รีวิววันนี้ ผมพามาบินในประเทศบ้างครับ ด้วยสายการบินไทยสมายล์ สายการบินรุ่นน้องของการบินไทย ที่เปิดให้บริการมาสักพักหนึ่งแล้ว และมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นตามลำดับจนกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมของหลายจุดหมายปลายทาง
Disclosure: บทความนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง
สายการบินไทยสมายล์ เปิดตัวในปี 2012 โดยเริ่มจากการให้บริการให้เส้นทางกรุงเทพฯ – มาเก๊าก่อน และได้ขยายเส้นทางบินให้ครอบคลุมในภูมิภาคมากขึ้น โดยให้บริการครอบคลุม 12 จังหวัดในไทย และอีกหลากหลายเมืองในภูมิภาคเอเชีย โดยปัจจุบัน เที่ยวบินส่วนมากจะเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเป็นหลัก ซึ่งจะมีเฉพาะเส้นทางเชียงใหม่, ภูเก็ต, ขอนแก่นบางเที่ยวบินที่เดินทางจากสนามบินดอนเมืองด้วย
สายการบินไทยสมายล์ ใช้รหัสเที่ยวบิน WE และเป็นโค้ดแชร์กับการบินไทย (TG) ด้วย โดยผู้โดยสารสามารถสะสมไมล์ในโปรแกรม Royal Orchid Plus ได้ตามปกติ รวมถึงสามารถใช้ไมล์ ROP ในการแลกตั๋วเพื่อใช้โดยสารกับไทยสมายล์ได้ด้วยอัตราเดียวกับที่อยู่ในตารางแลกไมล์ของการบินไทยครับ
แม้ว่า ไทยสมายล์ จะเป็นบริษัทลูกของการบินไทย แต่การบริหารจัดการเกือบทั้งหมด ทั้งงานด้านการขาย บริการ พนักงาน และลูกเรือ จะเป็นคนละชุดกันกับการบินไทยนะครับ
ปัจจุบัน สายการบินไทยสมายล์ ใช้เครื่องบินแบบ Airbus A320-200 เพียงแบบเดียวเท่านั้นในการให้บริการ มีประจำการทั้งหมด 20 ลำ และ ทั้งหมดจัดวางที่นั่งแบบเดียวกัน คือแบ่งเป็นชั้นโดยสาร Smile Plus (Premium Economy) จำนวน 12 ที่นั่ง และที่เหลือจะเป็นที่นั่งในชั้นประหยัด (Economy) โดยวันนี้ผมจะรีวิวในส่วนของชั้นประหยัดพรีเมียม หรือที่ไทยสมายล์เรียกมันว่าชั้น Smile Plus ให้ชมกันครับ
Flight: WE24
Route: BKK-UBP
Date: 1 Oct 2016
Departure Time: 12:30
Arrival Time: 13:35
Duration: 1 hr 5 mins
Seat: 31K
Class: Smile Plus
Aircraft: Airbus A320-200
Registration: HS-TXG (ปราจีนบุรี)
Check-in
เที่ยวบินวันนี้ ผมเดินทางจากกรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) ไปยังอุบลราชธานีครับ ซึ่งการเช็กอิน ก็มีขั้นตอนตามปกติของสนามบินแห่งนี้ ใช้เคาน์เตอร์เช็กอินบริเวณ Row D และมีการแบ่งเคาน์เตอร์ต่างๆ เอาไว้ชัดเจน รวมถึงได้แยกเคาน์เตอร์เช็กอินของชั้น Smile Plus ออกมาต่างหากด้วย หรือใครที่ถือบัตรทอง Royal Orchid Plus ก็สามารถมาใช้ช่องนี้ในการเช็กอินได้เช่นกัน
Royal Silk Lounge (Domestic), Suvarnabhumi Airport
เมื่อเช็กอินแล้ว ต้องผ่านขั้นตอนการสแกนกระเป๋า โดยต้องผ่านคิวของเที่ยวบินภายในประเทศตามปกติครับ ไม่มีแถว Priority แต่อย่างใด แต่ผู้โดยสารในชั้น Smile Plus ที่ถึงแม้จะเทียบเท่ากับชั้น Premium Economy ทางการบินไทยสมายล์ก็ยังใจดี อนุญาตให้ใช้ห้องรับรองหรือ Lounge ของการบินไทยได้ด้วย ซึ่งสามารถเข้าใช้ที่ Royal Silk Lounge บริเวณ Concourse A ได้เลย
ภายในเลานจ์ของการบินไทยในโซน Domestic นี้ จะแตกต่างจากฝั่งเที่ยวบินระหว่างประเทศเล็กน้อยในเรื่องของอาหารการกินครับ ที่อาจจะมีไม่หลากหลายเท่า เพราะส่วนมากก็จะเป็นเที่ยวบินระยะสั้นๆ และมีจำนวนผู้โดยสารหมุนเวียนในนี้ไม่มากเท่ากับฝั่งเที่ยวบินระหว่างประเทศ เท่าที่ดูก็จะมีอาหารร้อน 1-2 อย่าง (ช่วงที่ผมเดินทางนี้เป็นเทศกาลกินเจ ก็จะมีอาหารเจบริการด้วย) สลัด ขนมปัง และขนมเล็กๆ น้อยๆ
เครื่องดื่ม ก็จะมีชา กาแฟ และ soft drink ต่างๆ แต่เท่าที่สังเกตดู ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริการในเลานจ์นี้ครับ
Boarding
เมื่อได้เวลาขึ้นเครื่อง ต้องดูนาฬิกาและเดินมาที่เกตเองนะครับ เพราะจะไม่มีประกาศใดๆ ทั้งนั้น และผู้โดยสารสมายล์พลัส รวมถึงสมาชิกบัตรทอง ROP ก็จะได้สิทธิ์ในการขึ้นเครื่องก่อนคนอื่นๆ
On board
เครื่องบินของไทยสมายล์ ตอนนี้มีเพียงแบบเดียวคือ Airbus A320-200 ครับ โดยแบ่งออกเป็นสองคลาส คือสมายล์พลัส จำนวน 12 ที่นั่ง (3 แถวหน้าสุด) และจะถูกกั้นด้วยม่าน ส่วนที่เหลือด้านหลังจะเป็น Economy ปกติทั้งหมด
ที่นั่งของสมายล์พลัส จะเป็นที่นั่งเหมือนกับที่นั่งชั้น Economy ปกตินี่แหละครับ แต่ว่าจะถูกทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น คือที่นั่งตรงกลางจะไม่ถูกใช้งานเลย เวลานั่งก็จะรู้สึกไม่ต้องเบียดกับใคร เพราะที่นั่งข้างๆ เราจะเป็นที่นั่งว่างอยู่เสมอนั่นเอง และยังวางระยะห่างระหว่างที่นั่งให้กว้างกว่าปกติ (Pitch 33 นิ้ว) ในขณะที่ชั้นประหยัดจะมี Pitch อยู่ที่ 28-31 นิ้ว)
รอบนี้ผมเลือกที่นั่ง 31K ครับ แถวหน้าสุด ริมหน้าต่าง ซึ่งในชั้นสมายล์พลัสนี้ ผมแนะนำให้เลือกที่นั่งในแถว 31 เสมอ เพราะจะมี Pitch กว้างกว่าแถวอื่นๆ ครับ เหยียดขาได้เต็มที่หน่อย แต่จริงๆ แล้วแถว 32 กับ 33 ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นนะครับ
นั่งได้แป๊บเดียว น้องแอร์คนสวยก็จะยกเอา welcome drink มาเสิร์ฟให้ครับ (ไทยสมายล์ใช้แอร์โฮสเตสเป็นผู้หญิงทั้งหมด) ไฟลต์นี้เครื่องดื่ม welcome drink เป็นชามะขาม แบบเดียวกับที่เสิร์ฟบนการบินไทย ใส่แก้วมาอย่างดีทีเดียว
เนื่องจากเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ ใช้ระยะเวลาในการบินสั้นๆ พอเครื่องขึ้นไปรักษาระดับได้แล้ว น้องแอร์ฯ ก็จะมากางโต๊ะ และใช้ผ้าปูโต๊ะให้อย่างเรียบร้อย เพื่อเตรียมเสิร์ฟอาหารทันที
ช่วงที่ผมบิน เป็นช่วงเทศกาลกินเจครับ ช่วงนี้ไทยสมายล์เลยจัดเมนูพิเศษ จากคุณพล ตัณฑเสถียร ที่ออกแบบอาหารเจให้ตลอดช่วงเทศกาล เสิร์ฟบนทุกเที่ยวบินของไทยสมายล์ระหว่างวันที่ 1-9 ต.ค. นี้ โดยผู้โดยสารสมายล์พลัสจะมีให้เลือกสองช้อยส์ (เจทั้งคู่) รอบนี้ผมเลือกเป็นส้มตำไก่ย่าง(เจ)ครับ ใส่ถาดมาอย่างดี ช้อนส้อมและมีด ก็เป็นแบบสแตนเลส มีผ้ากันเปื้อน เกลือ พริกไทย ไม้จิ้มไฟ ผ้าเย็น มัดรวมมาให้อย่างครบถ้วน
เสิร์ฟมาพร้อมกับเผือกทอด และนมถั่วเหลืองกระป๋อง โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอาหารเจที่รสชาติดีเลยทีเดียวเลยแหละครับ
ของหวานเป็นข้ามเหนียวมะม่วง ที่ดัดแปลงเป็นเยลลี่แปะอยู่บนข้าวเหนียว แปลกๆ ดีครับ ส่วนข้าวเหนียวแห้งไปหน่อย
อีกส่วนที่ดีงามในชั้นสมายล์พลัส ก็คือห้องน้ำครับ ที่อยู่บริเวณหน้าสุดของเครื่องบิน ห้องน้ำห้องนี้ไม่ต้องแย่งกับผู้โดยสารชั้นปกติเลย เพราะในระหว่างเที่ยวบิน จะมีม่านกั้นระหว่างชั้นสมายล์พลัสกับชั้นประหยัดเอาไว้ ห้องน้ำนี้จึงถูกใช้แค่ผู้โดยสารสมายล์พลัส (ไม่เกิน 12 คน) บวกกับนักบินเท่านั้น ว่างให้ใช้งานได้สบายๆ หรือถ้ารอคิวก็รอไม่นานครับ แถมยังสะอาดมากอีกด้วย
ยังไม่ทันเมื่อย ก็เดินทางมาถึงที่หมายแล้วครับ เที่ยวบินนี้สั้นแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เดี่ยวมาดูขากลับกันบ้างนะ
Flight: WE25
Route: UBP-BKK
Date: 2 Oct 2016
Departure Time: 14:05
Arrival Time: 15:10
Duration: 1 hr 5 mins
Seat: 31K
Class: Smile Plus
Aircraft: Airbus A320-200
Registration: HS-TXK (ระนอง)
เที่ยวบินขากลับ จากอุบลราชธานี (UBP) กลับไปยังสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงบ่าย สนามบินอุบลฯ มีผู้โดยสารไม่เยอะเท่าไหร่ ไม่ต้องเผื่อเวลาเยอะแยะเพื่อมาถึงสนามบินก่อนเวลาเลยครับ
Check-in
เคาน์เตอร์เช็กอินของไทยสมายล์ มีแยกเคาน์เตอร์สำหรับผู้โดยสารสมายล์พลัสเอาไว้ด้วย ขั้นตอนการเช็กอินก็รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องแย่งกับใครเลย
Smile Lounge, Ubon Ratchathani Airport
สนามบินอุบลฯ เมื่อก่อนจะมีเลานจ์ของการบินไทยครับ แต่ก็ได้ปิดปรับปรุงไปนานหลายเดือน จนเพิ่งเปิดทำการใหม่เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 59 ที่ผ่านมานี้เอง (ตอนที่ผมไปใช้บริการ คือเพิ่งเปิดได้ 1 วัน ยังใหม่สดมาก) โดยเปิดมาใหม่ในชื่อ Smile Lounge ปรับปรุงให้กลายเป็นเลานจ์ของไทยสมายล์เต็มตัว ด้วยโทนสีส้มที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยสมายล์
ผู้โดยสารที่จะเข้ามาใช้บริการ ต้องบินด้วยไทยสมายล์ในชั้นสมายล์พลัส หรือบินไทยสมายล์ในชั้นปกติ แต่เป็นสมาชิกบัตรทอง ROP เท่านั้นครับ ถ้าใครบินสายการบินอื่นๆ ก็หมดสิทธิ์เข้ามาใช้ แม้ว่าจะเป็นสมาชิกบัตรทอง ROP ด้วยก็ตาม
จริงๆ เลานจ์นี้พื้นที่เล็กมากเลยครับ นั่งกันได้แค่ประมาณสิบกว่าคน (แต่ที่นั่งสมายล์พลัสบนเครื่องก็มีแค่ 12 ที่แหละนะ เผื่อให้บัตรทอง ROP ด้วยอีกนิดหน่อย) ตกแต่งมาใหม่ น่ารักดี
ขนม อาหารร้อน และเครื่องดื่ม ก็มีมาให้แบบน่ารักๆ และอุปกรณ์ต่างๆ ยังใหม่มากๆ ตู้เย็นนี่ดึงเปิดฝาทีแทบจะลากออกมาทั้งตู้ เพราะฝาตู้ยังแน่นมากอยู่ 5555 ต้องรอดูว่าจะคงความใหม่ได้อีกนานเท่าไหร่นะ
Boarding
ส่วนที่ผมคิดว่าที่นี่จัดการได้ดี คือขั้นตอนการเรียกขึ้นเครื่องครับ ที่จะมีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าเครื่องพร้อมแล้ว และเรียกให้ผู้โดยสารในเลานจ์ทั้งหมดขึ้นเครื่องไปก่อนเลย จากนั้นจึงค่อยคว้าไมโครโฟนมาประกาศเรียกผู้โดยสารในโถงด้านนอก ทำให้มั่นใจได้ว่า หากเข้ามานั่งในเลานจ์นี่ ไม่พลาดเที่ยวบิน และได้ขึ้นเครื่องทันทีเมื่อเครื่องบินพร้อมออกเดินทาง ไม่ต้องเบียด ไม่ต้องแย่ง และมีที่เก็บกระเป๋าบนเครื่องบินอย่างแน่นอนนั่นเองครับ
On-board
เที่ยวบินขากลับนี้ ก็คล้ายคลึงกับตอนขามาครับ ได้ที่นั่งสักพัก ก็จะมีเครื่องดื่ม welcome drink มาเสิร์ฟ โดยรอบนี้เป็นน้ำเสาวรสโซดา
อาหารในไฟลต์ขากลับ (ยังอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ) เสิร์ฟมาเป็นไก่เทริยากิ(เจ) พร้อมสลัดมันฝรั่ง เห็นหน้าตาแบบนี้ อร่อยแบบ amazing เลยครับ อันนี้ผมชอบมาก
ซุปมิโสะ ที่เสิร์ฟมา เป็นรูปแบบของเยลลี่แทนที่จะเป็นน้ำซุปร้อนๆ จานนี้ผมว่าจืดไปมาก ส่วนของหวานเป็นขนมปังอะไรสักหว่างหวานๆ ทานง่ายดี
ก่อนลงจากเครื่อง ผมขอนมถั่วเหลือง (แบบเดียวกับที่เสิร์ฟตอนเที่ยวบินขามา) น้องพนักงานก็น่ารัก เทใส่แก้ว จัดวางใส่ถาดเล็กๆ เสิร์ฟมาให้เรียบร้อยน่าทานมากครับ
Summary
จริงอยู่ครับ ที่เที่ยวบินภายในประเทศ หรือระหว่างประเทศระยะทางสั้นๆ บินแค่ 1-2 ชั่วโมง หลายคนอาจจะไม่ได้นึกถึงว่าจะต้องเดินทางในชั้นพรีเมียมก็ได้ เพราะต่อให้นั่งชั้นประหยัดก็แป๊บเดียว ยังไม่ทันเมื่อยก็ถึงที่หมายปลายทางแล้ว แต่หากใครต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อาจจะไม่มีตัวเลือกของการเดินทางในคลาสอื่นๆ เลยนอกจากชั้นสมายล์พลัส ที่ไทยสมายล์จัดมาให้ และไทยสมายล์ก็ทำได้อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจเลยทีเดียว ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากชั้นประหยัดปกติจริง และสร้างความแตกต่างได้จริง แม้จะเป็นเก้าอี้แบบเดียวกันก็ตามที
ถ้าเปรียบเทียบว่านี่คือที่นั่งในชั้นประหยัดพรีเมียม (อย่าเอาไปเทียบกับชั้นธุรกิจบนเที่ยวบินระหว่างประเทศนะ) นี่ถือว่าทำได้เกินมาตรฐานแล้วครับ การจัดวางที่นั่งแบบ 2-2 โดยเว้นให้ที่นั่งด้านข้างเป็นที่ว่างเสมอแบบนี้ ถ้าเป็นเที่ยวบิน domestic ของยุโรปหลายสายการบิน จะเรียกที่นั่งแบบนี้ว่าเป็น Business Class ด้วยซ้ำไป (และทำให้หลายคนที่ไม่รู้ ผิดหวังกันมานักต่อนักแล้ว) ไว้ถ้ามีโอกาสเดินทางกับไทยสมายล์ในเที่ยวบินที่ไกลขึ้น ผมจะกลับมารีวิวให้อ่านกันอีกครั้งนะครับ
พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ
- พาชม “ARIA SUITE” — Business Class แบบใหม่ของ Cathay Pacific มีประตูปิดทุกที่นั่ง!
- รีวิว First Class สายการบิน SWISS — ขั้นสุดของสวิส เส้นทาง Zurich-Bangkok
- พาเดินงาน AIX 2024 ✈️ — พรีวิวที่นั่งใหม่ การบินไทย Airbus A320 ก่อนใช้จริงสิ้นปีนี้
- รีวิว การบินไทย Royal First Class ปี 2024 — กรุงเทพ-ลอนดอน Boeing 777-300ER
- รีวิว Qatar Qsuite ปี 2024 — ยังเป็น Business Class ที่ดีที่สุดอยู่มั้ย?
- รีวิว ANA “The Suite” — First Class ใหม่ บน Boeing 777-300ER
- รีวิว Dassault Falcon 6X — พาบินไปสิงคโปร์ด้วย Private Jet ลำตัวกว้างสุดในโลก
- รีวิว EVA Air Business Class — ซีแอตเทิล-ไทเป Boeing 787-10
- รีวิวกระเป๋าเดินทาง Samsonite ใหม่ 3 รุ่น — ทน เท่ เบา ล้อดีจริง ฟังก์ชั่นครบ!
- เจาะลึก ATC — เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ อาชีพสำคัญในอุตสาหกรรมการบิน
- รีวิว Business Class สายการบิน Swiss — กรุงเทพ-ซูริค Boeing 777-300ER
- พาชม “SAT-1” เทอร์มินัลใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดแล้ววันนี้
- รีวิว Finnair Business Class ที่นั่งแบบใหม่ ใหญ่สบายมาก แต่ปรับเอนไม่ได้! 🤨
- สุดในรุ่น “ACH130 Aston Martin Edition” — เฮลิคอปเตอร์ Airbus ที่ตกแต่งโดย Aston Martin!
- รีวิว Shark Aero เครื่องบินสปอร์ตสายซิ่ง เร็ว แรง ทำสถิติบินเดี่ยวรอบโลกมาแล้ว
- รีวิว Emirates First Class ปี 2023 — บินสบาย อาบน้ำบนเครื่องบิน หรูสุดแบบไม่เกรงใจใคร
- รีวิว ANA 「THE Room」 Business Class แบบใหม่ล่าสุด กว้างสุด มีประตูทุกที่นั่ง
- รีวิวคู่ พาซู่ชิงขึ้น First Class – สายการบิน Cathay Pacific ไปนิวยอร์ก!
- พาเจาะลึก Airbus A330neo ลำใหม่ล่าสุดของ Thai Lion Air
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019
- รีวิว First Class สายการบิน Cathay Pacific นิวยอร์ก-ฮ่องกง ยาวๆ 16 ชั่วโมงรวด
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific นั่งไกลๆ ปรับปรุงเมนูใหม่ อาหารจัดเต็มสุดๆ
- รีวิว First Class สายการบิน Lufthansa พร้อมรีวิว First Class Terminal สนามบิน Frankfurt
- พาชม เจาะลึก Airbus A330neo รุ่นใหม่ล่าสุด ลำแรกของ Thai AirAsia X
- รีวิว Business Class สายการบิน EVA Air ไทเป-ซานฟรานซิสโก (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Business Class สายการบิน Hong Kong Airlines เครื่องบินใหม่ ราคาสุดคุ้ม
- รีวิว Business Class – Cathay Pacific บน Boeing 777-300ER เส้นทาง SFO-HKG
- รีวิว Business Class บน Boeing 787-10 ใหม่ล่าสุด สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่เหมือน First Class เป็นห้องส่วนตัว ปิดประตูได้!
- บุกศูนย์ฝึกลูกเรือ Singapore Airlines ชมเบื้องหลังเที่ยวบินที่ไกลที่สุดในโลก!
- รีวิว Royal First Class การบินไทย บน Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน
- 6 ความลับของ Economy Class รู้แล้วจะนั่งสบายขึ้นอีกเยอะ!
- รีวิว ‘Throne Seat’ ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย
- รีวิวสุดยอด First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด บน Singapore Airlines A380
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific กรุงเทพฯ – ฮ่องกง
- รีวิว Emirates First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด – First Class แรกของโลกที่เป็นห้องปิด 100%
- รีวิว ‘Premium Economy’ การบินไทย ดีงามไม่ต่างจาก Business Class
- รีวิว Premium Flatbed ชั้นธุรกิจ สายการบิน Thai AirAsia X
- รีวิว ห้องอาบน้ำบนเครื่องบิน Emirates First Class – Airbus A380
- รีวิว ANA Premium Economy ชั้นประหยัดพรีเมียม นั่งสบาย ในราคาไม่โหดร้าย
- พาชมโรงงาน Boeing พร้อมพา Boeing 787-9 ลำใหม่ของการบินไทยกลับสุวรรณภูมิ
- รีวิว Emirates First Class Suites ห้องส่วนตัวสุดหรูบนเครื่องบิน
- รีวิว First Class สายการบิน Korean Air แบบใหม่ล่าสุดบน Boeing 777-300ER
- พรีวิว! ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย บน Boeing 787-9
- รีวิว Prestige Suites ที่นั่ง Business Class แบบใหม่บนสายการบิน Korean Air
- การบินไทย มีที่นั่ง Business Class แบบไหนบ้าง? + วิธีจองให้ได้ที่นั่งแบบใหม่
- รีวิว ScootBiz สายการบิน NokScoot เส้นทางดอนเมือง-ไทเป ที่นั่งกว้าง ราคาเบา
- รีวิว First Class แบบใหม่ของ Singapore Airlines – Boeing 777-300ER
- รีวิว “The Private Room” โคตรเลานจ์ของสนามบิน Singapore Changi
- รีวิวไฟลต์สุดน่ารัก เครื่องบิน “Gudetama” ไข่ขี้เกียจ ลำเดียวในโลก
- รีวิว การบินไทย Royal Silk Class บน Airbus A350-900 XWB รุ่นล่าสุด
- รีวิว Etihad ‘Business Studio’ ชั้นธุรกิจที่ไม่มีความทัดเทียม (B77W/A380)
- รีวิว United Polaris Business Class ชั้นธุรกิจรูปแบบใหม่ของ UA
- รีวิว First Class สายการบิน ANA สุดยอดความหรูหราแบบญี่ปุ่น
- รีวิว First Class Suite สายการบิน Asiana หรู เนี๊ยบ สไตล์เกาหลี
- รีวิว Business Class บน A380 สายการบิน Emirates
- รีวิว ชั้น Smile Plus (ชั้นประหยัดพรีเมียม) สายการบินไทยสมายล์
- รีวิว Lufthansa Business Class บน Boeing 747-8I
- รีวิว Etihad First Class “Apartment” ที่สุดของการเดินทางในชั้นเฟิร์สคลาส
- เจาะลึก การบินไทย Boeing 787-8 Dreamliner เครื่องบินที่ไฮเทคที่สุดในฝูงบินปัจจุบัน
- รีวิว Business Class บน Airbus A380 สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางโตเกียว-ซานฟรานฯ (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Royal Silk Class บนการบินไทย Boeing 787 Dreamliner
- รีวิว United Business First Class บน Boeing 787-8 Dreamliner
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว (Boeing 777-200ER)
- รีวิว การบินไทย ชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ใหม่ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการบินไทย
- รีวิว Business Class สายการบิน Austrian เส้นทางกรุงเทพ-เวียนนา
- รีวิว การบินไทย Royal First Class เส้นทางกรุงเทพ-แฟรงก์เฟิร์ต
- รีวิว Royal Laurel Class สายการบิน EVA Air เส้นทางไทเป-ซานฟรานซิสโก
- รีวิว เครื่องบินที่มุ้งมิ้งกระดิ่งแมวที่สุดในโลก Hello Kitty Jet
- รีวิว Royal First Class บนการบินไทย Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว