รีวิว ‘Throne Seat’ ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย

การบินไทย ออกที่นั่ง Business Class แบบใหม่มาเพิ่มเติมอีกแบบครับ (เป็นสายการบินที่มีที่นั่ง Business หลายแบบมากๆ) โดยคราวนี้เป็นการนำเอาเครื่องบินแบบ A330-300 ลำเดิม ไปเปลี่ยนที่นั่งเป็นแบบใหม่ทั้งลำ ซึ่งจะทำให้ที่นั่ง Business Class โดยรวมของการบินไทย เป็นแบบใหม่ ที่ให้ความสะดวกสบายมากขึ้นกว่าแบบเดิม

Disclosure: บทความนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง

ใครที่มีโอกาสเดินทางด้วยการบินไทยอยู่บ่อยๆ จะพบว่า สายการบินแห่งชาติของเรา มีที่นั่ง Business Class หลายแบบมากๆ (ผมเคยรวบรวมไว้แล้ว >>ที่นี่<<) โดยมีทั้งแบบใหม่ และแบบเก่าปะปนกันไป บางแบบที่ใช้นอนได้สบายมากๆ เป็นส่วนตัวมากๆ เหมาะกับการเดินทางระยะไกล ในขณะที่บางแบบก็เเก่านับสิบปี และไม่เหมาะที่จะนำมาใช้โดยสารในระยะทางไกลๆ อีกแล้ว

ล่าสุด มีข่าวดีครับ ว่าการบินไทย ได้ทยอยนำเครื่องบินแบบ Airbus A330-300 บางส่วน ไปทำการ ‘retrofit’ ที่นั่งทั้งลำให้เป็นแบบใหม่ ทั้ง Business Class และ Economy Class เลย และตอนนี้ลำแรกก็ได้ทำการ retrofit มาเรียบร้อย ใช้บินจริงแล้ว ซึ่งวันนี้ผมจะพาไปขึ้นเคบินใหม่ที่เพิ่งทำการ retrofit กันมานี่แหละครับ

Royal Silk Class
Retrofitted Airbus A330-300

เริ่มกันที่ Business Class หรือว่า Royal Silk Class กันก่อนเลยนะครับ มีจำนวนทั้งสิ้น 31 ที่นั่ง แต่ถ้าดูจากผังที่นั่ง อาจจะงงไปสักพัก เพราะมีการจัดเรียงแบบ 1-2-1 สลับกับ 1-2-2 ครับ เยื้องเป็นฟันปลา สลับกันไปมาในแต่ละแถว ทำให้การเลือกที่นั่งล่วงหน้าของผังที่นั่งใหม่นี้ มีความสำคัญมากๆๆๆๆ ครับ โดยเฉพาะกรณีที่เดินทางคนเดียว ต้องเลือกที่นั่งเดี่ยวให้ได้ ถึงจะมีความเป็นส่วนตัว โดยไม่ต้องลุกให้ หรือไม่ต้องก้าวข้ามผู้โดยสารคนอื่นที่ไม่รู้จักครับ

ที่นั่ง Business Class แบบใหม่นี้ การบินไทยเลือกใช้ที่นั่งของ Thompson Aero Seating รุ่น Vantage ครับ ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มสายการบินยุโรปมาสักระยะหนึ่งแล้ว ตกแต่งในสไตล์และโทนสีม่วงของการบินไทย เคบินสวยงามเลยล่ะครับ แต่ต้องบอกล่วงหน้าเลยว่า เคบินนี้ แต่ละที่นั่ง อาจให้ความสบายที่แตกต่างกันได้อย่างมากเลยนะครับ

แบบแรกที่ขอแนะนำให้คนที่เดินทางคนเดียว จองให้ได้ คือที่นั่งแบบ ‘Throne Seat’ ครับ เป็นที่นั่งเดี่ยว ที่มีพื้นที่มากที่สุดของเคบินนี้ และทั้งลำ มีเพียงแค่ 3 ที่นั่งเท่านั้น นั่นคือที่นั่งแถว J หมายเลข 11J, 14J และ 16J หน้าตาแบบในภาพนี้

เหตุที่ Throne Seat เป็นที่นั่งเดี่ยวที่ดีที่สุด เพราะมีพื้นที่ส่วนตัวทั้งด้านซ้ายและขวาของเก้าอี้ครับ ด้านนึงติดหน้าต่าง และอีกด้านก็เดินออกมายังทางเดินได้เลยโดยไม่ต้องข้ามใครทั้งสิ้น มีช่องเก็บของเพิ่มเติม และมีระยะห่างจากทางเดิน ถือว่าเป็นส่วนตัวมากๆๆ

ส่วนที่นั่งแถว J ตัวหลังสุด (18J) แม้จะเป็นตัวเดี่ยวๆ แต่ก็ไม่ใช่ Throne Seat นะครับ เพราะถูกหั่นพื้นที่ด้านหนึ่งออกไปแบบในรูป และไม่แนะนำให้เลือกสักเท่าไหร่ เพราะอยู่แถวสุดท้ายติดกับครัว และห้องน้ำ อาจจะมีเสียงดังรบกวนครับ

ส่วนถ้าใครจอง Throne Seat ไม่ทัน และเดินทางคนเดียว ออปชั่นที่ดีถัดมา คือที่นั่งแถว A ครับ ไม่ว่าจะเป็น 12A, 15A หรือ 17A ก็จะได้รับความเป็นส่วนตัวเช่นกัน แต่พื้นที่ของแต่ละที่นั่งจะได้ไม่เยอะเท่ากับ Throne Seat นะครับ ส่วนแถว B อาจจะอึดอัดนิดหน่อยเพราะที่นั่งจะอยู่ชิดกับทางเดินมาก

ที่นั่งโซนกลาง เป็นที่นั่งแบบ 2 ที่ แต่ไม่มีแถวไหนที่มีที่นั่งชิดกันครับ การเดินทางด้วยกัน 2 คนบนเคบินนี้ ต้องนั่งห่างกันเล็กน้อย และผมแนะนำให้นั่งโซนกลางนี่แหละครับ เพราะทุกที่นั่งอยู่ติดทางเดินทั้งหมด ลุกไปเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องรบกวนผู้โดยสารอีกคน

ที่นั่งที่ผมไม่แนะนำเลยบนเคบินแบบนี้ (นอกเหนือจากที่นั่งแถวสุดท้ายที่อยู่ติดกับครัวและห้องน้ำ) ก็คือที่นั่งแถว H และ K ทั้งหมดครับ (12H/K, 15H/K และ 17H/K) เพราะนี่เป็นเพียง 6 ที่นั่ง ที่จะไม่ได้รับความเป็นส่วนตัว คนนั่ง H ก็ต้องลุกให้ K เข้าออก หรือคนนั่ง K ก็ต้องคอยปีนข้ามคนนั่ง H เมื่อจะลุกไปเข้าห้องน้ำ ไม่แนะนำจริงๆ ครับ

ต่อมา เรามาดูฟีเจอร์ของที่นั่งกันบ้างนะครับ รอบนี้ การบินไทยปรับปรุงมาใหม่หมดจดทุกอย่างจริงๆ

ที่นั่งเป็นแบบปรับเอนนอนราบได้ 180 องศาครับ โดยใช้เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด (คล้ายกับเข็มขัดนิรภัยรถยนต์)

เมื่อปรับเอนนอนสุด จะหน้าตาประมาณนี้ครับ

พื้นที่ด้านหน้า เมื่อนั่งแล้ว ก็ถือว่าไม่แคบเลยนะครับ เหลือเฟือเลยล่ะ

ส่วนเมื่อปรับเอนนอนแล้ว ช่องสำหรับสอดขา ก็ยังถือว่าไม่แคบอยู่ดีครับ

ปุ่มปรับที่นั่ง มีทั้งหมด 2 ตำแหน่ง ที่แผงปรับที่นั่งหลัก ที่มีรูปแสดงอยู่ ตามนี้

กับปุ่มปรับที่นั่งแบบเร็ว ที่เป็นช็อตคัต ปรับได้ 3 ตำแหน่งหลัก, ปรับนวด และ เปิด/ปิดไฟ ทั้งหมดเป็นระบบสัมผัสครับ ไม่ใช่ปุ่มแบบ hard button

ปลั๊กไฟแบบ Universal และช่องเสียบหูฟัง พร้อมช่องเสียบชาร์จ USB

ขยับขึ้นมุมด้านบน จะเจอกับโคมไฟที่หมุนปรับตำแหน่งได้ ปรับระดับความสว่างได้ 3 ระดับ และ สายหนังสำหรับคล้องเก็บหูฟัง

กล่องที่โต๊ะด้านข้างที่นั่ง สามารถเปิดออกและเก็บของภายในได้เยอะมากครับ (ก่อนลงจากเครื่องระวังลืมของไว้ด้านใน)

ช่องเก็บของอีกด้าน เป็นลักษณะของกล่องคล้ายลิ้นชัก ลึกมากครับ และด้านล่างเป็นตำแหน่งของเสื้อชูชีพ

หน้าจอความบันเทิง ถูกปรับปรุงมาใหม่ เป็นหน้าจอ HD ทัชสกรีนที่ตอบสนองเร็วมากๆ แตะแล้วเมนูไปตามนิ้ว ราวกับสมาร์ทโฟนหรือ Tablet รุ่นใหม่ๆ เลยครับ (ผิดกับรุ่นเก่าลิบลับ ที่กดจนจอยุบก็ไม่ติด) ส่วนใต้หน้าจอ เป็นช่องเก็บของอีกช่อง สำหรับหนีบพวกนิตยสารต่างๆ ได้

รีโมตควบคุม อยู่ในที่วางแขนครับ เปิดมาจะเจอรีโมตตัวเล็กๆ แบบนี้ มีปุ่มเปิดปิดไฟ ปุ่มเรียกพนักงาน

แต่ที่เก๋มากของรีโมตตัวนี้ คือสี่เหลี่ยมดำๆ เล็กๆ อันนี้ สามารถให้นิ้วแตะและเลื่อนซ้ายขวา เพื่อควบคุม cursor บนหน้าจอได้ เหมือนกับการใช้ทัชแพดในคอมพิวเตอร์ Laptop เลยครับ

พลิกมาด้านหลังรีโมต เป็นคอนโทรลเลอร์เกมด้วยนะครับ ตัวเล็กแต่ร้ายกาจมาก

โต๊ะอาหาร พับเก็บอยู่ด้านข้างแบบแนบเนียนมากๆ วิธีการกางออกมา ก็แบบที่เห็นในรูปครับ โต๊ะใหญ่ใช้ได้เหมือนกัน (ที่เห็นเป็นอาหารที่เสิร์ฟไฟลต์กรุงเทพ-กระบี่ที่ผมเดินทางครับ)

เครื่อง Airbus A330-300 มีบริการ WiFi on board ด้วยนะครับ แต่ไฟลต์นี้ผมไม่ได้ใช้บริการเพราะบินแค่ภายในประเทศสั้นๆ

Economy Class

ไม่ได้ปรับปรุงเฉพาะ Royal Silk Class นะครับ แต่ว่า Economy Class ก็ได้ที่นั่งแบบใหม่ด้วย มีจำนวน 263 ที่นั่งเท่าเดิม มาพร้อมจอแบบใหม่ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจ

ด้านล่างหน้าจอ มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5mm ที่เราสามารถใช้หูฟังของตัวเองได้ พร้อมช่องเสียบชาร์จ USB

ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่า Economy Class ไม่มีรีโมตควบคุมหน้าจอมาให้นะครับ ทุกอย่างควบคุมผ่านระบบทัชสกรีนของหน้าจอทั้งหมดเลย

เก้าอี้เมื่อปรับเอน เบาะชิ้นล่างจะเลื่อนไปข้างหน้าเล็กน้อยด้วยครับ ช่วยทำให้ตำแหน่งที่นั่งปรับเอนได้มากขึ้นโดยประหยัดพื้นที่ อันนี้เพิ่มความสบายได้ไม่น้อยเลย

และหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ใต้ที่นั่ง Economy Class ของการบินไทย บนเครื่องบินเกือบทุกแบบในปัจจุบัน มีปลั๊กแบบ Universal มาให้ด้วยนะครับ อยู่ระหว่างเก้าอี้สองตัวครับ เสียบชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ได้สบายเลย

มีลำไหนบ้าง ที่ retrofit มาแล้ว?

เครื่องบินแบบ Airbus A330-300 ของการบินไทย ปัจจุบันมีทั้งหมด 15 ลำ ตามแพลนคือจะนำไป retrofit ทั้งหมด 3 ลำก่อนครับ และตอนนี้ทำเสร็จแล้ว 1 ลำ (ทะเบียน HS-TEN) ณ วันที่เขียน ใช้บินในเส้นทางกรุงเทพ-โตเกียวนาริตะ TG640/641 และเส้นทางกรุงเทพ-กระบี่ TG249/250 แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าครับ ถ้าใครมีไฟลต์บินและเข้าระบบไปเลือกที่นั่ง เจอการจัดวางที่นั่ง Business Class แบบ 1-2-1 สลับกับ 1-2-2 ก็ชัดเจนเลยว่าเป็นเครื่อง A330-300 ที่ผ่านการ retrofit ที่นั่งมาใหม่แล้ว ส่วนถ้าเจอแบบ 2-2-2 ก็จะเป็นที่นั่งแบบเก่านะครับ

พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ

บทความโดย:
อู๋ spin9

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save