สวัสดีคุณผู้อ่านครับ รีวิวนี้ผมตื่นเต้นมากที่จะพาทุกคนไปขึ้น Suites Class แบบใหม่ล่าสุดของ Singapore Airlines บน Airbus A380 ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ และมีเสียงฮือฮาตั้งแต่ช่วงเปิดตัว เพราะทาง Singapore Airlines จัดเต็มมากๆ ชนิดที่เป็นการยกระดับ First Class ของอุตสาหกรรมขึ้นไปอีกขั้นเลยทีเดียว
Disclosure: บทความนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง
Singapore Airlines (SQ) เป็นสายการบินที่ขึ้นชื่อในการทำชั้นโดยสารระดับพรีเมียม ทั้ง Business Class และ First Class ได้อย่างหรูหรามาโดยตลอดครับ และได้รับรางวัลมาต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเครื่องบินแบบ Airbus A380-800 ซึ่ง Singapore Airlines เป็นสายการบินแรกในโลกที่ได้ใช้เครื่องบินรุ่นนี้ในปี 2007 และได้แยกชั้น First Class บน Airbus A380 ออกมาใช้ชื่อ Suites Class ด้วยครับ
จากวันนั้น ผ่านไปนานถึง 10 ปี ล่าสุด Singapore Airlines ได้ประกาศเปิดตัว Suites Class แบบใหม่ ที่ได้เริ่มใช้บน Airbus A380 ลำใหม่ๆ ที่ได้รับมอบมาเพิ่มเติม อัปเกรดทุกสิ่งทุกอย่างให้หรูหราเหนือระดับมากๆ ลดจำนวนที่นั่งจากเดิม 12 ที่ เหลือเพียงแค่ 6 ที่นั่ง กว้างขวางอลังการแบบสุดๆ ซึ่งผมจะพาคุณผู้อ่านทุกท่าน ไปชมกันอย่างละเอียดเลยครับ
Suites Class แบบใหม่ของ Singapore Airlines จัดเรียงที่นั่งแบบ 1-1 จำนวน 3 แถว (ใช่ครับ 1 แถว มีแค่ 2 ที่นั่งเท่านั้น บนเครื่องบินที่กว้างใหญ่สุดๆ แบบ Airbus A380 นี่แหละ) ตั้งอยู่ชั้นบน หน้าสุดของเครื่องบิน ทุกห้องมีประตูปิดได้เพื่อความเป็นส่วนตัว และแถวที่ 1 กับ 2 สามารถเอาฉากกั้นระหว่างห้องลงได้ด้วย เพื่อขยายจากห้อง Suites ธรรมดา เป็นห้อง Double Suites ที่อลังการกันแบบสุดๆ ไปเลยครับ
รับชมแบบวิดีโอ
เที่ยวบินวันนี้ ผมพาทุกท่านเดินทางจากสนามบินสิงคโปร์ ไปยังนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมงครึ่งครับ
Flight: SQ221
Route: SIN-SYD
Date: 11 Jul 2018
Departure Time: 20:20
Arrival Time: 05:55 (+1)
Duration: 7 hr 35 mins
Seat: 2A
Class: Suites Class
Aircraft: Airbus A380-800
Registration: 9V-SKY
Check-in
ถ้าใครจะเดินทางด้วย Singapore Airlines บนชั้น First Class หรือ Suites Class นี่ผมแนะนำให้เริ่มเดินทางจากสนามบินสิงคโปร์ ชางงีครับ เพราะ Singapore Airlines เจ้าถิ่น จะมีห้องสำหรับเช็คอินแยกต่างหากสำหรับผู้โดยสาร First/Suites โดยเฉพาะ (ถ้าสนามบินอื่น จะมีแค่เคาน์เตอร์แยกออกมา) แถมยังได้รับสิทธิ์ในการใช้เลานจ์พิเศษที่ชื่อ ‘The Private Room’ ด้วย
Boarding pass ของ Suites Class มาเป็นแถบสีทอง หรูหรามากครับ (ถ้าเป็น First Class จะเป็นสีแดง) พร้อมบัตรเข้าใช้ The Private Room
ในห้องเช็คอินนี้ แน่นอนว่า exclusive มากๆ เพราะแทบไม่มีผู้โดยสารคนอื่นเลย แต่มีพื้นที่กว้างใหญ่หลายเคาน์เตอร์ และใช้เวลาน้อยมากในการเช็คอิน จนผมไม่แน่ใจว่าจะทำห้องใหญ่ขนาดนี้ไว้ทำไม 555 เพราะทุกคนเมื่อเช็คอินเสร็จแล้ว ก็อยากจะเข้าไปใช้บริการในเลานจ์ที่มีอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า
เมื่อเช็คอินเรียบร้อย ผู้โดยสาร First/Suites ของ Singapore Airlines จะได้รับสิทธิ์ในการผ่าน ตม. ช่องพิเศษ ที่อยู่ตรงกับทางเข้าของห้องเช็คอิน First Class นี้ด้วยครับ
‘The Private Room’ Lounge, Singapore Changi Airport Terminal 3
ผู้โดยสาร First/Suites ของ Singapore Airlines จะได้รับเชิญให้ใช้เลานจ์พิเศษ ที่ชื่อ The Private Room ครับ ซึ่งเป็น “เลานจ์ในเลานจ์” อีกทีนึง ต้องเดินผ่านเลานจ์ของ Business Class และ First Class ปกติก่อน จึงจะเข้าไปถึงเลานจ์ ‘The Private Room’ ครับ เลานจ์นี้ให้เฉพาะผู้โดยสารของ Singapore Airlines ใช้ ถ้าบิน First Class ของสายการบินอื่น จะได้ใช้เฉพาะเลานจ์ First Class ปกติ ที่ตกแต่ง และ เสิร์ฟอาหารเครื่องดื่มแตกต่างกัน
ผมพุ่งตรงมาที่โซนห้องอาหารก่อนครับ พนักงานต้อนรับนำเมนูอาหารกับเครื่องดื่มมาให้สั่ง ซึ่งพอดูเมนูก็ตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะเสิร์ฟแบบจัดเต็มมากๆ ตัวเลือกเยอะ และปรุงใหม่ทุกจาน ส่วนเครื่องดื่มก็มาเต็มครับ แชมเปญนี่เสิร์ฟ Dom Pérignon 2009 เลยทีเดียว นี่น่าจะเป็นเพียงเลานจ์สนามบินเพียงแห่งเดียว ที่เสิร์ฟ Dom Pérignon ครับ
The Private Room มีขนาดใหญ่มาก และส่วนตัวมากสมชื่อครับ มีโซนนั่งเล่นหลายมุม ทีวีขนาดใหญ่ ส่วนห้องน้ำ ก็มีห้องอาบน้ำในตัว คนน้อยมาก ดีงามมากๆ ครับ
อ่าน >> รีวิว “The Private Room” โคตรเลานจ์ของสนามบิน Singapore Changi
Boarding
เมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่อง พนักงานจะเดินมาแจ้งเวลาครับ ซึ่งต้องเผื่อเวลาเล็กน้อยเนื่องจากสนามบินสิงคโปร์ ใช้ระบบการ x-ray ที่หน้าเกต และไม่มีช่อง priority สำหรับผู้โดยสารชั้นพรีเมียมครับ แต่เมื่อ x-ray เสร็จแล้ว ก็สามารถขึ้นเครื่องได้จากช่องพิเศษที่สายการบินแยกเอาไว้ให้ ระบุชั้น Suites Class ชัดเจน
On-board
เอาล่ะครับ ขึ้นเครื่องมาพร้อมแสดงบัตรที่นั่ง Suites Class ก็จะเจอกับพนักงานต้อนรับที่เป็นกันเองมากๆ พาผมมายังห้อง Suites 2A ที่ได้จองไว้ ถึงตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก
ในห้อง Suites แบบใหม่นี้ จะมีที่นั่งขนาดใหญ่ แยกออกมาจากส่วนของเตียงนอน (ที่พับไว้อยู่) พื้นที่ในห้องกว้างมากๆ มุมหนึ่งเป็นโต๊ะทานอาหารที่พับไว้ ส่วนอีกมุมเป็นทีวีขนาด 32 นิ้ว
มาดูที่เก้าอี้ก่อนครับ เป็นเก้าอี้หนัง Poltrona Frau มีหมอนขนาดใหญ่วางไว้ให้ โดยเก้าอี้ตัวนี้สามารถปรับเอนได้สูงสุด 45 องศา และกดหมุนได้รอบๆ ตามองศาที่เราต้องการ (เช่นหมุนมาหาโต๊ะทานอาหาร หรือหมุนไปหาทีวี)
ด้านข้าง ริมหน้าต่าง จะเป็นโต๊ะเล็กๆ พร้อมช่องเก็บของ ที่มีกระจกแต่งหน้า และไฟแต่งหน้ามาให้ พร้อมหูฟังแบบ Noise Cancellation ของ Bose
แท็บเล็ตตัวนี้ สามารถถอดจากแท่นออกมาถือเพื่อควบคุมหน้าจอความบันเทิงได้ครับ ใช้บอกข้อมูลเที่ยวบิน ใช้กดเรียกพนักงานได้แบบสะดวกสบาย
ปุ่มควบคุมไฟภายใน Suites (มีไฟให้เลือกเปิด/ปิดหลายตำแหน่งมากๆ ครับ) และปุ่มควบคุมหน้าต่าง พร้อมปุ่มเรียกพนักงาน กับเปิดไฟ Do Not Disturb เรียงรายกันอยู่บริเวณนี้
ด้านล่างเป็นตำแหน่งของปลั๊กไฟแบบ Universal และช่องเสียบ HDMI สำหรับนำคอนเทนต์ไปออกจอทีวีใหญ่ โดยในห้อง Suites นี้จะมีปลั๊กไฟมาให้ 2 ตำแหน่งเลยนะครับ อีกตำแหน่งจะอยู่ด้านหลังของเก้าอี้
เข้าไปนั่งแล้วก็จะอลังการประมาณนี้ครับ ช่วงก่อนเครื่องขึ้นและลง เก้าอี้จะต้องหันไปด้านหน้าของตัวเครื่องแบบนี้
หันมาอีกด้านจะเจอทีวี ขนาด 32 นิ้ว รองรับระบบสัมผัส (แต่ห้องกว้างมาก ถ้านั่งอยู่ เราจะเอื้อมไปสัมผัสไม่ถึงอยู่แล้ว) ทีวีตัวนี้สามารถกดปุ่มควบคุมให้หันเอียงออกมาในทิศทางที่เรามองได้ด้วย โดยใช้ปุ่มควบคุมในที่วางแขนของเก้าอี้
ปุ่มควบคุมในที่วางแขน จะควบคุม 3 อย่างครับ (อันนี้ตอนแรกจะงงๆ นิดนึง ต้องลองเล่นจนเข้าใจ) คือปรับเอนเก้าอี้กับปรับที่รองขา ซึ่งเอนได้สูงสุด 45 องศา , ปรับหมุนเก้าอี้ ซึ่งสามารถหมุนไปหาหน้าต่าง หรือหมุนมาหาทีวีได้ และ ปรับองศาของทีวี ให้พอดีกับทิศทางที่เราจะดู นอกจากนี้ ในที่วางแขนยังมีรีโมตตัวเล็กๆ อีกตัว สำหรับควบคุมหน้าจอทีวี ในกรณีที่เราไม่อยากถือแท็บเล็ตที่มีขนาดใหญ่
นั่งได้สักพักพนักงานได้นำชุด amenity set มาให้ครับ ซึ่งทาง Singapore Airlines เลือกใช้ของ Lalique บน Suites แบบใหม่นี้ และมีการแบ่งชุด amenity เป็น 3 แบบ คือของ ผู้ชาย, ผู้หญิง, และแบบ Unisex กระเป๋าจะหน้าตาไม่เหมือนกัน รวมถึงของข้างในด้วย ไฮไลต์ก็มีในกระเป๋าจะมีเทียนหอมของ Lalique ที่มีชื่อเสียงมากๆ ให้มาด้วยนะครับ
ชุดนอนที่พนักงานนำมาให้ตามมา เป็นของ Lalique เช่นกัน เลือกไซส์ได้
รองเท้าแตะสำหรับใช้บนเครื่องบิน พร้อมถุงเท้า
แชมเปญที่เสิร์ฟบน First/Suites Class ของ Singapore Airlines ยังคงโดดเด่นด้วยตัวเลือกของแชมเปญชั้นดีทั้ง 2 อย่าง คือ Krug และ Dom Pérignon โดยเสิร์ฟให้ตั้งแต่เครื่องยังไม่ขึ้นกันเลย
เมนูอาหารบนชั้น Suites Class มาเป็นเล่มหนาๆ เลยครับ เมนูมีหลายอย่างมากๆ และที่พิเศษกว่านั้น คือเราสามารถเลือกสั่งเมนูอาหารล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนบินได้ด้วย จากเมนูที่เรียกว่า ‘Book the Cook’ ของ Singapore Airlines โดยไฟลต์นี้ผมได้เลือก Classic Lobster Thermidor มาเสิร์ฟเป็นมื้อหลักครับ (ไม่มีในเมนูปกติ)
เครื่องขึ้นได้สักพัก พนักงานก็เริ่มเสิร์ฟมื้อแรกทันทีครับ เดินมากางโต๊ะให้ และกดหมุนเก้าอี้มาหาโต๊ะ เพื่อพร้อมแปลงห้อง Suites นี้เป็นห้องรับประทานอาหารสุดหรูบนเครื่องบิน
ประเดิมกันด้วยชุด Caviar กับเครื่องเคียงกันก่อนเลยครับ มันยอดเยี่ยมมากๆๆ
ตามมาด้วยซุปล็อบสเตอร์ ที่มีเนื้อล็อบสเตอร์ชิ้นโตๆ ใส่มาให้ด้วย กลมกล่อมกันแบบสุดๆ
และเมนู Classic Lobster Thermidor ที่ผมสั่งเอาไว้ล่วงหน้า ก็มาเสิร์ฟพร้อมข้าว Saffron ครับ จานนี้ดีงามมากเช่นกัน เนื้อกุ้งนุ่ม หอมชีส ไม่เหนียวเลย เข้ากันได้ดีกับไวน์ชาวที่พนักงานต้อนรับนำมาแนะนำให้ทานควบคู่กัน
Free WiFi on board
บนเครื่อง A380 นี้ มีไวไฟให้ใช้ด้วยนะครับ โดย Singapore Airlines ใจดี ให้ผู้โดยสาร First/Suites Class ใช้ฟรี 100MB ครับ เน็ตเร็วใช้ได้เลยด้วย
Swivel Chair
ตัวเก้าอี้ของ Suites สามารถหมุนซ้ายขวาได้ด้วยระบบไฟฟ้า และสามารถปรับเอนได้สูงสุด 45 องศา หรือประมาณในภาพนี้แหละครับ ซึ่งเบาะหนังของเก้าอี้ตัวนี้อยู่ในระดับที่สบายมากๆ ติดอันดับต้นๆ ของเก้าอี้เครื่องบินพาณิชย์ในปัจจุบันเลย มีความหนา ความแน่น รองรับกับสรีระได้พอดิบพอดี … ส่วนถ้าใครจะนอน ก็เพียงแค่กดเรียกพนักงานมาปูเตียงที่อยู่แยกต่างหากได้เลย
Bedtime!
ไฮไลต์สุดๆ ของ Suites Class ตัวใหม่นี้ ก็คือเตียงนอนครับ ถ้าเดินทางคนเดียว และห้องข้างๆ ไม่ว่าง พนักงานก็จะมาปูเตียงเดี่ยวๆ แบบนี้ให้ โดยยกเตียงที่พับไว้ขึ้นมา และปูเครื่องนอนของ Lalique ทับ และหมอนนุ่มสบาย 2 ขนาด 2 ใบ กับผ้าห่มนวมที่สบายแบบสุดๆ มีกลิ่นหอม สบายราวกับไม่ได้อยู่บนเครื่องบินเลยล่ะครับ
หน้าตาของเตียงเดี่ยวๆ ในห้อง Suites ก็กว้างสบายประมาณนี้ครับ ไฟลต์ยาวนานแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัว มันสบายมากๆ จริงๆ
ประตูห้อง Suites สามารถปิดได้เพื่อความเป็นส่วนตัวครับ แต่ก็ไม่ถึงกับทึบสนิทนะครับ จะมีลวดลายเป็นรูๆ ที่สามารถส่องเข้ามาได้
Double Suites!
แต่ถ้าหากโชคดี เดินทางคนเดียวและห้องข้างๆ ว่าง (หรือถ้าเดินทางสองคนคู่กัน ก็จะ perfect มากๆๆ) สามารถให้พนักงานนำฉากกั้นระหว่างห้อง Suites ลงได้ด้วยครับ และขยายขนาดห้องของเราให้ใหญ่เป็นสองเท่า พร้อมได้เตียงแบบ Double Bed กลิ้งไปมาได้เลยยยยย นี่เป็นโคตรประสบการณ์สุดพรีเมียมของการเดินทางบนเครื่องบินพาณิชย์เลยล่ะครับ
ห้อง Suites ที่เปิดทะลุกันได้ คือระหว่างแถว 1 กับ 2 นะครับ ส่วน Suites ในแถวที่ 3 จะไม่สามารถเปิดทะลุได้ ผมแนะนำว่า ต่อให้เดินทางคนเดียว ก็ต้องจองแถว 1 หรือ 2 อยู่ดีครับ เผื่อฟลุ๊กห้องข้างๆ ไม่มีคน จะได้ยึดทั้งสองห้องเลย
Lavatory
มาดูห้องน้ำบ้างนะครับ ห้องน้ำบน Airbus A380 นี่ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่ามีขนาดกว้างมากๆ แต่ Singapore Airlines ก็เลือกที่จะไม่ใส่ห้องอาบน้ำมาให้เหมือนกับที่ Emirates และ Etihad ทำ โดย Singapore Airlines เลือกที่จะทำห้องน้ำขนาดใหญ่นี้ให้มันหรูหราไปเลย มีมาให้ครบ ทั้งโซนนั่งแต่งหน้า แต่งตัว มีกระจกหลายบานรอบห้อง และส้วมที่นั่งสบาย ตกแต่งสวยงาม มี amenity มาให้ครบครัน ซึ่งผู้โดยสาร 6 คนในชั้น Suites นี้ มีห้องน้ำให้ถึง 2 ห้องเลยนะครับ ไม่ต้องแย่งกัน ไม่ต้องรอคิวกันอย่างแน่นอน
สรุป
ไม่น่าจะต้องสรุปกันยืดยาวครับ Suites Class ใหม่บน Singapore Airlines ตัวนี้ ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งใน First Class ที่ดีที่สุดในโลก ทั้งเลานจ์พิเศษที่สนามบินสิงคโปร์ พื้นที่ในห้อง Suites กว้างขวาง คุณภาพ อาหาร และการให้บริการที่มีความใส่ใจในแบบเอเชีย รวมถึงยังมีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับ Double Suites ที่กว้างที่สุดในโลกอีกด้วย
การออก Suites Class ใหม่ตัวนี้ของ Singapore Airlines เป็นการยกระดับเคบินของ First Class ให้เหนือขึ้นไปจากเดิม และเพื่อสร้างความแตกต่างจาก Business Class ให้มากขึ้น เนื่องจาก Business Class ใหม่ๆ ก็มีความหรูหราและสบายมากขึ้น จนเริ่มหาความแตกต่างจาก First Class แบบเก่าๆ ค่อนข้างยาก จึงต้องเกิดมาตรฐานใหม่แบบนี้ขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็มี Singapore Airlines ตัวนี้ กับของ Emirates บน Boeing 777-300ER (คลิกอ่านรีวิวของผมได้ >>ที่นี่<< ถ้าใครพลาดไป) ที่ได้เริ่มทดลองตลาดให้ผู้โดยสารได้สัมผัสประสบการณ์สุดพรีเมียมกันไปแล้ว
ปัจจุบัน (July 2018) Singapore Airlines ใช้ Suites Class แบบใหม่บางเส้นทางเท่านั้นนะครับ เริ่มเดินทางจากสิงคโปร์ ไปยังซิดนีย์, ลอนดอน และ ฮ่องกง โดยกำลังจะเปิดเส้นทางสิงคโปร์ไปยัง เซี่ยงไฮ้ และ ซูริกเพิ่มเติมในเดือนหน้า
พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ
บทความโดย:
อู๋ spin9
- รีวิว First Class สายการบิน SWISS — ขั้นสุดของสวิส เส้นทาง Zurich-Bangkok
- พาเดินงาน AIX 2024 ✈️ — พรีวิวที่นั่งใหม่ การบินไทย Airbus A320 ก่อนใช้จริงสิ้นปีนี้
- รีวิว การบินไทย Royal First Class ปี 2024 — กรุงเทพ-ลอนดอน Boeing 777-300ER
- รีวิว Qatar Qsuite ปี 2024 — ยังเป็น Business Class ที่ดีที่สุดอยู่มั้ย?
- รีวิว ANA “The Suite” — First Class ใหม่ บน Boeing 777-300ER
- รีวิว Dassault Falcon 6X — พาบินไปสิงคโปร์ด้วย Private Jet ลำตัวกว้างสุดในโลก
- รีวิว EVA Air Business Class — ซีแอตเทิล-ไทเป Boeing 787-10
- รีวิวกระเป๋าเดินทาง Samsonite ใหม่ 3 รุ่น — ทน เท่ เบา ล้อดีจริง ฟังก์ชั่นครบ!
- เจาะลึก ATC — เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ อาชีพสำคัญในอุตสาหกรรมการบิน
- รีวิว Business Class สายการบิน Swiss — กรุงเทพ-ซูริค Boeing 777-300ER
- พาชม “SAT-1” เทอร์มินัลใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดแล้ววันนี้
- รีวิว Finnair Business Class ที่นั่งแบบใหม่ ใหญ่สบายมาก แต่ปรับเอนไม่ได้! 🤨
- สุดในรุ่น “ACH130 Aston Martin Edition” — เฮลิคอปเตอร์ Airbus ที่ตกแต่งโดย Aston Martin!
- รีวิว Shark Aero เครื่องบินสปอร์ตสายซิ่ง เร็ว แรง ทำสถิติบินเดี่ยวรอบโลกมาแล้ว
- รีวิว Emirates First Class ปี 2023 — บินสบาย อาบน้ำบนเครื่องบิน หรูสุดแบบไม่เกรงใจใคร
- รีวิว ANA 「THE Room」 Business Class แบบใหม่ล่าสุด กว้างสุด มีประตูทุกที่นั่ง
- รีวิวคู่ พาซู่ชิงขึ้น First Class – สายการบิน Cathay Pacific ไปนิวยอร์ก!
- พาเจาะลึก Airbus A330neo ลำใหม่ล่าสุดของ Thai Lion Air
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019
- รีวิว First Class สายการบิน Cathay Pacific นิวยอร์ก-ฮ่องกง ยาวๆ 16 ชั่วโมงรวด
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific นั่งไกลๆ ปรับปรุงเมนูใหม่ อาหารจัดเต็มสุดๆ
- รีวิว First Class สายการบิน Lufthansa พร้อมรีวิว First Class Terminal สนามบิน Frankfurt
- พาชม เจาะลึก Airbus A330neo รุ่นใหม่ล่าสุด ลำแรกของ Thai AirAsia X
- รีวิว Business Class สายการบิน EVA Air ไทเป-ซานฟรานซิสโก (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Business Class สายการบิน Hong Kong Airlines เครื่องบินใหม่ ราคาสุดคุ้ม
- รีวิว Business Class – Cathay Pacific บน Boeing 777-300ER เส้นทาง SFO-HKG
- รีวิว Business Class บน Boeing 787-10 ใหม่ล่าสุด สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่เหมือน First Class เป็นห้องส่วนตัว ปิดประตูได้!
- บุกศูนย์ฝึกลูกเรือ Singapore Airlines ชมเบื้องหลังเที่ยวบินที่ไกลที่สุดในโลก!
- รีวิว Royal First Class การบินไทย บน Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน
- 6 ความลับของ Economy Class รู้แล้วจะนั่งสบายขึ้นอีกเยอะ!
- รีวิว ‘Throne Seat’ ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย
- รีวิวสุดยอด First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด บน Singapore Airlines A380
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific กรุงเทพฯ – ฮ่องกง
- รีวิว Emirates First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด – First Class แรกของโลกที่เป็นห้องปิด 100%
- รีวิว ‘Premium Economy’ การบินไทย ดีงามไม่ต่างจาก Business Class
- รีวิว Premium Flatbed ชั้นธุรกิจ สายการบิน Thai AirAsia X
- รีวิว ห้องอาบน้ำบนเครื่องบิน Emirates First Class – Airbus A380
- รีวิว ANA Premium Economy ชั้นประหยัดพรีเมียม นั่งสบาย ในราคาไม่โหดร้าย
- พาชมโรงงาน Boeing พร้อมพา Boeing 787-9 ลำใหม่ของการบินไทยกลับสุวรรณภูมิ
- รีวิว Emirates First Class Suites ห้องส่วนตัวสุดหรูบนเครื่องบิน
- รีวิว First Class สายการบิน Korean Air แบบใหม่ล่าสุดบน Boeing 777-300ER
- พรีวิว! ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย บน Boeing 787-9
- รีวิว Prestige Suites ที่นั่ง Business Class แบบใหม่บนสายการบิน Korean Air
- การบินไทย มีที่นั่ง Business Class แบบไหนบ้าง? + วิธีจองให้ได้ที่นั่งแบบใหม่
- รีวิว ScootBiz สายการบิน NokScoot เส้นทางดอนเมือง-ไทเป ที่นั่งกว้าง ราคาเบา
- รีวิว First Class แบบใหม่ของ Singapore Airlines – Boeing 777-300ER
- รีวิว “The Private Room” โคตรเลานจ์ของสนามบิน Singapore Changi
- รีวิวไฟลต์สุดน่ารัก เครื่องบิน “Gudetama” ไข่ขี้เกียจ ลำเดียวในโลก
- รีวิว การบินไทย Royal Silk Class บน Airbus A350-900 XWB รุ่นล่าสุด
- รีวิว Etihad ‘Business Studio’ ชั้นธุรกิจที่ไม่มีความทัดเทียม (B77W/A380)
- รีวิว United Polaris Business Class ชั้นธุรกิจรูปแบบใหม่ของ UA
- รีวิว First Class สายการบิน ANA สุดยอดความหรูหราแบบญี่ปุ่น
- รีวิว First Class Suite สายการบิน Asiana หรู เนี๊ยบ สไตล์เกาหลี
- รีวิว Business Class บน A380 สายการบิน Emirates
- รีวิว ชั้น Smile Plus (ชั้นประหยัดพรีเมียม) สายการบินไทยสมายล์
- รีวิว Lufthansa Business Class บน Boeing 747-8I
- รีวิว Etihad First Class “Apartment” ที่สุดของการเดินทางในชั้นเฟิร์สคลาส
- เจาะลึก การบินไทย Boeing 787-8 Dreamliner เครื่องบินที่ไฮเทคที่สุดในฝูงบินปัจจุบัน
- รีวิว Business Class บน Airbus A380 สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางโตเกียว-ซานฟรานฯ (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Royal Silk Class บนการบินไทย Boeing 787 Dreamliner
- รีวิว United Business First Class บน Boeing 787-8 Dreamliner
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว (Boeing 777-200ER)
- รีวิว การบินไทย ชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ใหม่ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการบินไทย
- รีวิว Business Class สายการบิน Austrian เส้นทางกรุงเทพ-เวียนนา
- รีวิว การบินไทย Royal First Class เส้นทางกรุงเทพ-แฟรงก์เฟิร์ต
- รีวิว Royal Laurel Class สายการบิน EVA Air เส้นทางไทเป-ซานฟรานซิสโก
- รีวิว เครื่องบินที่มุ้งมิ้งกระดิ่งแมวที่สุดในโลก Hello Kitty Jet
- รีวิว Royal First Class บนการบินไทย Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว