รีวิว ชั้น Smile Plus (ชั้นประหยัดพรีเมียม) สายการบินไทยสมายล์

รีวิววันนี้ ผมพามาบินในประเทศบ้างครับ ด้วยสายการบินไทยสมายล์ สายการบินรุ่นน้องของการบินไทย ที่เปิดให้บริการมาสักพักหนึ่งแล้ว และมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นตามลำดับจนกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมของหลายจุดหมายปลายทาง

Disclosure: บทความนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง

สายการบินไทยสมายล์ เปิดตัวในปี 2012 โดยเริ่มจากการให้บริการให้เส้นทางกรุงเทพฯ – มาเก๊าก่อน และได้ขยายเส้นทางบินให้ครอบคลุมในภูมิภาคมากขึ้น โดยให้บริการครอบคลุม 12 จังหวัดในไทย และอีกหลากหลายเมืองในภูมิภาคเอเชีย โดยปัจจุบัน เที่ยวบินส่วนมากจะเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเป็นหลัก ซึ่งจะมีเฉพาะเส้นทางเชียงใหม่, ภูเก็ต, ขอนแก่นบางเที่ยวบินที่เดินทางจากสนามบินดอนเมืองด้วย

9e5a6_thaismile_logo

สายการบินไทยสมายล์ ใช้รหัสเที่ยวบิน WE และเป็นโค้ดแชร์กับการบินไทย (TG) ด้วย โดยผู้โดยสารสามารถสะสมไมล์ในโปรแกรม Royal Orchid Plus ได้ตามปกติ รวมถึงสามารถใช้ไมล์ ROP ในการแลกตั๋วเพื่อใช้โดยสารกับไทยสมายล์ได้ด้วยอัตราเดียวกับที่อยู่ในตารางแลกไมล์ของการบินไทยครับ

แม้ว่า ไทยสมายล์ จะเป็นบริษัทลูกของการบินไทย แต่การบริหารจัดการเกือบทั้งหมด ทั้งงานด้านการขาย บริการ พนักงาน และลูกเรือ จะเป็นคนละชุดกันกับการบินไทยนะครับ

ภาพ: การบินไทยสมายล์
ภาพ: การบินไทยสมายล์

ปัจจุบัน สายการบินไทยสมายล์ ใช้เครื่องบินแบบ Airbus A320-200 เพียงแบบเดียวเท่านั้นในการให้บริการ มีประจำการทั้งหมด 20 ลำ และ ทั้งหมดจัดวางที่นั่งแบบเดียวกัน คือแบ่งเป็นชั้นโดยสาร Smile Plus (Premium Economy) จำนวน 12 ที่นั่ง และที่เหลือจะเป็นที่นั่งในชั้นประหยัด (Economy) โดยวันนี้ผมจะรีวิวในส่วนของชั้นประหยัดพรีเมียม หรือที่ไทยสมายล์เรียกมันว่าชั้น Smile Plus ให้ชมกันครับ

Flight: WE24

Route: BKK-UBP
Date: 1 Oct 2016
Departure Time: 12:30
Arrival Time: 13:35
Duration: 1 hr 5 mins
Seat: 31K
Class: Smile Plus
Aircraft: Airbus A320-200
Registration: HS-TXG (ปราจีนบุรี)

Check-in

img_0310

เที่ยวบินวันนี้ ผมเดินทางจากกรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) ไปยังอุบลราชธานีครับ ซึ่งการเช็กอิน ก็มีขั้นตอนตามปกติของสนามบินแห่งนี้ ใช้เคาน์เตอร์เช็กอินบริเวณ Row D และมีการแบ่งเคาน์เตอร์ต่างๆ เอาไว้ชัดเจน รวมถึงได้แยกเคาน์เตอร์เช็กอินของชั้น Smile Plus ออกมาต่างหากด้วย หรือใครที่ถือบัตรทอง Royal Orchid Plus ก็สามารถมาใช้ช่องนี้ในการเช็กอินได้เช่นกัน

Royal Silk Lounge (Domestic), Suvarnabhumi Airport

img_0414

เมื่อเช็กอินแล้ว ต้องผ่านขั้นตอนการสแกนกระเป๋า โดยต้องผ่านคิวของเที่ยวบินภายในประเทศตามปกติครับ ไม่มีแถว Priority แต่อย่างใด แต่ผู้โดยสารในชั้น Smile Plus ที่ถึงแม้จะเทียบเท่ากับชั้น Premium Economy ทางการบินไทยสมายล์ก็ยังใจดี อนุญาตให้ใช้ห้องรับรองหรือ Lounge ของการบินไทยได้ด้วย ซึ่งสามารถเข้าใช้ที่ Royal Silk Lounge บริเวณ Concourse A ได้เลย

img_0415

ภายในเลานจ์ของการบินไทยในโซน Domestic นี้ จะแตกต่างจากฝั่งเที่ยวบินระหว่างประเทศเล็กน้อยในเรื่องของอาหารการกินครับ ที่อาจจะมีไม่หลากหลายเท่า เพราะส่วนมากก็จะเป็นเที่ยวบินระยะสั้นๆ และมีจำนวนผู้โดยสารหมุนเวียนในนี้ไม่มากเท่ากับฝั่งเที่ยวบินระหว่างประเทศ เท่าที่ดูก็จะมีอาหารร้อน 1-2 อย่าง (ช่วงที่ผมเดินทางนี้เป็นเทศกาลกินเจ ก็จะมีอาหารเจบริการด้วย) สลัด ขนมปัง และขนมเล็กๆ น้อยๆ

img_0416

เครื่องดื่ม ก็จะมีชา กาแฟ และ soft drink ต่างๆ แต่เท่าที่สังเกตดู ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริการในเลานจ์นี้ครับ

Boarding

img_0417

เมื่อได้เวลาขึ้นเครื่อง ต้องดูนาฬิกาและเดินมาที่เกตเองนะครับ เพราะจะไม่มีประกาศใดๆ ทั้งนั้น และผู้โดยสารสมายล์พลัส รวมถึงสมาชิกบัตรทอง ROP ก็จะได้สิทธิ์ในการขึ้นเครื่องก่อนคนอื่นๆ

On board

เครื่องบินของไทยสมายล์ ตอนนี้มีเพียงแบบเดียวคือ Airbus A320-200 ครับ โดยแบ่งออกเป็นสองคลาส คือสมายล์พลัส จำนวน 12 ที่นั่ง (3 แถวหน้าสุด) และจะถูกกั้นด้วยม่าน ส่วนที่เหลือด้านหลังจะเป็น Economy ปกติทั้งหมด

img_0418

ที่นั่งของสมายล์พลัส จะเป็นที่นั่งเหมือนกับที่นั่งชั้น Economy ปกตินี่แหละครับ แต่ว่าจะถูกทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น คือที่นั่งตรงกลางจะไม่ถูกใช้งานเลย เวลานั่งก็จะรู้สึกไม่ต้องเบียดกับใคร เพราะที่นั่งข้างๆ เราจะเป็นที่นั่งว่างอยู่เสมอนั่นเอง และยังวางระยะห่างระหว่างที่นั่งให้กว้างกว่าปกติ (Pitch 33 นิ้ว) ในขณะที่ชั้นประหยัดจะมี Pitch อยู่ที่ 28-31 นิ้ว)

img_0432

รอบนี้ผมเลือกที่นั่ง 31K ครับ แถวหน้าสุด ริมหน้าต่าง ซึ่งในชั้นสมายล์พลัสนี้ ผมแนะนำให้เลือกที่นั่งในแถว 31 เสมอ เพราะจะมี Pitch กว้างกว่าแถวอื่นๆ ครับ เหยียดขาได้เต็มที่หน่อย แต่จริงๆ แล้วแถว 32 กับ 33 ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นนะครับ

img_0419

นั่งได้แป๊บเดียว น้องแอร์คนสวยก็จะยกเอา welcome drink มาเสิร์ฟให้ครับ (ไทยสมายล์ใช้แอร์โฮสเตสเป็นผู้หญิงทั้งหมด) ไฟลต์นี้เครื่องดื่ม welcome drink เป็นชามะขาม แบบเดียวกับที่เสิร์ฟบนการบินไทย ใส่แก้วมาอย่างดีทีเดียว

img_0420

เนื่องจากเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ ใช้ระยะเวลาในการบินสั้นๆ พอเครื่องขึ้นไปรักษาระดับได้แล้ว น้องแอร์ฯ ก็จะมากางโต๊ะ และใช้ผ้าปูโต๊ะให้อย่างเรียบร้อย เพื่อเตรียมเสิร์ฟอาหารทันที

img_0421

ช่วงที่ผมบิน เป็นช่วงเทศกาลกินเจครับ ช่วงนี้ไทยสมายล์เลยจัดเมนูพิเศษ จากคุณพล ตัณฑเสถียร ที่ออกแบบอาหารเจให้ตลอดช่วงเทศกาล เสิร์ฟบนทุกเที่ยวบินของไทยสมายล์ระหว่างวันที่ 1-9 ต.ค. นี้ โดยผู้โดยสารสมายล์พลัสจะมีให้เลือกสองช้อยส์ (เจทั้งคู่) รอบนี้ผมเลือกเป็นส้มตำไก่ย่าง(เจ)ครับ ใส่ถาดมาอย่างดี ช้อนส้อมและมีด ก็เป็นแบบสแตนเลส มีผ้ากันเปื้อน เกลือ พริกไทย ไม้จิ้มไฟ ผ้าเย็น มัดรวมมาให้อย่างครบถ้วน

img_0423

เสิร์ฟมาพร้อมกับเผือกทอด และนมถั่วเหลืองกระป๋อง โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอาหารเจที่รสชาติดีเลยทีเดียวเลยแหละครับ

img_0422

ของหวานเป็นข้ามเหนียวมะม่วง ที่ดัดแปลงเป็นเยลลี่แปะอยู่บนข้าวเหนียว แปลกๆ ดีครับ ส่วนข้าวเหนียวแห้งไปหน่อย

img_0430

อีกส่วนที่ดีงามในชั้นสมายล์พลัส ก็คือห้องน้ำครับ ที่อยู่บริเวณหน้าสุดของเครื่องบิน ห้องน้ำห้องนี้ไม่ต้องแย่งกับผู้โดยสารชั้นปกติเลย เพราะในระหว่างเที่ยวบิน จะมีม่านกั้นระหว่างชั้นสมายล์พลัสกับชั้นประหยัดเอาไว้ ห้องน้ำนี้จึงถูกใช้แค่ผู้โดยสารสมายล์พลัส (ไม่เกิน 12 คน) บวกกับนักบินเท่านั้น ว่างให้ใช้งานได้สบายๆ หรือถ้ารอคิวก็รอไม่นานครับ แถมยังสะอาดมากอีกด้วย

ยังไม่ทันเมื่อย ก็เดินทางมาถึงที่หมายแล้วครับ เที่ยวบินนี้สั้นแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เดี่ยวมาดูขากลับกันบ้างนะ

Flight: WE25

Route: UBP-BKK
Date: 2 Oct 2016
Departure Time: 14:05
Arrival Time: 15:10
Duration: 1 hr 5 mins
Seat: 31K
Class: Smile Plus
Aircraft: Airbus A320-200
Registration: HS-TXK (ระนอง)

เที่ยวบินขากลับ จากอุบลราชธานี (UBP) กลับไปยังสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงบ่าย สนามบินอุบลฯ มีผู้โดยสารไม่เยอะเท่าไหร่ ไม่ต้องเผื่อเวลาเยอะแยะเพื่อมาถึงสนามบินก่อนเวลาเลยครับ

Check-in

img_0424

เคาน์เตอร์เช็กอินของไทยสมายล์ มีแยกเคาน์เตอร์สำหรับผู้โดยสารสมายล์พลัสเอาไว้ด้วย ขั้นตอนการเช็กอินก็รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องแย่งกับใครเลย

Smile Lounge, Ubon Ratchathani Airport

img_0384

สนามบินอุบลฯ เมื่อก่อนจะมีเลานจ์ของการบินไทยครับ แต่ก็ได้ปิดปรับปรุงไปนานหลายเดือน จนเพิ่งเปิดทำการใหม่เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 59 ที่ผ่านมานี้เอง (ตอนที่ผมไปใช้บริการ คือเพิ่งเปิดได้ 1 วัน ยังใหม่สดมาก) โดยเปิดมาใหม่ในชื่อ Smile Lounge ปรับปรุงให้กลายเป็นเลานจ์ของไทยสมายล์เต็มตัว ด้วยโทนสีส้มที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยสมายล์

img_0385

ผู้โดยสารที่จะเข้ามาใช้บริการ ต้องบินด้วยไทยสมายล์ในชั้นสมายล์พลัส หรือบินไทยสมายล์ในชั้นปกติ แต่เป็นสมาชิกบัตรทอง ROP เท่านั้นครับ ถ้าใครบินสายการบินอื่นๆ ก็หมดสิทธิ์เข้ามาใช้ แม้ว่าจะเป็นสมาชิกบัตรทอง ROP ด้วยก็ตาม

img_0428

จริงๆ เลานจ์นี้พื้นที่เล็กมากเลยครับ นั่งกันได้แค่ประมาณสิบกว่าคน (แต่ที่นั่งสมายล์พลัสบนเครื่องก็มีแค่ 12 ที่แหละนะ เผื่อให้บัตรทอง ROP ด้วยอีกนิดหน่อย) ตกแต่งมาใหม่ น่ารักดี

img_0386

ขนม อาหารร้อน และเครื่องดื่ม ก็มีมาให้แบบน่ารักๆ และอุปกรณ์ต่างๆ ยังใหม่มากๆ ตู้เย็นนี่ดึงเปิดฝาทีแทบจะลากออกมาทั้งตู้ เพราะฝาตู้ยังแน่นมากอยู่ 5555 ต้องรอดูว่าจะคงความใหม่ได้อีกนานเท่าไหร่นะ

Boarding

ส่วนที่ผมคิดว่าที่นี่จัดการได้ดี คือขั้นตอนการเรียกขึ้นเครื่องครับ ที่จะมีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าเครื่องพร้อมแล้ว และเรียกให้ผู้โดยสารในเลานจ์ทั้งหมดขึ้นเครื่องไปก่อนเลย จากนั้นจึงค่อยคว้าไมโครโฟนมาประกาศเรียกผู้โดยสารในโถงด้านนอก ทำให้มั่นใจได้ว่า หากเข้ามานั่งในเลานจ์นี่ ไม่พลาดเที่ยวบิน และได้ขึ้นเครื่องทันทีเมื่อเครื่องบินพร้อมออกเดินทาง ไม่ต้องเบียด ไม่ต้องแย่ง และมีที่เก็บกระเป๋าบนเครื่องบินอย่างแน่นอนนั่นเองครับ

On-board

img_0431

เที่ยวบินขากลับนี้ ก็คล้ายคลึงกับตอนขามาครับ ได้ที่นั่งสักพัก ก็จะมีเครื่องดื่ม welcome drink มาเสิร์ฟ โดยรอบนี้เป็นน้ำเสาวรสโซดา

img_0433

อาหารในไฟลต์ขากลับ (ยังอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ) เสิร์ฟมาเป็นไก่เทริยากิ(เจ) พร้อมสลัดมันฝรั่ง เห็นหน้าตาแบบนี้ อร่อยแบบ amazing เลยครับ อันนี้ผมชอบมาก

img_0435

ซุปมิโสะ ที่เสิร์ฟมา เป็นรูปแบบของเยลลี่แทนที่จะเป็นน้ำซุปร้อนๆ จานนี้ผมว่าจืดไปมาก ส่วนของหวานเป็นขนมปังอะไรสักหว่างหวานๆ ทานง่ายดี

img_0436

ก่อนลงจากเครื่อง ผมขอนมถั่วเหลือง (แบบเดียวกับที่เสิร์ฟตอนเที่ยวบินขามา) น้องพนักงานก็น่ารัก เทใส่แก้ว จัดวางใส่ถาดเล็กๆ เสิร์ฟมาให้เรียบร้อยน่าทานมากครับ

Summary

จริงอยู่ครับ ที่เที่ยวบินภายในประเทศ หรือระหว่างประเทศระยะทางสั้นๆ บินแค่ 1-2 ชั่วโมง หลายคนอาจจะไม่ได้นึกถึงว่าจะต้องเดินทางในชั้นพรีเมียมก็ได้ เพราะต่อให้นั่งชั้นประหยัดก็แป๊บเดียว ยังไม่ทันเมื่อยก็ถึงที่หมายปลายทางแล้ว แต่หากใครต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อาจจะไม่มีตัวเลือกของการเดินทางในคลาสอื่นๆ เลยนอกจากชั้นสมายล์พลัส ที่ไทยสมายล์จัดมาให้ และไทยสมายล์ก็ทำได้อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจเลยทีเดียว ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากชั้นประหยัดปกติจริง และสร้างความแตกต่างได้จริง แม้จะเป็นเก้าอี้แบบเดียวกันก็ตามที

ถ้าเปรียบเทียบว่านี่คือที่นั่งในชั้นประหยัดพรีเมียม (อย่าเอาไปเทียบกับชั้นธุรกิจบนเที่ยวบินระหว่างประเทศนะ) นี่ถือว่าทำได้เกินมาตรฐานแล้วครับ การจัดวางที่นั่งแบบ 2-2 โดยเว้นให้ที่นั่งด้านข้างเป็นที่ว่างเสมอแบบนี้ ถ้าเป็นเที่ยวบิน domestic ของยุโรปหลายสายการบิน จะเรียกที่นั่งแบบนี้ว่าเป็น Business Class ด้วยซ้ำไป (และทำให้หลายคนที่ไม่รู้ ผิดหวังกันมานักต่อนักแล้ว) ไว้ถ้ามีโอกาสเดินทางกับไทยสมายล์ในเที่ยวบินที่ไกลขึ้น ผมจะกลับมารีวิวให้อ่านกันอีกครั้งนะครับ

พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save