กลับมารีวิวเครื่องบินอีกครั้งครับ รอบนี้พาไปนั่ง Royal First Class สุดหรูของการบินไทย เส้นทางกรุงเทพฯ – แฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ใช้เวลาบินค่อนข้างนาน การบริการในชั้นโดยสารที่ดีที่สุดของการบินไทย จะให้ประสบการณ์การเดินทางที่ดีขนาดไหน ตามไปชมพร้อมกันครับ
ฝูงบินของการบินไทยปัจจุบัน (ตุลาคม 2015) มีเครื่องบินที่มีชั้น Royal First Class อยู่เพียง 2 แบบครับ คือ Airbus A380 และ Boeing 747-400 ซึ่งที่นั่งของ Royal First ในเครื่องบินทั้งสองแบบจะไม่เหมือนกันครับ และ Royal First ของ Boeing 747-400 มีที่นั่งสองแบบอีกต่างหาก คือแบบเก่า (ที่นั่งปรับเอน) กับ แบบใหม่ (มีฉากกั้นเป็นกึ่งๆ Suite)
Disclosure: บทความนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง
การเดินทางไปแฟรงก์เฟิร์ตที่ผมจะรีวิวให้ชมครั้งนี้ เป็นความโชคดีในความโชคร้ายครับ คือผมได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของการบินไทยในช่วงก่อนวันเดินทาง ว่าเครื่องบิน Airbus A380 เกิดปัญหา จึงจะใช้ Boeing 747-400 ในเที่ยวบินขาไปทดแทน ในขณะที่เที่ยวบินขากลับยังคงเป็น Airbus A380 อยู่เหมือนเดิม ทำให้รีวิวนี้ เราจะได้เห็นที่นั่ง Royal First Class บนเครื่องบินทั้งสองแบบของการบินไทยกันเลย
Flight: TG920
Route: BKK-FRA
Date: 14 Sep 2015
Departure Time: 23:45
Arrival Time: 06:00
Duration: 12 hr 15 mins
Seat: 2A
Class: Royal First Class
Aircraft: Boeing 747-400
Registration: HS-TGB (ศรีสัชนาลัย)
เที่ยวบินขาไป ผมเดินทางด้วย TG920 ครับ ซึ่งตอนนี้เส้นทางกรุงเทพฯ – แฟรงก์เฟิร์ต มีให้บริการเพียงวันละหนึ่งเที่ยวบิน (แต่กำลังจะขยายกลับไปเป็นวันละสองเที่ยวบิน ในช่วงปลายปีนี้) ออกเดินทางเกือบเที่ยงคืน โดยใช้เวลาช่วงกลางคืนอยู่บนเครื่องบินตลอดไฟลต์ จนไปถึงแฟรงก์เฟิร์ตในเวลา 6 โมงเช้า จึงจำเป็นที่เที่ยวบินนี้ต้องมีความสบายอย่างมาก เพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนเต็มที่ พร้อมที่จะลุยในเช้าตรู่ที่เดินทางไปถึงทันทีนั่นเอง
การเดินทางครั้งนี้ ได้รับความประทับใจตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทางถึงหนึ่งสัปดาห์เลยครับ เมื่อมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์เข้ามายืนยันไฟล์ตเดินทาง พร้อมสอบถามว่า ต้องการสั่งอาหารอะไรเป็นพิเศษบนเที่ยวบินหรือไม่ และยังสอบถามไซส์ของชุดนอนเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะได้เตรียมไว้ให้ในวันเดินทาง
Check-in
![DSC00556](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00556-1024x682.jpg)
การเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ หากเดินทางด้วยชั้นโดยสาร Royal First Class สามารถมาลงรถที่บริเวณประตู 1 ของอาคารผู้โดยสารได้เลย เพื่อใช้บริการเจ้าหน้าที่ยกกระเป๋าของ Royal First Porter Service ที่มีเคาน์เตอร์เตรียมพร้อมอยู่บริเวณนี้อยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ยกกระเป๋าของการบินไทย แต่งกายเรียบร้อย สวมเสื้อกั๊กสีทอง เข้ามาช่วยยกกระเป๋าลงจากรถ เข็นกระเป๋าพาเข้าไปเช็คอินที่โซน Royal First Class พร้อมสอบถามว่ามีจุดหมายเดินทางไปที่ไหน และนำ Passport พร้อมกระเป๋าที่จะโหลด ไปส่งต่อให้เจ้าหน้าที่เช็คอินให้ ส่วนเราก็เดินตามไปนั่งพักที่บริเวณที่นั่งรอได้เลย
![DSC00558](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00558-1024x682.jpg)
![DSC00559](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00559-1024x682.jpg)
เมื่อมานั่งรอแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่เอาน้ำเปล่าเย็นๆ มาเสิร์ฟให้ครับ จากนั้น เจ้าหน้าที่เช็คอินก็เดินมาแจ้งถึงความผิดพลาดของรุ่นเครื่องบินที่จะใช้เดินทางไปแฟรงก์เฟิร์ตวันนี้ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงจาก Airbus A380 เป็น Boeing 747-400 นะ พร้อมเอาผังที่นั่งมาให้เลือกใหม่ จากนั้นไม่นาน ก็จะเอา Boarding Pass พร้อมแบบฟอร์ม ตม. ที่กรอกให้เสร็จสรรพทั้งขาไปและขากลับ พร้อมพาสปอร์ตกลับมาให้เราเซ็นชื่อครับ
เมื่อได้ Boarding Pass แล้ว เจ้าหน้าที่ยกกระเป๋า ก็จะช่วยเราถือกระเป๋า เพื่อนำไปยังขั้นตอน X-ray และ ตม. ครับ โดยจะเป็นเคาน์เตอร์แยกมาต่างหากสำหรับผู้โดยสาร First Class โดยเฉพาะ โล่งสบาย ไม่มีคิวให้ต้องรอนานครับ
![DSC00565](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00565-1024x682.jpg)
หลังจากผ่านขั้นตอนของ ตม. แล้ว ก็จะลงบันไดเลื่อนมาหนึ่งชั้น เพื่อขึ้นรถกอล์ฟที่จอดรอไว้โดยเฉพาะ นำต่อไปยังห้องรับรอง Royal First Lounge ทันที (แต่ถ้าใครอยากจะไปซื้อของ Duty Free ก่อน ก็บอกเจ้าหน้าที่ได้ครับ มีบริการตามไปช่วยถือของให้ด้วยก่อนที่จะพากลับมาพักผ่อนที่ Royal First Lounge)
![DSC00566](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00566-1024x682.jpg)
Royal First Lounge, Suvarnabhumi Airport
รถกอล์ฟมาส่งถึงหน้า Royal First Lounge อย่างรวดเร็วครับ ห้องรับรองนี้ มีไว้ต้อนรับผู้โดยสาร Royal First Class ของการบินไทย (พร้อมพาเพื่อนเข้าได้อีก 1 คน), สมาชิกบัตร Royal Orchid Plus Platinum และ ผู้โดยสาร First Class ของสายการบินในกลุ่ม Star Alliance ครับ เมื่อมาถึงแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะขอเอา Boarding Pass ไปเก็บข้อมูล ว่าเราเดินทางด้วยเที่ยวบินไหน เมื่อใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่อง จะได้มาเรียกและพาไปเกตได้อย่างตรงเวลานั่นเอง
![DSC00567](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00567-1024x682.jpg)
ด้วยความที่วันนี้ผมเดินทางด้วยไฟลต์ค่ำ ทำให้ห้องรับรอง Royal First มีคนมาใช้บริการค่อนข้างเยอะครับ (ไฟลต์ยุโรปส่วนมากจะออกเดินทางเวลาใกล้ๆ กันหมด) ผมเลือกนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ด้านนอก ซึ่งก็จะมีเจ้าหน้าที่เอาเมนูอาหารและเครื่องดื่มมาให้เลือกจากใน iPad ทันทีเลย
![DSC00570](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00570-1024x682.jpg)
![DSC00568](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00568-1024x682.jpg)
ผมเลือกรับน้ำผลไม้รวมปั่น, ซุปข้าวโพด (ทีเด็ดนะครับ แนะนำให้ลอง), และ หมูย่างจิ้มแจ่ว มาทานเล่นแบบเบาๆ ก่อนครับ
![DSC00578](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00578-1024x682.jpg)
![DSC00580](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00580-1024x682.jpg)
อาหารน่าทานทุกจาน และรสชาติดีด้วยครับ สามารถมาพึ่งพาแบบเอาอิ่มได้เลยแบบไม่ต้องหาอะไรทานมาก่อนไฟลต์ก็ยังได้ หรือถ้าทานอิ่มมาแล้ว ของหวาน หรือ ขนมต่างๆ ก็มีให้บริการเยอะมากๆ เช่นกัน เลือกกันได้แบบจุใจไปเลย
![DSC00583](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00583-1024x682.jpg)
![DSC00581](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00581-1024x682.jpg)
ทางด้านห้องน้ำของห้องรับรอง Royal First แบ่งเป็นห้องส่วนตัวย่อยๆ อย่างสวยงาม สะอาดใหม่เอี่ยมทุกครั้งที่เข้า เพราะมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดทันทีที่มีผู้โดยสารเข้าใช้งานครับ
![DSC00588](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00588-1024x682.jpg)
![DSC00584](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00584-1024x682.jpg)
![DSC00587](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00587-1024x682.jpg)
![DSC00586](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00586-1024x682.jpg)
ส่วนห้องอาบน้ำ ก็มีให้บริการเช่นกัน หน้าตาดีอย่างที่เห็นเลยครับ มีผ้าเช็ดตัว และอุปกรณ์เครื่องใช้ในการอาบน้ำให้ครบพร้อม รอบนี้ผมไม่ได้ใช้บริการ เพราะอาบน้ำมาก่อนแล้ว แต่ถ้าใครมีเที่ยวบินต่อมาจากที่อื่น หรือ ตั้งใจจะมาอาบน้ำที่ห้องรับรองนี้ ก็ไว้ใจได้เลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน
นั่งพักและทานอะไรไปสักครู่ ยังมีเวลาเหลือก่อนขึ้นเครื่องอีกเกือบชั่วโมง เจ้าหน้าที่ในห้องรับรองมาถามว่าจะไปใช้บริการ Royal Orchid Spa หรือบริการนวดแผนไทยหรือไม่ ก็เลยตอบรับไปครับ
Royal Orchid Spa
![DSC00589](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00589-1024x682.jpg)
บริการ Royal Orchid Spa มีให้ใช้ฟรีสำหรับผู้โดยสาร Royal First Class และ Royal Silk Class ของการบินไทยเที่ยวบินระหว่างประเทศเท่านั้นครับ (พาเพื่อนเข้าไม่ได้) โดยจะต้องจองคิวใช้บริการตามลำดับ มีให้บริการต่างๆ ดังนี้ครับ
- Touch of Silk บริการนวดน้ำมัน แบบทั้งตัว ใช้เวลา 60 นาที (สำหรับผู้โดยสาร Royal First Class เท่านั้น)
- Royal Thai Massage บริการนวดทั้งตัว ใช้เวลา 60 นาที (สำหรับผู้โดยสาร Royal First Class เท่านั้น)
- บริการนวดคอและไหล่ ใช้เวลา 30 นาที
- บริการนวดเท้า ใช้เวลา 30 นาที
![DSC00590](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00590-1024x682.jpg)
รอบนี้มีเวลาไม่เยอะมาก ผมเลือกใช้บริการนวดเท้า ใช้เวลา 30 นาทีครับ โขคดีที่คิวไม่เยอะมาก รอไม่นานครับ
![DSC00591](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00591-1024x682.jpg)
ผู้โดยสาร Royal First Class จะมีโซนรับรองแยกต่างหากภายใน Royal Orchid Spa นี้ด้วย และมีห้องพร้อมคิวแยกต่างหากจาก Royal Silk Class ครับ
![DSC00594](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00594-1024x682.jpg)
บริการนวดเท้าก็เป็นไปอย่างมืออาชีพมาก ใช้เวลา 30 นาทีพอดิบพอดี ผ่อนคลายกันไปก่อนที่จะต้องเดินทางเป็นเวลานาน เมื่อเสร็จจาก Royal Orchid Spa แล้ว ก็กลับไปพักผ่อนต่อที่ Royal First Lounge เพื่อรอเวลาเรียกขึ้นเครื่องครับ
Boarding
เวลาประมาณ 23:20 น. เจ้าหน้าที่ของ Royal First Lounge ก็เดินมาแจ้งว่า TG920 พร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว จากตรงนี้ก็เดินไปที่เกต เพื่อขึ้นเครื่องได้เลยโดยไม่ต้องนั่งรอที่เกตแล้วครับ ที่หน้าเกตขึ้น Final Call พอดี
![DSC00621](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00621-1024x682.jpg)
On Board
![DSC00623](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00623-1024x682.jpg)
เมื่อเดินเข้ามาในเครื่องบิน และแสดงบัตรที่นั่ง Royal First Class ก็จะมีพนักงานต้อนรับพาไปถึงที่นั่งเลยครับ โดย Boeing 747-400 นี้ ตำแหน่งของ Royal First Class จะอยู่บริเวณหน้าสุด ชั้นล่างของเครื่องบิน (Boeing 747-400 จะมีสองชั้นบริเวณหัวเครื่องบิน ซึ่งชั้นบนจะเป็น Royal Silk Class และห้องนักบิน) ไฟลต์นี้ที่นั่งผมคือ 2A ก็คือที่นั่งแถวที่สองจากด้านหน้า ริมหน้าต่างครับ
![DSC00625](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00625-1024x682.jpg)
Royal First Class บน Boeing 747-400 ลำนี้ เป็นที่นั่งที่ถูกปรับปรุงใหม่แล้ว มีทั้งหมด 9 ที่นั่ง แต่ละที่นั่งมีฉากกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวอย่างดี เบาะที่นั่งสามารถปรับเอนเพื่อนอนราบได้ เปรียบเทียบพื้นที่แล้ว ใกล้เคียงกับ Royal First Class บน Airbus A380 เลยครับ
![DSC00626](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00626-1024x682.jpg)
![DSC00627](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC006271-1024x951.jpg)
![DSC00628](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00628-1024x682.jpg)
![DSC00636](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00636-1024x682.jpg)
หลังจากนั่งประจำที่ ทำความคุ้นเคยกับที่นั่งได้สักพัก พนักงานต้อนรับประจำ Royal First Class ก็มาแนะนำตัวและเรียกชื่อผมได้ถูกต้อง พร้อมกับนำชุดนอนตามไซส์ที่ผมได้แจ้งไว้ก่อนเดินทางมาให้ และนำตัวเลือกของเครื่องดื่ม Welcome Drink มาให้ครับ แน่นอนว่าต้องเป็นแชมเปญ Dom Pérignon 2004 ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Royal First Class ของการบินไทย
![DSC00637](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00637-1024x682.jpg)
จากนั้น ก็จะมีเมนูอาหารของไฟลต์นี้มาให้เลือกครับ ซึ่งผมไม่ได้เลือกอาหารพิเศษมาล่วงหน้า ก็ต้องเลือกจากในเมนูที่มีให้นี้
Seat Features / Amenities
![DSC00624](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00624-1024x682.jpg)
ที่นัง Royal First Class บน Boeing 747-400 ที่ปรับปรุงใหม่ นี่มีขนาดใหญ่มากทีเดียวครับ เหมือนนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ๆ ใช้โทนสีน้ำตาลเข้ม ตัดกับสีเหลืองของผ้ารองศีรษะ นั่งสบาย มีหมอนมาให้สองใบ ขนาดเล็ก และขนาดใหญ่
![DSC00631](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00631-1024x682.jpg)
แต่ละที่นั่งจะมีฉากกั้น เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยแต่ละที่นั่งสามารถปรับเอนนอนราบได้ 180 องศา มีพื้นที่วางขาอยู่ปลายที่นั่งอีกด้าน พร้อมหน้าจอความบันเทิงขนาด 23 นิ้ว ใหญ่สะใจ มีดอกกล้วยไม้สดประดับอยู่เพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์ของการบินไทย
![DSC00642](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00642-1024x682.jpg)
ด้านหน้าของหน้าจอ มีช่องเก็บของ ที่เป็นตำแหน่งของปลั๊กไฟแบบ Universal ในนี้จะมีนิตยสาร และ ชุดหูฟัง
![DSC00629](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00629-1024x682.jpg)
![DSC00644](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00644-1024x682.jpg)
![DSC00647](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00647-1024x682.jpg)
ด้านข้างของที่นั่ง เป็นตำแหน่งของที่เก็บรีโมทสำหรีบควบคุมหน้าจอ และยังมีหน้าจอขนาดเล็กอีกหนึ่งตัว ซึ่งเป็นเมนูสำหรับการปรับตำแหน่งที่นั่ง สามารถกดแตะจอเพื่อปรับเลื่อนตำแหน่งต่างๆ ได้อย่างง่าย เข้าใจได้ทันทีจากรูปภาพที่แสดงอยู่ ส่วนอีกด้านเป็นตำแหน่งของหลอดไฟสำหรับอ่านหนังสือ
![DSC00651](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00651-1024x682.jpg)
ชุด Amenities ที่แจกให้กับผู้โดยสาร Royal First Class ของการบินไทย เป็นชุดกระเป๋า Rimowa ที่นักสะสมหลายคนชื่นชมครับ ไฟลต์นี้ผมได้สีน้ำเงินเข้ม ภายในกระเป๋าประกอบไปด้วยเครื่องใช้อำนวยความสะดวกในการบิน เช่น ผ้าปิดตา ที่อุดหู ถุงเท้า โลชั่น ชุดแปรงฟัน หวี ลิปบาล์ม ฯลฯ
![DSC00658](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00658-1024x682.jpg)
ชุดนอนของ Royal First Class มาในถุงผ้าอย่างดี ภายในเป็นชุดนอนสีน้ำตาลเข้ม เสื้อยืดแขนยาว กับกางเกงยางยืด ใส่สบาย ผมลุกมาเปลี่ยนเป็นชุดนอนอันนี้เลยตั้งแต่เครื่องยังไม่ออก จะได้เตรียมพักผ่อนอย่างเต็มที่
Lavatory
ห้องน้ำของ Royal First บน Boeing 747-400 มีให้ใช้ทั้งหมด 2 ห้องครับ (สำหรับผู้โดยสาร 9 คน) ตั้งอยู่บริเวณโซนหลังสุดของ Royal First Class มีขนาดห้องน้ำที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก (เทียบไม่ได้เลยกับ Royal First บน Airbus A380) โดยรวมแล้วก็เป็นห้องน้ำขนาดมาตรฐานทั่วไปครับ
![DSC00655](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00655-1024x682.jpg)
![DSC00653](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00653-1024x682.jpg)
![DSC00656](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00656-1024x682.jpg)
Amenities ที่มีให้ในห้องน้ำ พวกโลชั่น น้ำหอม เป็นของ L’Occitane ทั้งหมดครับ และในห้องน้ำก็จะมีชุดแปรงสีฟัน+ยาสีฟันเตรียมไว้ให้ นอกเหนือจกในชุดกระเป๋า Rimowa ที่แจกให้กับผู้โดยสาร First ทุกคนอยู่แล้ว
In-flight Cuisine
![DSC00661](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00661-1024x682.jpg)
เมื่อเครื่องเทคออฟขึ้นและรักษาระดับแล้ว พนักงานต้อนรับก็มาเปิดโต๊ะให้ครับ ซึ่งเห็นโต๊ะครั้งแรกนี่ต้องมีตกใจกันบ้าง เพราะเป็นโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ อย่างหนา และหนักพอสมควร พับอยู่บริเวณช่องเก็บด้านข้างที่นั่ง ดูดีเลยทีเดียว
![DSC00663](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00663-1024x682.jpg)
ผ้าปูโต๊ะ และชุดขนมปังออเดิร์ฟ มาวางให้ทั้งตะกร้า พร้อมจานกระเบื้องอย่างสวย
![DSC00664](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00664-1024x682.jpg)
![DSC00665](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00665-1024x682.jpg)
พนักงานต้อนรับเข็นเอาชุดคาเวียร์ และเครื่องเคียง มาให้เลือกถึงข้างที่นั่งครับ เพื่อมาทานแกล้มไปกับออเดิร์ฟจานแรก คือ เทอรีนตับเป็ด สลัดกุ้ง และ คาราเมลแอปเปิ้ล
![DSC00668](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00668-1024x682.jpg)
เมนคอร์สของผมที่เลือกไว้ คือ Pork Cordon Bleu เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่ง และผักอบ อุ่นร้อนมาพอดิบพอดี หั่นแล้วชีสไหล รสชาติกลมกล่อม ไม่เลี่ยนเกินไป
![DSC00670](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00670-1024x682.jpg)
![DSC00671](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00671-1024x682.jpg)
ปิดท้ายมื้ออาหารตอนตีหนึ่งครึ่ง ด้วยผลไม้สดหลายชนิด (จริงๆ แล้วมีชีสให้เลือกทานด้วย แต่ผมขอรับเฉพาะผลไม้ครับ)
Flat Bed
เมื่อเสร็จจากมื้ออาหารแล้ว สามารถให้พนักงานมาทำการ “ปูเตียง” ได้ครับ โดยแต่ละที่นั่งจะมีชุดผ้าปูที่นอน และผ้าห่มนวม อยู่ในช่องเก็บของอยู่แล้ว พอเรียกแล้วพนักงานต้อนรับก็จะมาปูเตียงให้ด้วยความชำนาญ
![DSC00672](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00672-1024x682.jpg)
![DSC00674](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00674-1024x682.jpg)
![DSC00675](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00675-1024x682.jpg)
ฟินสิครับ ปูเตียงพร้อมนอนขนาดนี้ บวกกับชุดนอนที่ให้มา ความสบายไม่ต่างจากนอนหลับบนเตียงทั่วไปเลย ใส่ Earplug อุดหูเพื่อกันเสียงจากเครื่องยนต์เจ็ต ก็หลับไปได้ไม่ยากครับ เรียกว่าไม่รู้สึกว่าอยู่บนเครื่องบินเลยทีเดียว ข้อดีของที่นั่ง Royal First บน Boeing 747-400 ตัวนี้ คือมันไม่มีช่องอะไรมาบังอยู่ด้านบนครับ จะนอนชันเข่า หรือ พลิกตัว ก็ไม่ไปติดกับแผงกั้นอะไรทั้งนั้น และความยาวก็พอเหมาะ ไม่สั้นจนเกินไป ให้ความสบายสุดๆ ไปเลย
Breakfast
ข้ามมาถึงตอนตื่นเลยละกันครับ ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาทีก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางที่แฟรงก์เฟิร์ต ก็ถึงเวลาที่จะเสิร์ฟอาหารเช้า ซึ่งเราสามารถเลือกที่จะบอกพนักงานต้อนรับไว้ล่วงหน้าได้เลยว่าจะให้ปลุกหรือไม่
![DSC00676](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00676-1024x682.jpg)
พนักงานต้อนรับ นำสมูทตี้ผลไม้ แช่เย็นมาปลุกเป็นอย่างแรก ดื่มแล้วสดชื่น ตื่นสบาย
![DSC00679](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00679-1024x682.jpg)
เตียงถูกเก็บ ทั้งผ้าปูที่นอนและผ้าห่ม เพื่อกลับมาเป็นที่นั่งปกติอีกครั้ง พนักงานต้อนรับกางโต๊ะ และปูโต๊ะด้วยเครื่องใช้มาตรฐาน พร้อมเสิร์ฟตะกร้าขนมปัง, คอร์นเฟลกส์, ชาร้อน, และ ผลไม้สด
![DSC00683](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00683-1024x682.jpg)
อาหารเช้าที่ผมเลือกไว้ คือ Spanish Omelette และไส้กรอกลูกวัว + ไส้กรอกไก่ เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศอบ และ แพนเค้กมันฝรั่งครับ รสชาติโอเค ไม่ถึงกับพีคมาก
Frankfurt Airport Arrival
![IMG_0136](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/IMG_0136-1024x684.jpg)
เดินทางถึงสนามบินแฟรงก์เฟิร์ตในเวลาเช้าตรู่ครับ การบินไทยเปิดให้ผู้โดยสาร Royal First ลงจากเครื่องบินเป็นกลุ่มแรก โดยต้องผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ ไม่มีช่องทางพิเศษใดๆ ที่สนามบินนี้ จากนั้น ก็มารอรับกระเป๋าที่สายพานที่ถูกแยกไว้ต่างหาก (ไฟลต์นี้จะมีสองสายพาน คือสายพานกระเป๋าของผู้โดยสารชั้นพรีเมียม และสายพานกระเป๋าของผู้โดยสารทั่วไป) รอไม่นานกระเป๋าก็ถูกลำเลียงออกมา เป็นอันสิ้นสุดการเดินทางด้วย Royal First Class ไฟลต์กรุงเทพฯ – แฟรงก์เฟิร์ตโดยสวัสดิภาพ
![DSC00692](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00692-1024x682.jpg)
เรามาดูขากลับกันบ้างครับ ที่คราวนี้จะเป็น Airbus A380 ตามปกติแล้ว
Flight: TG921
Route: FRA-BKK
Date: 20 Sep 2015
Departure Time: 14:45
Arrival Time: 06:25
Duration: 9 hr 40 mins
Seat: 1K
Class: Royal First Class
Aircraft: Airbus A380-800
Registration: HS-TUE (ศรีราชา)
ไฟลต์ขากลับ จาก แฟรงก์เฟิร์ต ไปยังท่านอากาศยานสุวรรณภูมิ TG921 ออกเดินทางเวลา 14:45 น. ครับ ผมเผื่อเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มาถึงสนามบินแฟรงก์เฟิร์ตปรมาณเที่ยงครึ่ง
Check-in
![DSC00702](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00702-1024x682.jpg)
![DSC00703](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00703-1024x682.jpg)
ที่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต มีเคาน์เตอร์เช็คอินของการบินไทย Royal First Class แยกออกมาชัดเจนครับ โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่เช็คอินท้องถิ่น และผู้จัดการประจำท่าอากาศยานที่เป็นคนไทย ให้การต้อนรับบริเวณเคานเตอร์นี้
![DSC00705](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00705-1024x682.jpg)
ที่น่าประทับใจ คือหลังจากเช็คอินแล้ว จะมีพนักงานท้องถิ่น (ไม่ใช่คนไทยนะ) มาช่วยเข็นกระเป๋าเพื่อพาเราผ่านขั้นตอนของ ตม. ด้วยช่องทางพิเศษด้วย กรณีนี้คือไปผ่านช่องทางของพาสปอร์ต EU ที่ไม่มีคิวครับ เจ้าหน้าที่คนนี้จะอยู่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราตลอด ไม่ว่าจะซื้อของใน Duty Free หรือพาไปนั่งพักผ่อนที่ Lounge ยาวไปจนถึงส่งขึ้นเครื่องที่หน้าประตูเครื่องบินเลย
Lufthansa Senator Lounge, Frankfurt Airport
![DSC00711](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00711-1024x692.jpg)
เลานจ์สำหรับผู้โดยสาร Royal First Class ที่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ตนี้ มาใช้ร่วมกับ Senator Lounge ของสายการบิน Lufthansa เจ้าถิ่นครับ โดยสามารถเข้าใช้ได้เฉพาะผู้โดยสารที่ถือบัตรที่นั่ง First Class ของสายการบินในกลุ่ม Star Alliance ทีเดินทางจากสนามบินนี้ และผู้ถือบัตร Miles & More Senator Card รวมถึง Star Alliance Gold
![DSC00712](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00712-1024x682.jpg)
![DSC00730](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00730-1024x682.jpg)
ภายใน Lufthansa Senator Lounge ค่อนข้างกว้างเลยครับ มีพื้นที่หลายโซนสำหรับนั่งพักผ่อน และมีมุมที่สามารถมองเห็นเครื่องบินได้ด้วย
![DSC00713](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00713-1024x682.jpg)
มุมสำหรับนั่งทำงาน ปริ๊นเตอร์ ที่ชาร์จมือถือ ฯลฯ มีให้ครบพร้อมใน Lounge นี้
![DSC00716](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00716-1024x682.jpg)
![DSC00717](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00717-1024x682.jpg)
![DSC00718](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00718-1024x682.jpg)
![DSC00719](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00719-1024x682.jpg)
อาหารและเครื่องดื่ม อาจจะดูไม่แน่นเท่ากับเลานจ์ในสนามบินโซนบ้านเราครับ ไม่เน้นอาหารหนักเท่าไหร่ อาหารอาจจะไม่ถูกปากคนเอเชีย แต่ก็พอจะมีให้เลือกและเสิร์ฟอย่างเพียงพอตลอดเวลา
![DSC00728](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00728-1024x682.jpg)
![DSC00726](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00726-1024x682.jpg)
![DSC00725](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00725-1024x682.jpg)
ทีเด็ดของ Senator Lounge ที่นี่ น่าจะเป็นห้องอาบน้ำครับ ที่มีให้ใช้บริการได้ฟรี แต่ต้องขอกุญแจจากเจ้าหน้าที่ก่อน ภายในกว้างขวางอย่างมาก และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง สะอาด และสวยงามอย่างที่เห็นเลย
Boarding
![DSC00731](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00731-1024x682.jpg)
ที่ Senator Lounge ไม่มีประกาศขึ้นเครื่องครับ แต่เจ้าหน้าที่คนที่มาดูแลเรา จะมาเรียกเมื่อถึงเวลา Boarding ของเรา เพื่อช่วยถือของและพาไปยังเกต ซึ่งก็ได้เวลาขึ้นเครื่องพอดิบพอดี ไม่ต้องไปนั่งรอที่หน้าเกตแล้ว
![DSC00733](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00733-1024x682.jpg)
![DSC00732](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00732-1024x682.jpg)
นกยักษ์ Airbus A380-800 พร้อมที่จะพาเราเดินทางกลับไปสนามบินสุวรรณภูมิครับ โดยผู้โดยสาร Royal First จะมีสะพานเชื่อมไปยังชั้นบน ส่วนหน้าสุดของเครื่องบิน
![DSC00735](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00735-1024x682.jpg)
รอบนี้ผมได้ที่นั่ง 1K ครับ เป็นที่นั่งแถวหน้าสุดริมหน้าต่าง โดยที่นั่ง Royal FIrst Class บน Airbus A380-800 ของการบินไทย จะมีทั้งหมด 12 ที่นั่ง (3 แถว แถวละ 4 ที่นั่ง) แต่ละที่นั่งมีฉากกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว เป็นที่นั่งแบบใหม่ที่สุดของการบินไทย ให้ความเป็นส่วนตัวสูงที่สุด และมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาที่นั่งทั้งหมดของฝูงบินการบินไทยปัจจุบัน
![DSC00746](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00746-1024x682.jpg)
ตามขั้นตอนครับ พนักงานต้อนรับมาแนะนำตัว พร้อมเอาชุดนอนตามไซส์ที่ได้สั่งเอาไว้ล่วงหน้ามาให้ พร้อมถามถึงตัวเลือกของ Welcome Drink และนำเมนูอาหารมาให้เลือก
![DSC00751](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00751-1024x682.jpg)
แชมเปญดอมสักแก้วก่อนออกเดินทาง ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอยู่
Seat Features / Amenities
![DSC00734](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00734-1024x682.jpg)
ที่นั่งแบบกึ่งๆ Suites ของ Royal First บน A380 ตกแหต่งด้วยโทนสีครีมอ่อน เป็นที่นั่งขนาดใหญ่ นั่งสบายอย่างมาก มีหมอนมาให้สองใบสองขนาด
![DSC00736](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00736-1024x682.jpg)
![DSC00762](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00762-1024x682.jpg)
หน้าจอความบันเทิง ขนาด 23 นิ้ว ใหญ่สะใจอยู่บริเวณปลายที่นั่ง พร้อมหูฟัง Noise Cancellation (ขั้วสายเริ่มชำรุด และมีเสียงซ่าๆ เมื่อขยับ ผมเลยขอเปลี่ยนตัวใหม่ครับ)
![DSC00763](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00763-1024x682.jpg)
![DSC00738](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00738-1024x682.jpg)
ด้านข้างของที่นั่ง เป็นตำแหน่งของรีโมทควบคุมหน้าจอความบันเทิง และปุ่มปรับที่นั่งอย่างละเอียด รวมถึงมีปุ่มปรับอย่างง่ายสามตำแหน่ง คือตำแหน่ง Upright สำหรับก่อนเครื่องขึ้นและลง, ตำแหน่งทานอาหาร และ ตำแหน่งนอนราบ
![DSC00755](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00755-1024x682.jpg)
ภายในกล่องเก็บของด้านข้าง เป็นตำแหน่งของปลั๊กไฟแบบ Universal และตำแหน่งของหัวชาร์จ USB อีก 2 ตำแหน่ง สามารถใช้ชาร์จโทรศัพท์มือถือและแทบเล็ตได้
![DSC00757](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00757-1024x682.jpg)
บริเวณช่องวางเท้าที่ปลายที่นั่ง จะมีกระเป๋าชุดผ้าปูที่นอน, ผ้าห่มนวม และ รองเท้าสำหรับใช้บนเครื่องบินมาให้ด้วยครับ
![DSC00754](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00754-1024x682.jpg)
สำหรับกระเป๋า Ameneties ของ Rimowa ที่ให้มาในไฟลต์นี้ ผมได้สีขาวครับ เป็นชุดที่สวยงามลงตัวมาก เท่าที่ส่องๆ ดู ในไฟลต์เดียวกันแต่ละที่นั่งจะได้สีเดียวกันนะครับ
![DSC00747](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00747-1024x682.jpg)
ที่บริเวณเคานเตอร์บาร์ ส่วนหน้าสุดของเครื่องบิน จะมีหนังสือพิมพ์ และ นิตยสารให้มาเลือกหยิบได้ตามใจชอบครับ ซึ่งเคานเตอร์บาร์ส่วนนี้ จะถูกแปลงเป็นเคานเตอร์บาร์เครื่องดื่ม เมื่อเครื่องบินทำการบินขึ้นแล้ว
In-flight Cuisine
![DSC00765](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00765-1024x682.jpg)
ออเดิร์ฟแรก เป็นถั่วนานาชนิดใส่ถ้วยมาครับ แต่ทีเด็ดคือ มันถูกอุ่นร้อนมาแบบพอดิบพอดี แลเมื่อสั่งแชมเปญ Dom Pérignon 2004 มาทานด้วย ก็ได้เจอกับเซอร์ไพรส์
![DSC00766](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00766-1024x682.jpg)
แก้วแชมเปญถูกชิลมาอย่างดี ทานคู่กับถั่วที่ถูกอุ่นร้อนๆ มา กลายเป็น perfect combination สำหรับเริ่มต้นไฟลต์นี้ได้ดีทีเดียว
![DSC00769](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00769-1024x682.jpg)
คานาเป้ถูกเสิร์ฟตามมาครับ ขนาดเล็กๆ พอดีคำ อร่อยทุกชิ้นเลยจานนี้
![DSC00775](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00775-1024x682.jpg)
![DSC00777](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00777-1024x682.jpg)
จากนั้นก็ถึงเวลาของคาเวียร์ พร้อมเครื่องเคียงครับ แต่ว็อดก้านี่ผมขอผ่านไปก่อน
![DSC00778](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00778-1024x682.jpg)
อาหารจานแรกถูกเสิร์ฟตามมา เป็นทูน่า กุ้งมังกร มูส artichoke ข้าววีนัส และ สลัด บีบมะนาวทานไปพร้อมกัน กลมกล่อมและหมดลงอย่างรวดเร็วเลย
![DSC00781](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00781-1024x682.jpg)
เมนคอร์สรอบนี้ เนื่องจากเดินทางจากเยอรมัน ที่ห่างจากอาหารไทยมาหลายมื้อ เลยขอจัดข้าวหอมมะลิ แกงมัสมั่นไก่ครับ ถูกจัดวางมาในชามกระเบื้องสวยงาม หอมน่าทานมากๆ และรสชาติก็ออริจินัลมากๆ ด้วย
![DSC00785](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00785-1024x682.jpg)
เสร็จจากเมนคอร์ส ก็เป็นคิวของผลไม้สด + ชีสครับ พนักงานต้อนรับเข็นมาให้เลือกกันถึงข้างที่นั่งเลย
![DSC00794](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00794-1024x682.jpg)
ในใจคืออิ่มจนจุกแล้ว แต่พนักงานต้อนรับก็ยังแอบเชียร์เค้ก บอกว่าอร่อยนะ อยากให้ลอง พร้อมจัดมาให้อีก 2 ชิ้นครับ ทานเรียบไม่มีเหลือ … เหลือบดูนาฬิกา เพิ่งจะประมาณบ่ายสี่โมงกว่าๆ ของเยอรมัน (สามทุ่มกว่าเมืองไทย) … เอาน่ะ ลองข่มตานอนดูก็ได้
Flat Bed
ตัดสินใจบอกพนักงานต้อนรับ ให้มาปูเตียงครับ พนักงานก็จะมากดปุ่มปรับที่นั่งให้นอนราบ และใช้ชุดผ้าปูที่นอนในกระเป๋ามาปูเตียงให้อย่างรวดเร็ว
![DSC00797](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00797-1024x682.jpg)
ใช้เวลาไม่กี่นาที ที่นั่ง Royal First Class ของ Airbus A380-800 ก็กลายสภาพมาเป็นเตียงน่านอนครับ ผมเริ่มเห็นที่นั่งอื่นๆ เริ่มปรับโหมดมานอนแล้วเหมือนกัน ไฟของห้องโดยสารก็ถูกหรี่ลง เพื่อให้ได้พักผ่อนกันได้อย่างเต็มที่
![DSC00798](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00798-1024x682.jpg)
พื้นที่ของที่นั่งหลังจากปรับมานอนราบแล้ว ต้องบอกว่ากว้างมากทีเดียวครับ มีพื้นที่ให้พลิกตัว ปรับหาท่านอนที่สบายกันได้แบบเหลือเฟือ เว้นตรงช่วงปลายเตียงที่เป็นตำแหน่งของโต๊ะนิดหน่อย ที่อาจจะไม่สะดวกในการชันเข่าขึ้นมาบ้าง แต่โดยรวมถือว่ากว้างมากๆ และให้ความสบายได้สุดมาก
Lavatory
ห้องน้ำของ Royal First Class บน Airbus A380 ของการบินไทย ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ครับ เพราะเป็นห้องน้ำเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของฝูงบินการบินไทย เริ่มจากบริเวณหน้าห้องน้ำ ที่อยู่ส่วนหน้าสุดของเครื่องบิน ติดกับบันไดที่สามารถเชื่อมลงไปถึงชั้นล่างได้ (ห้องน้ำของ Royal First จะมีสองห้องครับ คือห้องที่อยู่ด้านหน้าอันนี้ ที่มีขนาดใหญ่มากๆ กับอีก 1 ห้อง อยู่โซนด้านหลังของที่นั่ง Royal First ที่จะมีขนาดเล็กกว่า)
![DSC00793](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00793-1024x682.jpg)
เมื่อเดินเข้ามาในห้องน้ำแล้ว มันถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนของพื้นที่แต่งตัว
![DSC00788](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00788-1024x682.jpg)
![DSC00789](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00789-1024x682.jpg)
พื้นที่แต่งตัว จะมีโซฟา พร้อมกระจกแต่งหน้า/แต่งตัว และไฟส่องสว่างแบบจัดเต็ม มีโต๊ะสำหรับวางอุปกรณ์แต่งหน้าต่างๆ ได้ และมีผ้าขนหนูขนาดเล็กเตรียมพร้อมไว้ให้ใช้ได้อย่างเหลือเฟือ กับ Amenities ต่างๆ เช่นโลชั่น และน้ำหอม
![DSC00790](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00790-1024x682.jpg)
อีกด้านหนึ่งของห้องน้ำ เป็นส่วนของส้วมและอ่างล้างมือ มีพื้นที่ให้ใช้อย่างกว้างขวางเช่นกัน ถูกตกแต่งด้วยโทนสีสะอาดตา และมีพนักงานต้อนรับเข้ามาทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอครับ เป็นห้องน้ำเครื่องบินที่ดีมากที่สุดแบบหนึ่งเมื่อเทียบกับสายการบินพาณิชย์อื่นๆ เลยก็ว่าได้
Breakfast
![DSC00799](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00799-1024x682.jpg)
มื้อเช้า ก่อนเครื่องจะทำการลดรดับลงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังเปิดมาด้วยสมูทตี้แช่เย็น ที่ผมชื่นชอบมากๆ ครับ สดชื่น ตื่นสบายเลย ตอนนี้ไฟในห้องโดยสารยังไม่ถูกดิมขึ้นนะครับ
![DSC00800](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00800-1024x682.jpg)
ที่นั่งถูกปรับมาอยู่ในตำแหน่งปกติอีกครั้ง พนักงานต้อนรับเลื่อนโต๊ะเข้ามาพร้อมปูโต๊ะ และวางอุปกรณ์ต่างๆ ตะกร้าขนมปังหลากหลายชนิด ผมขอรับชามะนาวร้อนมาพร้อมกันด้วย
![DSC00803](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00803-1024x682.jpg)
คอนเฟล็กซ์ กับนมสดเย็นๆ ถูกเสิร์ฟตามมาครับ จริงๆ มีตัวเลือกของมูสลี่ ซีเรียลหลายชนิด และ โยเกิร์ตผลไม้รวมด้วย
![DSC00805](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00805-1024x682.jpg)
อาหารเช้าจานหลัก เป็นออมเลต ไส้กรอกลูกวัว เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่ง และมะเขือเทศย่าง รสชาติมาตรฐานสไตล์อาหารเช้าฝรั่งทั่วไป จานนี้ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นครับ
![DSC00804](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00804-1024x682.jpg)
ผลไม้ถูกเสิร์ฟตามมา จัดวางอย่างดีมากๆ ครับหั่นสวยงาม และหวาน สดทุกชิ้น
Suvarnanbhumi Airport Arrival
![DSC00807](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00807-1024x682.jpg)
หกโมงเช้า ก็ได้เวลาที่เครื่องทำการลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิครับ เมื่อเครืองลงจอดแล้ว พนักงานต้อนรับก็เปิดโอกาสให้ผู้โดยสาร Royal First ลงจากเครื่องบินเป็นกลุ่มแรก โดยกันผู้โดยสารในชั้น Royal Silk Class ให้รอก่อน
![DSC00809](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00809-1024x682.jpg)
เมื่อเดินออกจากเครื่องบินมา ก็จะมีรถกอล์ฟ พร้อมชื่อผู้โดยสาร Royal First จอดรออยู่แล้ว เพื่อพาไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเดินให้เมื่อยครับ
![DSC00811](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00811-1024x682.jpg)
หลังจากผ่าน ตม. ช่องพิเศษมาแล้ว พนักงานก็จะนำมารอกระเป๋าที่สายพานทันที ซึ่งพนักงานก็จะสอบถามจำนวนและลักษณะกระเป๋า เพื่อที่จะยกออกจากสายพานให้ บริการน่าประทับใจอย่างมาก
![DSC00812](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00812-1024x682.jpg)
พนักงานคนเดิม จะเข็นกระเป๋าทั้งหมดให้ เพื่อไปส่งถึงรถเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นรถที่มารอรับ หรือ ถ้าจอดรถไว้ ก็จะส่งให้ถึงอาคารจอดรถเลยทีเดียว เป็นอันเสร็จสิ้นการบริการสุดประทับใจของ Royal First Class ในเที่ยวบินขากลับครับ
สรุป
การบินไทยยังคงรักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยมครับ กับการบริการผู้โดยสารในชั้นพรีเมียมของตัวเอง ตลอดการเดินทางแทบจะไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ ให้ได้เห็นเลย ราบรื่น สะดวกสบายอย่างมาก และพนักงานทุกคนในทุกๆ ขั้นตอน ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ยินดีช่วยเหลืออย่างมากทุกครั้งที่สอบถาม เมื่อเปรียบเทียบกับสายการบินอื่นๆ แล้ว ผมว่าการบริการของการบินไทย ไม่แพ้ใครแน่ๆ ครับ
![DSC00740](https://spin9.me/wp-content/uploads/2015/10/DSC00740-1024x741.jpg)
ที่นั่ง Royal First Class ของการบินไทย ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 แบบครับ (2 แบบ บน Boeing 747-400 และ 1 แบบ บน Airbus A380) ส่วนมากถูกปรับปรุงมาใช้ที่นั่งแบบใหม่ที่มีความสบาย และมีความเป็นส่วนตัวสูงแล้ว เหลือเพียง Boeing 747-400 บางลำที่ยังคงใช้ที่นั่ง Royal First แบบเก่า ใช้บินบางเส้นทางอยู่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม โดยรวมก็ต้องถือว่าเป็นที่นั่งที่มีความสบาย สามารถใช้โดยสารเส้นทางบินไกลๆ ได้แบบไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้พักผ่อนครับ และก็ยังได้รับความไว้วางใจจากผู้โดยสารอย่างมาก (เที่ยวบินที่ผมรีวิวนี่ Royal First เต็มทั้งขาไปและกลับนะครับ) โดยเฉพาะผู้โดยสารต่างชาติ ที่เห็นได้เยอะกว่าคนไทยอย่างชัดเจน
ราคาตั๋วโดยสาร Royal First Class เส้นทางไปกลับ กรุงเทพฯ – แฟรงก์เฟิร์ต อยู่ที่ประมาณ 192,000 บาท หรือถ้าใช้ไมล์ Royal Orchid Plus ก็จะใช้ 185,000 ไมล์ บวกค่าภาษีอีกประมาณสองหมื่นกว่าบาทครับ
- รีวิว First Class สายการบิน SWISS — ขั้นสุดของสวิส เส้นทาง Zurich-Bangkok
- พาเดินงาน AIX 2024 ✈️ — พรีวิวที่นั่งใหม่ การบินไทย Airbus A320 ก่อนใช้จริงสิ้นปีนี้
- รีวิว การบินไทย Royal First Class ปี 2024 — กรุงเทพ-ลอนดอน Boeing 777-300ER
- รีวิว Qatar Qsuite ปี 2024 — ยังเป็น Business Class ที่ดีที่สุดอยู่มั้ย?
- รีวิว ANA “The Suite” — First Class ใหม่ บน Boeing 777-300ER
- รีวิว Dassault Falcon 6X — พาบินไปสิงคโปร์ด้วย Private Jet ลำตัวกว้างสุดในโลก
- รีวิว EVA Air Business Class — ซีแอตเทิล-ไทเป Boeing 787-10
- รีวิวกระเป๋าเดินทาง Samsonite ใหม่ 3 รุ่น — ทน เท่ เบา ล้อดีจริง ฟังก์ชั่นครบ!
- เจาะลึก ATC — เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ อาชีพสำคัญในอุตสาหกรรมการบิน
- รีวิว Business Class สายการบิน Swiss — กรุงเทพ-ซูริค Boeing 777-300ER
- พาชม “SAT-1” เทอร์มินัลใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดแล้ววันนี้
- รีวิว Finnair Business Class ที่นั่งแบบใหม่ ใหญ่สบายมาก แต่ปรับเอนไม่ได้! 🤨
- สุดในรุ่น “ACH130 Aston Martin Edition” — เฮลิคอปเตอร์ Airbus ที่ตกแต่งโดย Aston Martin!
- รีวิว Shark Aero เครื่องบินสปอร์ตสายซิ่ง เร็ว แรง ทำสถิติบินเดี่ยวรอบโลกมาแล้ว
- รีวิว Emirates First Class ปี 2023 — บินสบาย อาบน้ำบนเครื่องบิน หรูสุดแบบไม่เกรงใจใคร
- รีวิว ANA 「THE Room」 Business Class แบบใหม่ล่าสุด กว้างสุด มีประตูทุกที่นั่ง
- รีวิวคู่ พาซู่ชิงขึ้น First Class – สายการบิน Cathay Pacific ไปนิวยอร์ก!
- พาเจาะลึก Airbus A330neo ลำใหม่ล่าสุดของ Thai Lion Air
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019
- รีวิว First Class สายการบิน Cathay Pacific นิวยอร์ก-ฮ่องกง ยาวๆ 16 ชั่วโมงรวด
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific นั่งไกลๆ ปรับปรุงเมนูใหม่ อาหารจัดเต็มสุดๆ
- รีวิว First Class สายการบิน Lufthansa พร้อมรีวิว First Class Terminal สนามบิน Frankfurt
- พาชม เจาะลึก Airbus A330neo รุ่นใหม่ล่าสุด ลำแรกของ Thai AirAsia X
- รีวิว Business Class สายการบิน EVA Air ไทเป-ซานฟรานซิสโก (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Business Class สายการบิน Hong Kong Airlines เครื่องบินใหม่ ราคาสุดคุ้ม
- รีวิว Business Class – Cathay Pacific บน Boeing 777-300ER เส้นทาง SFO-HKG
- รีวิว Business Class บน Boeing 787-10 ใหม่ล่าสุด สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่เหมือน First Class เป็นห้องส่วนตัว ปิดประตูได้!
- บุกศูนย์ฝึกลูกเรือ Singapore Airlines ชมเบื้องหลังเที่ยวบินที่ไกลที่สุดในโลก!
- รีวิว Royal First Class การบินไทย บน Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน
- 6 ความลับของ Economy Class รู้แล้วจะนั่งสบายขึ้นอีกเยอะ!
- รีวิว ‘Throne Seat’ ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย
- รีวิวสุดยอด First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด บน Singapore Airlines A380
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific กรุงเทพฯ – ฮ่องกง
- รีวิว Emirates First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด – First Class แรกของโลกที่เป็นห้องปิด 100%
- รีวิว ‘Premium Economy’ การบินไทย ดีงามไม่ต่างจาก Business Class
- รีวิว Premium Flatbed ชั้นธุรกิจ สายการบิน Thai AirAsia X
- รีวิว ห้องอาบน้ำบนเครื่องบิน Emirates First Class – Airbus A380
- รีวิว ANA Premium Economy ชั้นประหยัดพรีเมียม นั่งสบาย ในราคาไม่โหดร้าย
- พาชมโรงงาน Boeing พร้อมพา Boeing 787-9 ลำใหม่ของการบินไทยกลับสุวรรณภูมิ
- รีวิว Emirates First Class Suites ห้องส่วนตัวสุดหรูบนเครื่องบิน
- รีวิว First Class สายการบิน Korean Air แบบใหม่ล่าสุดบน Boeing 777-300ER
- พรีวิว! ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย บน Boeing 787-9
- รีวิว Prestige Suites ที่นั่ง Business Class แบบใหม่บนสายการบิน Korean Air
- การบินไทย มีที่นั่ง Business Class แบบไหนบ้าง? + วิธีจองให้ได้ที่นั่งแบบใหม่
- รีวิว ScootBiz สายการบิน NokScoot เส้นทางดอนเมือง-ไทเป ที่นั่งกว้าง ราคาเบา
- รีวิว First Class แบบใหม่ของ Singapore Airlines – Boeing 777-300ER
- รีวิว “The Private Room” โคตรเลานจ์ของสนามบิน Singapore Changi
- รีวิวไฟลต์สุดน่ารัก เครื่องบิน “Gudetama” ไข่ขี้เกียจ ลำเดียวในโลก
- รีวิว การบินไทย Royal Silk Class บน Airbus A350-900 XWB รุ่นล่าสุด
- รีวิว Etihad ‘Business Studio’ ชั้นธุรกิจที่ไม่มีความทัดเทียม (B77W/A380)
- รีวิว United Polaris Business Class ชั้นธุรกิจรูปแบบใหม่ของ UA
- รีวิว First Class สายการบิน ANA สุดยอดความหรูหราแบบญี่ปุ่น
- รีวิว First Class Suite สายการบิน Asiana หรู เนี๊ยบ สไตล์เกาหลี
- รีวิว Business Class บน A380 สายการบิน Emirates
- รีวิว ชั้น Smile Plus (ชั้นประหยัดพรีเมียม) สายการบินไทยสมายล์
- รีวิว Lufthansa Business Class บน Boeing 747-8I
- รีวิว Etihad First Class “Apartment” ที่สุดของการเดินทางในชั้นเฟิร์สคลาส
- เจาะลึก การบินไทย Boeing 787-8 Dreamliner เครื่องบินที่ไฮเทคที่สุดในฝูงบินปัจจุบัน
- รีวิว Business Class บน Airbus A380 สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางโตเกียว-ซานฟรานฯ (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Royal Silk Class บนการบินไทย Boeing 787 Dreamliner
- รีวิว United Business First Class บน Boeing 787-8 Dreamliner
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว (Boeing 777-200ER)
- รีวิว การบินไทย ชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ใหม่ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการบินไทย
- รีวิว Business Class สายการบิน Austrian เส้นทางกรุงเทพ-เวียนนา
- รีวิว การบินไทย Royal First Class เส้นทางกรุงเทพ-แฟรงก์เฟิร์ต
- รีวิว Royal Laurel Class สายการบิน EVA Air เส้นทางไทเป-ซานฟรานซิสโก
- รีวิว เครื่องบินที่มุ้งมิ้งกระดิ่งแมวที่สุดในโลก Hello Kitty Jet
- รีวิว Royal First Class บนการบินไทย Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว