้นจะมีบัตรสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่สามารถเข้าใช้เลานจ์ได้ เช่นพวก Priority Pass) ถึงเวลาก็ไปนั่งรอหน้าเกตครับ
พอเริ่มทำการบอร์ดดิ้ง เจ้าหน้าที่จะเรียกผู้โดยสารใน Zone 1 ซึ่งก็คือ Premium Flatbed ขึ้นเครื่องก่อนเป็นลำดับแรกครับ
On-board
ขึ้นเครื่องมา จะเจอกับที่นั่ง Premium Flatbed อยู่หน้าสุดของเครื่องบิน แถว 1 และ 2 จัดเรียงแบบ 2-2-2 โดยที่ผู้โดยสารที่นั่งริมหน้าต่าง ต้องปีนข้ามผู้โดยสารคนข้างๆ ถึงจะออกมาที่ทางเดินได้
ผมเลือกที่นั่ง 2D มาตั้งแต่ทำการจองครับ ติดทางเดิน และไม่ต้องหลบให้ใคร ที่นั่งเครื่องบินแบบ 2-2-2 หากเดินทางคนเดียว ผมมักจะเลือกที่นั่งตรงกลางเสมอครับ ที่นั่ง Premium Flatbed ของ Thai AirAsia X ตกแต่งด้วยโทนสีดำ สลับสีแดงสดๆ ดูสวยงามครับ ลักษณะเก้าอี้เป็นเหมือนกับที่นั่ง Business Class แบบเก่าของการบินไทย (1st Gen Angle Flat) บนที่นั่งมีหมอนสีแดงวางไว้ให้ 1 ใบ
ด้านหน้า ไม่มีหน้าจอความบันเทิงนะครับ และไม่มีชุด amenity ใดๆ ให้ทั้งสิ้น
ในช่องเก็บของข้างที่นั่ง ทาง Thai AirAsia X วางขวดน้ำดื่มไว้ให้ 1 ขวดตั้งแต่แรกเลยครับ และสามารถขอเพิ่มได้เรื่อยๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ปุ่มปรับที่นั่ง แบ่งปรับเป็นสองส่วน คือปรับเอน กับปรับบริเวณที่วางเท้าครับ มาพร้อมกับปุ่มทางลัดที่สามารถปรับขึ้นมาเป็นที่นั่งตรงได้อย่างรวดเร็ว, ตำแหน่ง relax และตำแหน่งปรับเอนนอนจนสุด
บริเวณด้านล่างของโต๊ะที่คั่นระหว่างสองที่นั่ง จะมีปลั๊กแบบ Universal มาให้ด้วย สามารถใช้เสียบชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ได้ตลอดไฟลต์
ก่อนออกเดินทาง พนักงานต้อนรับจะเข้ามาแนะนำตัว พร้อมบอกชื่อของเราได้อย่างถูกต้อง และทวนตัวเลือกของอาหารที่เราได้สั่งเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ทำการจอง (ในชั้น Premium Flatbed นี้ จะแถมชุดอาหารให้ฟรี และเลือกเมนูได้ล่วงหน้าตั้งแต่ตอนซื้อตั๋วเลย) และถามว่าต้องการให้เสิร์ฟหลังจากเครื่องขึ้นเลย หรือจะเสิร์ฟในช่วงก่อนถึงที่หมายปลายทาง อันนี้ผู้โดยสารแต่ละคนสามารถเลือกได้เองตามสะดวกเลยครับ ผมเห็นว่าดึกมากแล้ว จึงเลือกให้เสิร์ฟก่อนเครื่องจะถึงโตเกียวดีกว่า
มีผ้าเย็นแจกให้ด้วยนะครับ ผืนเล็กกะทัดรัด บางเฉียบ เย็นเฉียบ
เมื่อเครื่องขึ้นแล้ว พนักงานต้อนรับจะเดินมาแจกผ้าห่มให้ครับ เป็นผ้าห่มนวมแบบบางๆ สีแดงสด และสภาพก็เริ่มมีขุยขึ้นมากพอสมควรแล้ว แต่ก็อุ่นสบายดีครับ หมอนที่ให้มาก็ใบใหญ่ใช้ได้เลย รวมๆ ถือว่าให้ความสบายได้โอเคเลยนะครับ แม้ว่าที่นั่งแบบนี้จะปรับเอนไม่ได้ราบ 180 องศาก็ตาม ปรับสุดแล้วก็จะเฉียงๆ หน่อย
ลุกไปสำรวจห้องน้ำบ้างครับ ไซส์เล็ก แต่ก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ครบนะครับ มีกระดาษรองนั่งมาให้ด้วย (ซึ่งในไฟลต์ AirAsia ปกติจะไม่มีให้) และที่สำคัญคือ สะอาดมากครับ อาจจะเป็นเพราะห้องน้ำห้องนี้ใช้งานกันแค่ชั้น Premium Flatbed 12 ที่นั่ง บวกกับนักบินเท่านั้น พนักงานต้อนรับเลยดูแลได้สะอาดทั่วถึง
ถึงเวลาเสิร์ฟอาหารครับ ผมสั่งข้าวอบไก่ย่างเอาไว้ล่วงหน้า และนี่คือหน้าตาของมัน (เราก็ลืมๆ คำว่าชั้นธุรกิจกันไปเลยทีเดียว เมื่อได้เห็นหน้าตา) เสิร์ฟมาพร้อมชุดช้อนส้อมพลาสติก และทิชชู่
แกะออกมา หน้าตาแบบนี้ ส่วนรสชาติก็ปานกลางๆ ครับ ไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่ได้อร่อยมาก ถ้าใครเคยสั่งอาหารหรือซื้ออาหารบนไฟลต์ AirAsia ก็ประมาณนั้นเลยครับ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
เมื่อถึงที่หมายแล้ว ที่สนามบินนาริตะ จะมีเจ้าหน้าที่แยกเอากระเป๋าของผู้โดยสารในชั้น Premium Flatbed ออกมาวางให้ข้างๆ สายพานเลยครับ (ระบบเดียวกับกระเป๋า First Class ของสายการบินอื่นๆ เวลามาลงที่นาริตะเลยนะครับเนี่ย) และตามสไตล์ของสนามบินญี่ปุ่น คือกระเป๋าออกมาไวมากครับ แทบจะไม่ต้องรอเลย
สรุป
Thai AirAsia X ทำได้ตอบโจทย์สายการบินในกลุ่ม Long-haul Low-cost อย่างมาก และเป็นหนึ่งในสายการบินยอดนิยมในเส้นทางต่างประเทศทั้งโตเกียว โอซาก้า โซล และเซี่ยงไฮ้ ด้วยราคาที่ย่อมเยากว่าสายการบินแบบ full service ค่อนข้างมากครับ และพอมีตัวเลือกของชั้น Premium Flatbed ด้วย ก็มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น เพราะในหลายช่วงเวลา ก็มีการขายตั๋วในชั้น Premium Flatbed ได้แบบย่อมเยามากๆ เช่นกัน
อย่างที่ผมแสดงให้เห็นในรีวิวไปนะครับ ว่า Premium Flatbed ของ Thai AirAsia X นี้มีดีที่เก้าอี้นั่งสบายแหละครับ เช่น ไฟลต์การเดินทางญี่ปุ่น ยาวสุดก็ 6 ชั่วโมง ข้ามคืนแป๊บเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว การได้เก้าอี้ที่นั่งสบาย ปรับเอนนอนได้ ก็ถือว่าเป็นการเดินทางที่ได้พักผ่อนแบบโอเคเลย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน (นอน) บนเครื่องอย่างแท้จริง เพราะไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำครับ ไม่มีหน้าจอความบันเทิงใดๆ และไม่ได้มีอาหารที่แฟนซีเหมือนกับ Business Class ของสายการบิน full service ทั่วไปด้วย
ชั้น Premium Flatbed ของ Thai AirAsia X นี่ผมอยากแนะนำอย่างนี้ครับ คือถ้าสามารถซื้อในช่วงโปรโมชั่น หรือซื้อได้ในราคาย่อมเยาจริงๆ ถึงจะคุ้มค่าน่าคบหา และอยากให้คิดราคาว่าเป็นชั้น Premium Economy มากกว่าเป็น Business Class นะครับ หากเราสามารถหาตั๋ว Premium Flatbed นี้ได้ในราคาพอๆ กันกับ Economy หรือแพงกว่า Economy ของสายการบิน Full Service เล็กน้อย ผมว่าคุ้มค่ามากอยู่ แต่หากช่วงไหนราคาพุ่งขึ้นไปเกือบชน Business Class แล้ว ก็ถอยดีกว่าครับ
พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ
บทความโดย:
อู๋ spin9
- รีวิว First Class สายการบิน SWISS — ขั้นสุดของสวิส เส้นทาง Zurich-Bangkok
- พาเดินงาน AIX 2024 ✈️ — พรีวิวที่นั่งใหม่ การบินไทย Airbus A320 ก่อนใช้จริงสิ้นปีนี้
- รีวิว การบินไทย Royal First Class ปี 2024 — กรุงเทพ-ลอนดอน Boeing 777-300ER
- รีวิว Qatar Qsuite ปี 2024 — ยังเป็น Business Class ที่ดีที่สุดอยู่มั้ย?
- รีวิว ANA “The Suite” — First Class ใหม่ บน Boeing 777-300ER
- รีวิว Dassault Falcon 6X — พาบินไปสิงคโปร์ด้วย Private Jet ลำตัวกว้างสุดในโลก
- รีวิว EVA Air Business Class — ซีแอตเทิล-ไทเป Boeing 787-10
- รีวิวกระเป๋าเดินทาง Samsonite ใหม่ 3 รุ่น — ทน เท่ เบา ล้อดีจริง ฟังก์ชั่นครบ!
- เจาะลึก ATC — เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ อาชีพสำคัญในอุตสาหกรรมการบิน
- รีวิว Business Class สายการบิน Swiss — กรุงเทพ-ซูริค Boeing 777-300ER
- พาชม “SAT-1” เทอร์มินัลใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดแล้ววันนี้
- รีวิว Finnair Business Class ที่นั่งแบบใหม่ ใหญ่สบายมาก แต่ปรับเอนไม่ได้! 🤨
- สุดในรุ่น “ACH130 Aston Martin Edition” — เฮลิคอปเตอร์ Airbus ที่ตกแต่งโดย Aston Martin!
- รีวิว Shark Aero เครื่องบินสปอร์ตสายซิ่ง เร็ว แรง ทำสถิติบินเดี่ยวรอบโลกมาแล้ว
- รีวิว Emirates First Class ปี 2023 — บินสบาย อาบน้ำบนเครื่องบิน หรูสุดแบบไม่เกรงใจใคร
- รีวิว ANA 「THE Room」 Business Class แบบใหม่ล่าสุด กว้างสุด มีประตูทุกที่นั่ง
- รีวิวคู่ พาซู่ชิงขึ้น First Class – สายการบิน Cathay Pacific ไปนิวยอร์ก!
- พาเจาะลึก Airbus A330neo ลำใหม่ล่าสุดของ Thai Lion Air
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019
- รีวิว First Class สายการบิน Cathay Pacific นิวยอร์ก-ฮ่องกง ยาวๆ 16 ชั่วโมงรวด
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific นั่งไกลๆ ปรับปรุงเมนูใหม่ อาหารจัดเต็มสุดๆ
- รีวิว First Class สายการบิน Lufthansa พร้อมรีวิว First Class Terminal สนามบิน Frankfurt
- พาชม เจาะลึก Airbus A330neo รุ่นใหม่ล่าสุด ลำแรกของ Thai AirAsia X
- รีวิว Business Class สายการบิน EVA Air ไทเป-ซานฟรานซิสโก (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Business Class สายการบิน Hong Kong Airlines เครื่องบินใหม่ ราคาสุดคุ้ม
- รีวิว Business Class – Cathay Pacific บน Boeing 777-300ER เส้นทาง SFO-HKG
- รีวิว Business Class บน Boeing 787-10 ใหม่ล่าสุด สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่เหมือน First Class เป็นห้องส่วนตัว ปิดประตูได้!
- บุกศูนย์ฝึกลูกเรือ Singapore Airlines ชมเบื้องหลังเที่ยวบินที่ไกลที่สุดในโลก!
- รีวิว Royal First Class การบินไทย บน Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน
- 6 ความลับของ Economy Class รู้แล้วจะนั่งสบายขึ้นอีกเยอะ!
- รีวิว ‘Throne Seat’ ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย
- รีวิวสุดยอด First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด บน Singapore Airlines A380
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific กรุงเทพฯ – ฮ่องกง
- รีวิว Emirates First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด – First Class แรกของโลกที่เป็นห้องปิด 100%
- รีวิว ‘Premium Economy’ การบินไทย ดีงามไม่ต่างจาก Business Class
- รีวิว Premium Flatbed ชั้นธุรกิจ สายการบิน Thai AirAsia X
- รีวิว ห้องอาบน้ำบนเครื่องบิน Emirates First Class – Airbus A380
- รีวิว ANA Premium Economy ชั้นประหยัดพรีเมียม นั่งสบาย ในราคาไม่โหดร้าย
- พาชมโรงงาน Boeing พร้อมพา Boeing 787-9 ลำใหม่ของการบินไทยกลับสุวรรณภูมิ
- รีวิว Emirates First Class Suites ห้องส่วนตัวสุดหรูบนเครื่องบิน
- รีวิว First Class สายการบิน Korean Air แบบใหม่ล่าสุดบน Boeing 777-300ER
- พรีวิว! ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย บน Boeing 787-9
- รีวิว Prestige Suites ที่นั่ง Business Class แบบใหม่บนสายการบิน Korean Air
- การบินไทย มีที่นั่ง Business Class แบบไหนบ้าง? + วิธีจองให้ได้ที่นั่งแบบใหม่
- รีวิว ScootBiz สายการบิน NokScoot เส้นทางดอนเมือง-ไทเป ที่นั่งกว้าง ราคาเบา
- รีวิว First Class แบบใหม่ของ Singapore Airlines – Boeing 777-300ER
- รีวิว “The Private Room” โคตรเลานจ์ของสนามบิน Singapore Changi
- รีวิวไฟลต์สุดน่ารัก เครื่องบิน “Gudetama” ไข่ขี้เกียจ ลำเดียวในโลก
- รีวิว การบินไทย Royal Silk Class บน Airbus A350-900 XWB รุ่นล่าสุด
- รีวิว Etihad ‘Business Studio’ ชั้นธุรกิจที่ไม่มีความทัดเทียม (B77W/A380)
- รีวิว United Polaris Business Class ชั้นธุรกิจรูปแบบใหม่ของ UA
- รีวิว First Class สายการบิน ANA สุดยอดความหรูหราแบบญี่ปุ่น
- รีวิว First Class Suite สายการบิน Asiana หรู เนี๊ยบ สไตล์เกาหลี
- รีวิว Business Class บน A380 สายการบิน Emirates
- รีวิว ชั้น Smile Plus (ชั้นประหยัดพรีเมียม) สายการบินไทยสมายล์
- รีวิว Lufthansa Business Class บน Boeing 747-8I
- รีวิว Etihad First Class “Apartment” ที่สุดของการเดินทางในชั้นเฟิร์สคลาส
- เจาะลึก การบินไทย Boeing 787-8 Dreamliner เครื่องบินที่ไฮเทคที่สุดในฝูงบินปัจจุบัน
- รีวิว Business Class บน Airbus A380 สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางโตเกียว-ซานฟรานฯ (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Royal Silk Class บนการบินไทย Boeing 787 Dreamliner
- รีวิว United Business First Class บน Boeing 787-8 Dreamliner
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว (Boeing 777-200ER)
- รีวิว การบินไทย ชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ใหม่ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการบินไทย
- รีวิว Business Class สายการบิน Austrian เส้นทางกรุงเทพ-เวียนนา
- รีวิว การบินไทย Royal First Class เส้นทางกรุงเทพ-แฟรงก์เฟิร์ต
- รีวิว Royal Laurel Class สายการบิน EVA Air เส้นทางไทเป-ซานฟรานซิสโก
- รีวิว เครื่องบินที่มุ้งมิ้งกระดิ่งแมวที่สุดในโลก Hello Kitty Jet
- รีวิว Royal First Class บนการบินไทย Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว