รีวิววันนี้ ผมพาไปขึ้น Business Class ของ Lufthansa สายการบินแห่งชาติของเยอรมันครับ ซึ่งผมมีโอกาสได้ใช้บริการในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แม้ว่าผมจะไม่ใช่แฟนตัวยงของสายการบินในแถบยุโรปสักเท่าไหร่ แต่ไฟลต์นี้ไม่แย่เลยนะครับ ไปชมกันเลย
Lufthansa เป็นสายการบินแห่งชาติของเยอรมันครับ และ เป็นสายการบินยุโรปสายหลัก ที่เป็นพันธมิตรร่วมกับการบินไทยในกลุ่มสมาชิก Star Alliance มีไฟลต์เดินทางออกจากสุวรรณภูมิตรงสู่แฟรงก์เฟิร์ตทุกวัน ซึ่งใช้เครื่องบินแบบ Boeing 747-400 วันละหนึ่งเที่ยวบินครับ
Disclosure: บทความนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง
แต่ไฟลต์ที่ผมจะพาไปขึ้นวันนี้ ไม่ใช่ไฟลต์กรุงเทพ-แฟรงก์เฟิร์ต แต่เป็นไฟลต์ที่ผมได้เดินทางไปบราซิลเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ในเส้นทาง แฟรงก์เฟิร์ต (FRA) – รีโอเดจาเนโร (GIG) ที่ใช้เครื่องบินจัมโบ้เจ็ตรุ่นใหม่กว่าที่ใช้บินสุวรรณภูมิ ในชื่อรุ่น Boeing 747-8I และมีการจัดวางที่นั่งไม่เหมือนกันครับ
Flight: LH500
Route: FRA-GIG
Date: 28 Jun 2016
Departure Time: 22:15
Arrival Time: 5:05 (+1)
Duration: 11 hr 50 mins
Seat: 5D
Class: Business
Aircraft: Boeing 747-8I
Registration: DABYF
เที่ยวบิน LH500 เดินทางจากแฟรงก์เฟิร์ต ไปรีโอเดจาเนโร ใช้เวลาเดินทาง 11 ชั่วโมง 50 นาทีครับ และเป็น red-eye flight เดินทางข้ามคืน ไปถึงรีโอตอนเช้ามืด ซึ่งถ้าสามารถนอนหลับพักผ่อนบนเครื่องได้ก็จะเป็นเวลาสวยๆ ที่พร้อมจะทำงานเมื่อถึงที่หมายได้ตลอดทั้งวันพอดี
Lufthansa Senator Lounge, Frankfurt Airport
เลานจ์ที่สนามบิน Frankfurt จะเต็มไปด้วยเลานจ์ของ Lufthansa เลยครับ กระจายอยู่มากกว่า 10 เลานจ์อยู่ทุกส่วนของเทอร์มินัล และอยู่ใกล้กับเกตมาก ซึ่งบางเลานจ์ก็จะมีข้อจำกัดเรื่องการเข้าใช้ เช่น ใช้ได้เฉพาะผู้โดยสาร First Class หรือต้องถือบัตรทอง Star Alliance ร่วมด้วยถึงจะเข้าได้ เป็นต้น
แต่ต้องบอกก่อนว่า เลานจ์ส่วนมากในสนามบินยุโรป ก็จะไม่ได้เพียบพร้อมครบเครื่องเท่ากับเลานจ์ในฝั่งเอเชียนะครับ ส่วนมากจะเน้นเรื่องที่นั่งมากกว่า ส่วนของกิน ทั้งกินเล่น และกินเอาอิ่มนี่อย่าคาดหวังอะไรกับมันมากนะครับ อย่างมาแวะรอบนี้ ผมมีเวลาไม่เยอะ เลยได้แค่แวะใช้ห้องอาบน้ำเท่านั้น
ห้องอาบน้ำของที่นี่ ต้องลงชื่อเข้าใช้ก่อนครับ และในห้องก็อยู่จัดอย่างเรียบง่าย มีตู้อาบน้ำเล็กๆ ที่ทำมาอย่างดี น้ำอุ่นและไหลแรงมาก มีสบู่แชมพูแบบรวมกันในขวดเดียวไว้ให้กดใช้ แต่ไม่มี amenity อย่างอื่นให้เท่าไหร่ มาแบบเรียบง่าย พอใช้งานได้ครับ
จากเลานจ์สามารถมองเห็นเครื่องบิน Boeing 747-8I ลำที่จะพาเราเดินทางในเที่ยวบินวันนี้ได้ด้วย
Boarding
ถึงเวลาขึ้นเครื่อง โชคดีที่เกตอยู่ติดกับเลานจ์เลยครับ และในเลานจ์ก็มีทางเชื่อมมาที่เกตได้เลยด้วย ซึ่งทำไว้ดีมากๆ เพราะทางเชื่อมที่เข้ามาที่เกต จะเชื่อมเข้าสะพาน boarding ของ First/Business Class พอดีเลย
On board
Business Class ของ Lufthansa บนเครื่องบินแบบ Boeing 747-8I นี้ จะแบ่งเป็นสองส่วน คือ upper deck ชั้นบนของเครื่องบินจำนวน 32 ที่นั่ง เรียงแบบ 2-2) และ main deck ชั้นล่างอีก 36 ที่นั่ง (เรียงแบบ 2-2-2) โดยวันนี้ผมได้ที่นั่ง 5D ซึ่งอยู่ชั้นล่างของเครื่องบินครับ
ที่นั่งบนเครื่องไทป์นี้ เรียงไว้แบบ 2-2-2 แต่ละที่นั่งเอียงเข้าหากันเป็นคู่ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารที่นั่งติดหน้าต่าง ไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวเท่าที่ควร เพราะจะไม่สามารถลุกออกมาที่ทางเดินได้อย่างสะดวก ต้องลุกผ่านผู้โดยสารอีกคนออกมา (หากไม่รู้จักกัน ก็จะสร้างความอึดอัดหน่อยครับ) ส่วนที่นั่งของผมอยู่แถวกลางติดทางเดิน ถือว่าโอเคมากๆ เลย
ที่นั่งแบบ flatbed บนไฟลต์นี้ สามารถปรับเอนนอนได้ราบ 180 องศาครับ โดยด้านหน้ามีพื้นที่ให้วางขาได้มากพอสมควร และมีหน้าจอทีวีหันมาแบบเอียงๆ
ทีวีสามารถกดปลดล็อกเพื่อหันหน้าจอมาให้ทิศทางปกติได้ แต่ตอนที่เครื่องขึ้นและลง จะต้องพับเก็บเข้าไป ทำให้ดูลำบากนิดนึง
ผมลองกดเมนูความบันเทิงดู พบว่ามีหนังใหม่ไม่มากนัก แต่มีหนังเก่าเยอะหลายเรื่อง รวมถึงไฟลต์นี้มีระบบดาวเทียมที่สามารถให้เราดูทีวีแบบสดๆ ได้ ซึ่งช่วงที่ผมเดินทางนั้น มีเหตุระเบิดสนามบินอิสตันบูลที่ตุรกี ก็มีข่าวให้ได้ชมกันสดๆ เลย (บรรยากาศบนเครื่องตอนข่าวนี้ออกก็ค่อนข้างแตกตื่น และมีผู้โดยสารหลายคนเปิดดูช่องข่าวเดียวกันนี้แหละครับ)
บริเวณโต๊ะด้านข้าง เป็นตำแหน่งของปุ่มปรับที่นั่งครับ ซึ่งก็เป็นปุ่มเบสิค ปรับเอนได้ละเอียดพอสมควร และมีปุ่มลัดสำหรับกดนอนราบ, เอนหลัง และปรับเป็นตำแหน่งตรง
โต๊ะด้านข้างนี้ สามารถยกขึ้นได้ และเป็นตำแหน่งของที่เก็บโต๊ะทานข้าว รีโมทควบคุมหน้าจอความบันเทิง และหูฟัง
หูฟังที่ Lufthansa ใช้ เป็นของ Bose เลยทีเดียวครับ ถือว่าจัดเต็มมากๆ ถ้าเทียบกับ Business Class ของสายการบินอื่นๆ
ชุดกระเป๋า amenity ที่ให้มา เป็นของ Samsonite ใบเล็กๆ ข้างในมีแค่ของใช้จำเป็นไม่กี่อย่าง เช่น ผ้าปิดตา ที่อุดหู แปรงสีฟัน
หลังจากนั่งได้ไม่นาน พนักงานต้อนรับเอาเมนูสำหรับ Business Class มาให้ พร้อมกับเครื่องดื่ม welcome drink ครับ (แน่นอนว่าต้องเป็นแชมเปญอยู่แล้ว)
เครื่องขึ้นได้สักพัก พนักงานต้อนรับก็เอาของว่างมาเสิร์ฟครับ จานแรกผมรับเป็นสลัดกุ้ง
เมนคอร์สจานนี้ คือ Arctic Char (ปลาในตระกูลแซลมอน) เสิร์ฟพร้อม Risotto ครับ อร่อยกว่าที่เห็นพอสมควร (จากประสบการณ์การเรียนที่เยอรมันมาเป็นปี รู้ซึ้งดีกับรสชาติอาหารของประเทศนี้ ผมเลยไม่คาดหวังอะไรกับรสชาติอาหารบนไฟลต์นี้เลยครับ แต่ก็ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้มากเลยนะ)
ปิดท้ายด้วยผลไม้สด และชาร้อนครับ ผลไม้ก็เสิร์ฟมาแบบที่เห็นนี่แหละ ไร้ซึ่งศิลปะการจัดวางใดๆ ทั้งสิ้น 555
ไฟลต์นี้มีอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ให้ใช้ด้วยนะครับ ผ่านเครือข่ายที่เรียกว่า Lufthansa FlyNet ซึ่งคิดเงินแยกเป็น 3 แพ็กเกจ คือ 1 ชั่วโมง ราคา €9, แพ็ก 4 ชั่วโมง ราคา €14 และ แพ็กที่ใช้ได้ตลอดทั้งไฟลต์ ในราคา €17 แต่ถ้าไม่ได้สมัครแพ็ก ก็ยังใช้เครือข่ายนี้ในการดูข้อมูลเบื้องต้นของจุดหมายปลายทางได้ฟรีครับ ว่าสภาพอากาศเป็นอย่างไร อุณหภูมิเท่าไหร่ และเหลือเวลาในการเดินทางอีกกี่ชั่วโมง เป็นต้น
หลังเสิร์ฟเรียบร้อย พนักงานก็ทำการหรี่ไฟในเคบินเพื่อให้ผู้โดยสารได้นอนหลับพักผ่อนกันครับ เห็นที่นั่งแบบนี้ นอนจริงๆ ไม่แย่เลยนะ หมอนกับผ้าห่มก็ถือว่าลงตัวมาก ช่องวางขาหลังจากปรับเอนนอนราบแล้วก็อยู่ในตำแหน่งที่โอเค และสามารถหลับได้สบายๆ ครับ
ไฟลต์นี้ผมหลับไปได้ประมาณ 6 ชั่วโมงยาวๆ เลยครับ ก็ลุกขึ้นมาดูทีวีบ้าง อ่านหนังสือบ้าง จนถึงเวลาเสิร์ฟอาหารเช้า ก่อนที่เครื่องจะแลนด์ที่รีโอเดจาเนโร โดยทั้งหมดถูกเสิร์ฟมาในครั้งเดียวเลย เต็มโต๊ะครับ รสชาติโอเคมากๆ ทุกจานเช่นกัน
Wrap Up
แม้ว่า Lufthansa จะไม่ได้มีความหวือหวากับการบริการในชั้น Business Class ตามสไตล์สายการบินยุโรป แต่การบริการโดยรวม ถือว่าเป็นไฟลต์ที่ลงตัวและราบรื่นมากๆ ไฟลต์นึงเลยครับ ถ้าถามถึงจุดเด่นของ Lufthansa Business Class นี่ผมหาไม่เจอเลยนะ ทั้งการบริการทั่วไป อาหาร ที่นั่ง ฯลฯ ที่ไม่มีอะไรโดดเด่น และไม่มีอะไรที่เหนือกว่าสายการบินอื่นๆ เลย แต่ในทางกลับกัน มันก็ไม่มีให้ติเช่นกัน ทุกอย่างมันได้มาตรฐานไปหมด
คนเดินทางบ่อยๆ โดยเฉพาะสมาชิก Star Alliance ถ้าจะเลือกใช้ Lufthansa ก็คงเป็นเรื่องความอุ่นใจแหละครับ ที่เป็นสายการบินที่ให้ความไว้วางใจได้อย่างมาก ดังนั้นจะเรียกเรื่องนี้ว่าเป็นจุดเด่นของ Lufthansa ก็คงไม่ผิดอะไรนะครับ
ส่วนจุดหมายอย่างบราซิล โดยเฉพาะ Rio de Janeiro ที่กำลังจะเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกจากการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกนั้น ถ้าจะเดินทางจากกรุงเทพ เท่าที่ผมหาข้อมูลก่อนเดินทางไฟลต์นี้ หากเป็นกลุ่ม Star Alliance ตัวเลือกของ Lufthansa (via Frankfurt) น่าจะเหมาะสมที่สุดครับ แต่มันจะไม่ใช่เส้นทางที่สั้นที่สุด เพราะถ้าสั้นที่สุดแบบเปลี่ยนเครื่องครั้งเดียว น่าจะเป็นทาง Emirates (via Dubai) มากกว่า ซึ่งก็แล้วแต่ตัวเลือกและความสะดวกของแต่ละคนครับ
พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ
- พาชม “ARIA SUITE” — Business Class แบบใหม่ของ Cathay Pacific มีประตูปิดทุกที่นั่ง!
- รีวิว First Class สายการบิน SWISS — ขั้นสุดของสวิส เส้นทาง Zurich-Bangkok
- พาเดินงาน AIX 2024 ✈️ — พรีวิวที่นั่งใหม่ การบินไทย Airbus A320 ก่อนใช้จริงสิ้นปีนี้
- รีวิว การบินไทย Royal First Class ปี 2024 — กรุงเทพ-ลอนดอน Boeing 777-300ER
- รีวิว Qatar Qsuite ปี 2024 — ยังเป็น Business Class ที่ดีที่สุดอยู่มั้ย?
- รีวิว ANA “The Suite” — First Class ใหม่ บน Boeing 777-300ER
- รีวิว Dassault Falcon 6X — พาบินไปสิงคโปร์ด้วย Private Jet ลำตัวกว้างสุดในโลก
- รีวิว EVA Air Business Class — ซีแอตเทิล-ไทเป Boeing 787-10
- รีวิวกระเป๋าเดินทาง Samsonite ใหม่ 3 รุ่น — ทน เท่ เบา ล้อดีจริง ฟังก์ชั่นครบ!
- เจาะลึก ATC — เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ อาชีพสำคัญในอุตสาหกรรมการบิน
- รีวิว Business Class สายการบิน Swiss — กรุงเทพ-ซูริค Boeing 777-300ER
- พาชม “SAT-1” เทอร์มินัลใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดแล้ววันนี้
- รีวิว Finnair Business Class ที่นั่งแบบใหม่ ใหญ่สบายมาก แต่ปรับเอนไม่ได้! 🤨
- สุดในรุ่น “ACH130 Aston Martin Edition” — เฮลิคอปเตอร์ Airbus ที่ตกแต่งโดย Aston Martin!
- รีวิว Shark Aero เครื่องบินสปอร์ตสายซิ่ง เร็ว แรง ทำสถิติบินเดี่ยวรอบโลกมาแล้ว
- รีวิว Emirates First Class ปี 2023 — บินสบาย อาบน้ำบนเครื่องบิน หรูสุดแบบไม่เกรงใจใคร
- รีวิว ANA 「THE Room」 Business Class แบบใหม่ล่าสุด กว้างสุด มีประตูทุกที่นั่ง
- รีวิวคู่ พาซู่ชิงขึ้น First Class – สายการบิน Cathay Pacific ไปนิวยอร์ก!
- พาเจาะลึก Airbus A330neo ลำใหม่ล่าสุดของ Thai Lion Air
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019
- รีวิว First Class สายการบิน Cathay Pacific นิวยอร์ก-ฮ่องกง ยาวๆ 16 ชั่วโมงรวด
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific นั่งไกลๆ ปรับปรุงเมนูใหม่ อาหารจัดเต็มสุดๆ
- รีวิว First Class สายการบิน Lufthansa พร้อมรีวิว First Class Terminal สนามบิน Frankfurt
- พาชม เจาะลึก Airbus A330neo รุ่นใหม่ล่าสุด ลำแรกของ Thai AirAsia X
- รีวิว Business Class สายการบิน EVA Air ไทเป-ซานฟรานซิสโก (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Business Class สายการบิน Hong Kong Airlines เครื่องบินใหม่ ราคาสุดคุ้ม
- รีวิว Business Class – Cathay Pacific บน Boeing 777-300ER เส้นทาง SFO-HKG
- รีวิว Business Class บน Boeing 787-10 ใหม่ล่าสุด สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่เหมือน First Class เป็นห้องส่วนตัว ปิดประตูได้!
- บุกศูนย์ฝึกลูกเรือ Singapore Airlines ชมเบื้องหลังเที่ยวบินที่ไกลที่สุดในโลก!
- รีวิว Royal First Class การบินไทย บน Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน
- 6 ความลับของ Economy Class รู้แล้วจะนั่งสบายขึ้นอีกเยอะ!
- รีวิว ‘Throne Seat’ ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย
- รีวิวสุดยอด First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด บน Singapore Airlines A380
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific กรุงเทพฯ – ฮ่องกง
- รีวิว Emirates First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด – First Class แรกของโลกที่เป็นห้องปิด 100%
- รีวิว ‘Premium Economy’ การบินไทย ดีงามไม่ต่างจาก Business Class
- รีวิว Premium Flatbed ชั้นธุรกิจ สายการบิน Thai AirAsia X
- รีวิว ห้องอาบน้ำบนเครื่องบิน Emirates First Class – Airbus A380
- รีวิว ANA Premium Economy ชั้นประหยัดพรีเมียม นั่งสบาย ในราคาไม่โหดร้าย
- พาชมโรงงาน Boeing พร้อมพา Boeing 787-9 ลำใหม่ของการบินไทยกลับสุวรรณภูมิ
- รีวิว Emirates First Class Suites ห้องส่วนตัวสุดหรูบนเครื่องบิน
- รีวิว First Class สายการบิน Korean Air แบบใหม่ล่าสุดบน Boeing 777-300ER
- พรีวิว! ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย บน Boeing 787-9
- รีวิว Prestige Suites ที่นั่ง Business Class แบบใหม่บนสายการบิน Korean Air
- การบินไทย มีที่นั่ง Business Class แบบไหนบ้าง? + วิธีจองให้ได้ที่นั่งแบบใหม่
- รีวิว ScootBiz สายการบิน NokScoot เส้นทางดอนเมือง-ไทเป ที่นั่งกว้าง ราคาเบา
- รีวิว First Class แบบใหม่ของ Singapore Airlines – Boeing 777-300ER
- รีวิว “The Private Room” โคตรเลานจ์ของสนามบิน Singapore Changi
- รีวิวไฟลต์สุดน่ารัก เครื่องบิน “Gudetama” ไข่ขี้เกียจ ลำเดียวในโลก
- รีวิว การบินไทย Royal Silk Class บน Airbus A350-900 XWB รุ่นล่าสุด
- รีวิว Etihad ‘Business Studio’ ชั้นธุรกิจที่ไม่มีความทัดเทียม (B77W/A380)
- รีวิว United Polaris Business Class ชั้นธุรกิจรูปแบบใหม่ของ UA
- รีวิว First Class สายการบิน ANA สุดยอดความหรูหราแบบญี่ปุ่น
- รีวิว First Class Suite สายการบิน Asiana หรู เนี๊ยบ สไตล์เกาหลี
- รีวิว Business Class บน A380 สายการบิน Emirates
- รีวิว ชั้น Smile Plus (ชั้นประหยัดพรีเมียม) สายการบินไทยสมายล์
- รีวิว Lufthansa Business Class บน Boeing 747-8I
- รีวิว Etihad First Class “Apartment” ที่สุดของการเดินทางในชั้นเฟิร์สคลาส
- เจาะลึก การบินไทย Boeing 787-8 Dreamliner เครื่องบินที่ไฮเทคที่สุดในฝูงบินปัจจุบัน
- รีวิว Business Class บน Airbus A380 สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางโตเกียว-ซานฟรานฯ (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Royal Silk Class บนการบินไทย Boeing 787 Dreamliner
- รีวิว United Business First Class บน Boeing 787-8 Dreamliner
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว (Boeing 777-200ER)
- รีวิว การบินไทย ชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ใหม่ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการบินไทย
- รีวิว Business Class สายการบิน Austrian เส้นทางกรุงเทพ-เวียนนา
- รีวิว การบินไทย Royal First Class เส้นทางกรุงเทพ-แฟรงก์เฟิร์ต
- รีวิว Royal Laurel Class สายการบิน EVA Air เส้นทางไทเป-ซานฟรานซิสโก
- รีวิว เครื่องบินที่มุ้งมิ้งกระดิ่งแมวที่สุดในโลก Hello Kitty Jet
- รีวิว Royal First Class บนการบินไทย Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว