รีวิวไฟลต์วันนี้ ผมพาไปขึ้นสายการบิน United Airlines ครับ สายการบินเอกชนรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ที่ผมได้ใช้เดินทางในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในเส้นทางเดนเวอร์-โตเกียว (DEN-NRT) และได้มีโอกาสเดินทางในชั้นโดยสารพรีเมียมแบบใหม่ บนเครื่องบินแบบ Boeing 787-800 Dreamliner ด้วย
Disclosure: บทความนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง
United Airlines ปัจจุบันถือว่าเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อวัดด้วยจำนวนจุดหมายที่ครอบคลุมทั่วโลกครับ เป็นหนึ่งในสายการบินหลักของสหรัฐอเมริกา แต่คนไทยเราอาจจะไม่มีโอกาสได้ใช้บริการกันมากเท่าไรนัก เพราะ United ได้ยกเลิกเส้นทางกรุงเทพไปสักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ยังคงทำ code-share ร่วมกับสายการบิน ANA ที่เป็นสมาชิกกลุ่ม Star Alliance อยู่ จึงอาจจะได้ใช้บริการบ้างสำหรับคนที่เดินทางไปหรือกลับจากสหรัฐฯ ผ่านการต่อเครื่องที่สนามบินโตเกียวนาริตะครับ
วันนี้ผมพาไปขึ้นเครื่องบิน United Airlines ในชั้นโดยสารพรีเมียมที่ชื่อคลาส ‘United BusinessFirst’ ชื่อคลาสแปลกประหลาด แต่ความจริงมันคือ Business Class ในเส้นทางไกลๆ แบบระหว่างทวีปของ United นั่นเอง โดยวันนี้ผมเดินทางในเส้นทาง Denver – Tokyo (DEN-NRT) ด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 787-800 Dreamliner ที่มีการจัดที่นั่ง BusinessFirst แบบใหม่ครับ
Flight: UA139
Route: DEN-NRT
Date: 13 Jan 2016
Departure Time: 12:25
Arrival Time: 16:30
Duration: 12 hr 5 mins
Seat: 1D
Class: United BusinessFirst
Aircraft: Boeing 787-800
Registration: N27908
เที่ยวบินที่เดินทางวันนี้ ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง 5 นาทีครับ จากเมืองเดนเวอร์ ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมายังกรุงโตเกียว ออกเดินทางเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง และเดินทางมาถึงโตเกียวในเวลาบ่ายสี่โมงครึ่งของวันถัดไป ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในไฟลต์ที่เหน็ดเหนื่อยมากทีเดียวหากไม่ได้รับการบริการที่ดี และต้องออกตัวก่อนว่า สายการบินสัญชาติอเมริกันส่วนมาก ก็ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องการบริการอะไรอยู่แล้วล่ะครับ ยังไงก็สู้สายเอเชียไม่ค่อยได้อยู่แล้ว ผมจึงไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายกับไฟลต์นี้
Check-in
สายการบิน United ที่สนามบินเดนเวอร์ (DEN) นี่ถือว่าเป็นสายการบินเจ้าถิ่นครับ เพราะเดนเวอร์ถือเป็น Hub ใหญ่แห่งหนึ่งในสหรัฐของสายการบินนี้ จึงมีเคาน์เตอร์และป้ายสายการบิน United ยึดครองอยู่เป็นส่วนมาก การเช็กอินของคลาส United BusinessFirst จะมีเคาน์เตอร์แยกต่างหาก โดย United ใช้ชื่อเรียกเคาน์เตอร์พิเศษว่า Premier Access ซึ่งหมายรวมถึงผู้โดยสารในชั้นพรีเมียมทั้งหมด บวกกับสมาชิกบัตรทอง Star Alliance ก็สามารถมาใช้เคาน์เตอร์ Premier Access พวกนี้ได้ มีเปิดไว้หลายช่อง แทบไม่ต้องรอคิวกันเลยครับ
United Club, Denver International Airport
เลานจ์ที่สามารถใช้ได้ของที่สนามบินนี้ เป็นของ United Club ซึ่งมีกระจายตัวอยู่ทั้งฝั่ง West และฝั่ง East ใกล้กับเกตที่เราจะต้องเดินทางครับ มีคนใช้บริการค่อนข้างหนาแน่น
อาหารใน United Club ต้องถือว่าเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกเลย คือมันค่อนข้างแย่เลยล่ะครับ ไม่ถูกปากคนไทยอย่างรุนแรงทุกเมนู ไม่ควรคาดหวังกับการมาทานเอาอิ่มอะไรในเลานจ์นี้
แต่สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ถือว่าโอเคมากครับ เก้าอี้หลากหลายโซน มีปลั๊กให้เสียบชาร์จไฟ และหนังสือให้เลือกอ่านฆ่าเวลามากมาย แต่ที่สนามบินนี้ไม่มีห้องอาบน้ำให้บริการนะครับ
Boarding
ขั้นตอนการ Boarding ของสายการบิน United จะแบ่งการขึ้นเครื่องออกเป็น 5 กลุ่มครับ ตามชั้นที่นั่ง เลขที่นั่ง และคลาสการจอง (เยอะไปหน่อยผมว่า) โดยบน boarding pass จะมีเขียนชัดเจนเลยว่าเราอยู่กลุ่มไหน ก็ให้ไปต่อคิวตามแถวที่แบ่งเอาไว้หน้าเกต และแน่นอนว่าผู้โดยสารในชั้น BusinessFirst ก็จะถูกจัดลำดับไว้อยู่ในกลุ่ม 1 เพื่อขึ้นเครื่องได้ก่อนคนอื่น
On Board
การจัดที่นั่งของ United BusinessFirst บน Boeing 787-800 Dreamliner ถูกวางแบบ 2-2-2 รวม 36 ที่นั่ง อยู่บริเวณส่วนหน้าสุดของเครื่องบิน โดยที่นั่งแต่ละที่สามารถปรับเอนนอนได้ราบและมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง ผมคิดว่าการจัดที่นั่งแบบ 2-2-2 ของที่นั่งแบบนี้ ที่นั่งโซนริมหน้าต่างจะเสียเปรียบหน่อยหากไม่ได้เดินทางคู่กัน เพราะต้องคอยขอทาง หลีกทางให้กับผู้โดยสารอีกคนเสมอเวลาคนที่นั่งริมหน้าต่างจะลุกไปห้องน้ำนั่นเองครับ ผมเลยมักจะชอบที่นั่งโซนกลาง (D, E) หากเดินทางคนเดียวบนเครื่องบินที่มีการจัดที่นั่งแบบนี้ และไฟลต์นี้ผมเลือกที่นั่ง 1D หน้าสุดของเครื่องไว้เลย
ที่นั่ง United BusinessFirst ไฟลต์นี้มีความใหม่มากๆ เลยแหละครับ ทำให้ผมพอจะลืมภาพที่นั่งเยินๆ ของสายการบินอเมริกันไปได้ทันทีที่ได้เห็นที่นั่งเลย (อย่างที่บอกแหละว่าไม่ได้คาดหวังอะไรไว้มากมาย) ที่นั่งถูกวางไว้แบบเอียงๆ ไม่ได้ขนานไปกับตัวเครื่องเพื่อประหยัดพื้นที่อย่างที่เห็น
มองไปด้านหน้า เป็นหน้าจอความบันเทิงขนาด 15.4 นิ้ว ใต้จอภาพเป็นที่วางเท้าและช่องเก็บของ
ช่องระหว่างที่นั่ง เป็นตำแหน่งของโต๊ะเล็กๆ, ที่เก็บหูฟัง, เซฟตี้การ์ด, ปลั๊กไฟแบบ Universal, ช่องเสียบ USB, และช่องเสียบหูฟัง
หูฟังที่ให้มา ตีโลโก้ของสายการบิน United เอง คุณภาพกลางๆ ครับ ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก
มีรองเท้าแตะสำหรับใช้เดินบนเครื่องบินมาให้ 1 คู่
ช่องด้านข้างพนักพิง เป็นช่องเสียบเอกสาร มีนิตยสาร Rhapsody ของสายการบินเองให้อ่าน พร้อมโบรชัวร์สินค้า Duty Free ต่างๆ และยังเป็นตำแหน่งของที่เก็บรีโมทควบคุมหน้าจอความบันเทิงด้วย ใช้พื้นที่รอบที่นั่งได้ครบถ้วนมากๆ
มีโต๊ะสำหรับวางแก้วน้ำและอาหารเล็กๆ ข้างที่นั่ง พร้มปุ่มควบคุมการปรับเอนของเก้าอี้ที่ปรับได้ไม่ละเอียดมากนัก มีแค่ปรับเอน, ปรับ Lumbar และ ปรับที่วางเท้า ให้เลือกปรับ + หรือ – แยกกันแค่นั้น แล้วก็มีปุ่มสำหรับกดเพื่อปรับเอนราบ และ ปรับที่นั่งให้อยู่ระดับตรง ง่ายๆ แค่นั้นเลย
หมอนและผ้าห่มที่ให้มา ถือว่าดีกว่าที่คาดคิดมากๆ ครับ หมอนมีขนาดใหญ่พอดีกับที่นั่ง และนุ่มสบายสุดๆ ผ้าห่มก็มีความหนาพอดิบพอดีกับอุณภูมิในเครื่องบิน สอบผ่านในเรื่องนี้สบายๆ
กระเป๋าชุด amenity ที่ให้มา เป็นกระเป๋าหนังสีน้ำตาลสวยงามใช้ได้ครับ ด้านหน้ามีโลโก้ United BusinessFirst
ด้านในเป็นสินค้าของ Cowshed ทั้งหมด ลิปมัน ผ้าปิดตา ผ้าเย็น โลชั่น ชุดแปรงสีฟัน หวี ที่อุดหู ฯลฯ ดีงามทีเดียวล่ะครับ
รีโมทควบคุมหน้าจอความบันเทิงยังคงเป็นแบบมาตรฐานที่เราเห็นได้จากสายการบินอื่นๆ แต่หนังบน United นี่ไม่ค่อยใหม่เอาซะเลย
นั่งได้สักพัก พนักงานต้อนรับเดินมาทักทายพร้อมเอาเมนูอาหารมาให้เลือก และถามตัวเลือกของเครื่องดื่ม welcome drink ครับ โดยพนักงานต้อนรับที่ดูแลโซนที่ผมนั่งเป็นชาวญี่ปุ่น (เท่าที่สังเกต United ค่อนข้างใส่ใจผู้โดยสารญี่ปุ่นมากครับ ทั้งการใช้พนักงานต้อนรับชาวญี่ปุ่นในสัดส่วนค่อนข้างมากในไฟลต์ที่จะไปโตเกียว เมนูทุกอย่าง และการประกาศด้วยภาษาญี่ปุ่น ที่จะได้ยินตั้งแต่การประกาศขึ้นเครื่องที่เกตแล้ว)
ผมรับเป็นน้ำเปล่า ที่ถูกเอามาเสิร์ฟในแก้วพลาสติกธรรมดาๆ เลย
หลังจากที่เครื่องบินเทคออฟ ทำระดับความสูงได้แล้ว ออเดิร์ฟก็นำมาเสิร์ฟทันทีครับ ผมรับเป็นแชมเปญ (คราวนี้ถูกเสิร์ฟในแก้วสวยงามแล้ว) มาพร้อมกับถั่วที่อุ่นร้อนมาแบบพอดิบพอดี
แต่หลังจากเสิร์ฟได้ไม่นาน เครื่องบินก็ต้องบินผ่าน turbelence รุนแรงทีเดียวครับ ชนิดที่ต้องหยุดให้บริการ พนักงานเดินบนเคบินกันไม่ได้อยู่ร่วมสิบนาที รุนแรงขนาดน้ำทุกแก้วในเคบินกระฉอกออกมาหมดทุกคนอย่างที่เห็น เลอะเทอะกันไปหลายราย แต่ที่น่าประทับใจคือ พอ turbulence สงบลง พนักงานต้อนรับชาวญี่ปุ่นก็ลุกมาแกะผ้าปูโต๊ะชุดใหม่ แล้วเอามาเปลี่ยนให้กับทุกคนทันทีเลยครับ รวดเร็วดีมากๆ
อาหารจานแรกถูกเสิร์ฟตามมาหลังจากนั้นไม่นานครับ ไฟลต์ไปญี่ปุ่นแบบนี้ ก็มักจะมีตัวเลือกของอาหารญี่ปุ่นเสมอ และออเดิร์ฟจานนี้ก็ดูดีไม่น้อย ขาปูที่มีเนื้อปูเป็นก้อนๆ หวานอร่อย ลูกชิ้นไก่ เต้าหู้ เห็ดหอม และ ซาชิมิแซลมอน ปลาหมึก (ซาชิมินี่ชืดไปหน่อย)
สลัดผักรวม นำมาเสิร์ฟในรถเข็นที่สามารถเลือกน้ำสลัดได้หลายแบบ
จานหลักถูกเสิร์ฟตามมา เป็นปลาตาเดียวนึ่ง กุ้ง แซลมอน หอยเชลล์ตัวใหญ่ ที่หวานและหอมอร่อยมาก (ผิดคาดจริงๆ ครับ คือผมไม่เคยคาดหวังกับรสชาติอาหารหรือการบริการอะไรบนสายการบินอเมริกันมาก่อนเลยจริงๆ) เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยญี่ปุ่น และซุปมิโซะ
จบแล้วมีไอศกรีมซันเดย์ปิดท้ายครับ เลือกรสชาติไอศกรีมและท็อปปิ้งได้ตามใจชอบ (เหมือนมีรถเข็นไอติมมาเสิร์ฟถึงหน้าบ้าน 555)
ได้เวลาเอนหลังลงนอนครับ ที่นั่งของ United BusinessFirst ตัวนี้ปรับเอนนอนได้ราบเลย ที่จริงๆ ก็ไม่ได้กว้างอะไรมากมายนัก (ตามสไตล์ที่นั่งรูปแบบนี้) แต่ด้วยความที่หมอนและผ้าห่มนุ่มสบายและอุ่นกำลังดี ทำให้หลับได้ไม่ยากครับ
ด้วยความที่เป็นไฟลต์ยาวนานมาก (12 ชั่วโมงกว่า) ช่วงที่ปล่อยให้ผู้โดยสารพักผ่อนนี่ พนักงานต้อนรับจะเตรียมขนม (โมจิไส้ถั่วแดง) กับขนมเค้กเป็นห่อๆ วางไว้บริเวณแถวหน้าสุดของเครื่องบินให้ผู้โดยสารเดินมาหยิบได้เผื่อหิว หรือจะขอรับเมนูพิเศษอะไรเพิ่มก็กดเรียกได้ตลอดเหมือนกัน
พอปรับเอนนอนลงไปแล้ว จะเห็นปุ่มอยู่ด้านข้างที่นั่ง เพื่อกดปรับเอนขึ้นมาได้อย่างง่ายๆ ใกล้ๆ มือครับ และยังเปิดปิดไฟได้จากปุ่มนี้ด้วย ไม่ต้องลุกขึ้นมาควานหาปุ่มข้างโต๊ะที่พอเราปรับนอนลงไปแล้วจะกดไม่ถึงครับ
เมื่อถึงเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนที่เครื่องจะลงจอด พนักงานต้อนรับก็จะมาถามตัวเลือกของเครื่องดื่มอีกครั้งครับ ผมรับเป็นน้ำส้มคั้นสด
อาหารมื้อก่อนลงจอด ผมรับเป็น Pork Katsu อูด้งผัดกับหมูทอด ราดซอสแกงกะหรี่ญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมกับสาหร่าย และผลไม้สด จานนี้จริงๆ รสชาติโอเคเลยนะครับ แต่อูด้งผัดถูกอุ่นมาแข็งไปหน่อย และแห้งติดจานจนมีส่วนที่ทานไม่ได้ ไม่พิถีพิถันมากนัก
เดินทางมาถึงสนามบินโตเกียวนาริตะอย่างราบรื่น ตรงตามเวลาครับ พนักงานต้อนรับเปิดให้ผู้โดยสารชั้น BusinessFirst ลงจากเครื่องก่อน ซึ่งผมนั่งอยู่แถวหน้าสุดอยู่แล้ว แทบจะติดประตูเครื่องบินเลย ได้รับความสะดวกเป็นอย่างดีครับ ไม่มีรีวิวเที่ยวบินขากลับนะครับ เพราะรอบนี้ไม่ได้เดินทางแบบ round trip ครับ
Wrap Up
เกินกว่าที่คาดไว้ครับ กับชั้นพรีเมียมของ United Airlines สายการบินอเมริกัน ที่ความจริงก็ไม่ได้คาดหวังอะไรไว้เยอะแยะกับการบริการ แต่เคบินแบบใหม่อย่าง Boeing 787 ที่มีความใหม่ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้ความสบายก็สามารถชดเชยกับการบริการที่ไม่มีอะไรโดดเด่นได้พอสมควร บวกกับอาหารที่ดูดีและอร่อยกว่าที่คิด โดยรวมเลยถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และไม่ลังเลถ้าจะมีโอกาสได้กลับไปใช้บริการซ้ำอีกครับ
ส่วนที่ไม่น่าประทับใจนัก คือพนักงานต้อนรับชาวอเมริกัน ที่ไม่ค่อยมีจิตใจบริการเท่าไหร่ (ตามสไตล์สายการบินที่ไม่ใช่สายการบินสัญชาติเอเชีย) ถามอะไรก็จะตอบห้วนๆ หรือชี้นิ้วเอาแบบไม่ได้ให้คำตอบอะไรอย่างใส่ใจครับ ผมถามถึงสินค้าตัวหนึ่งในแคตตาล็อก Duty Free ก็รีบตอบว่า ไม่มี แบบห้วนๆ เลย แต่พอถามจากพนักงานต้อนรับชาวญี่ปุ่นอีกครั้ง ก็พบว่ามีของนี่นา
ถ้าเดินทางจากไทยไปสหรัฐฯ ผ่านการจองตั๋วบนหน้าเว็บ United ก็จะต้องเดินทางจากกรุงเทพ ไปเปลี่ยนเครื่องที่โตเกียวนาริตะก่อนครับ โดยเส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว จะทำการโดยสายการบิน ANA ด้วยโค้ดแชร์ของ UA ก่อน จากนั้นค่อยไปเปลี่ยนเครื่องเป็น UA จากโตเกียวไปยังจุดหมายในสหรัฐฯ ต่อไปที่ผมขอแนะนำให้ดูแบบของเครื่องบินนิดนึงครับ ถ้าได้ BusinessFirst ในเครื่องบินแบบ Boeing 787 ใหม่ ก็จะได้ที่นั่งแบบใหม่เหมือนในรีวิวนี้แหละครับ แต่ถ้าเป็นเครื่องบินแบบ Boeing 747 ก็จะได้เจอที่นั่งแบบเก่า ที่แคบกว่า และมีการวางผังที่นั่งแปลกประหลาด มีการวางที่นั่งบางแถวแบบนั่งกลับหลัง (เหมือนกับนั่งรถไฟเลย) อาจจะมึนๆ งงๆ กันได้ครับ
พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ
- พาชม “ARIA SUITE” — Business Class แบบใหม่ของ Cathay Pacific มีประตูปิดทุกที่นั่ง!
- รีวิว First Class สายการบิน SWISS — ขั้นสุดของสวิส เส้นทาง Zurich-Bangkok
- พาเดินงาน AIX 2024 ✈️ — พรีวิวที่นั่งใหม่ การบินไทย Airbus A320 ก่อนใช้จริงสิ้นปีนี้
- รีวิว การบินไทย Royal First Class ปี 2024 — กรุงเทพ-ลอนดอน Boeing 777-300ER
- รีวิว Qatar Qsuite ปี 2024 — ยังเป็น Business Class ที่ดีที่สุดอยู่มั้ย?
- รีวิว ANA “The Suite” — First Class ใหม่ บน Boeing 777-300ER
- รีวิว Dassault Falcon 6X — พาบินไปสิงคโปร์ด้วย Private Jet ลำตัวกว้างสุดในโลก
- รีวิว EVA Air Business Class — ซีแอตเทิล-ไทเป Boeing 787-10
- รีวิวกระเป๋าเดินทาง Samsonite ใหม่ 3 รุ่น — ทน เท่ เบา ล้อดีจริง ฟังก์ชั่นครบ!
- เจาะลึก ATC — เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ อาชีพสำคัญในอุตสาหกรรมการบิน
- รีวิว Business Class สายการบิน Swiss — กรุงเทพ-ซูริค Boeing 777-300ER
- พาชม “SAT-1” เทอร์มินัลใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดแล้ววันนี้
- รีวิว Finnair Business Class ที่นั่งแบบใหม่ ใหญ่สบายมาก แต่ปรับเอนไม่ได้! 🤨
- สุดในรุ่น “ACH130 Aston Martin Edition” — เฮลิคอปเตอร์ Airbus ที่ตกแต่งโดย Aston Martin!
- รีวิว Shark Aero เครื่องบินสปอร์ตสายซิ่ง เร็ว แรง ทำสถิติบินเดี่ยวรอบโลกมาแล้ว
- รีวิว Emirates First Class ปี 2023 — บินสบาย อาบน้ำบนเครื่องบิน หรูสุดแบบไม่เกรงใจใคร
- รีวิว ANA 「THE Room」 Business Class แบบใหม่ล่าสุด กว้างสุด มีประตูทุกที่นั่ง
- รีวิวคู่ พาซู่ชิงขึ้น First Class – สายการบิน Cathay Pacific ไปนิวยอร์ก!
- พาเจาะลึก Airbus A330neo ลำใหม่ล่าสุดของ Thai Lion Air
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019
- รีวิว First Class สายการบิน Cathay Pacific นิวยอร์ก-ฮ่องกง ยาวๆ 16 ชั่วโมงรวด
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific นั่งไกลๆ ปรับปรุงเมนูใหม่ อาหารจัดเต็มสุดๆ
- รีวิว First Class สายการบิน Lufthansa พร้อมรีวิว First Class Terminal สนามบิน Frankfurt
- พาชม เจาะลึก Airbus A330neo รุ่นใหม่ล่าสุด ลำแรกของ Thai AirAsia X
- รีวิว Business Class สายการบิน EVA Air ไทเป-ซานฟรานซิสโก (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Business Class สายการบิน Hong Kong Airlines เครื่องบินใหม่ ราคาสุดคุ้ม
- รีวิว Business Class – Cathay Pacific บน Boeing 777-300ER เส้นทาง SFO-HKG
- รีวิว Business Class บน Boeing 787-10 ใหม่ล่าสุด สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Qatar Qsuite – Business Class ที่เหมือน First Class เป็นห้องส่วนตัว ปิดประตูได้!
- บุกศูนย์ฝึกลูกเรือ Singapore Airlines ชมเบื้องหลังเที่ยวบินที่ไกลที่สุดในโลก!
- รีวิว Royal First Class การบินไทย บน Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน
- 6 ความลับของ Economy Class รู้แล้วจะนั่งสบายขึ้นอีกเยอะ!
- รีวิว ‘Throne Seat’ ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย
- รีวิวสุดยอด First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด บน Singapore Airlines A380
- รีวิว Business Class สายการบิน Cathay Pacific กรุงเทพฯ – ฮ่องกง
- รีวิว Emirates First Class Suites แบบใหม่ล่าสุด – First Class แรกของโลกที่เป็นห้องปิด 100%
- รีวิว ‘Premium Economy’ การบินไทย ดีงามไม่ต่างจาก Business Class
- รีวิว Premium Flatbed ชั้นธุรกิจ สายการบิน Thai AirAsia X
- รีวิว ห้องอาบน้ำบนเครื่องบิน Emirates First Class – Airbus A380
- รีวิว ANA Premium Economy ชั้นประหยัดพรีเมียม นั่งสบาย ในราคาไม่โหดร้าย
- พาชมโรงงาน Boeing พร้อมพา Boeing 787-9 ลำใหม่ของการบินไทยกลับสุวรรณภูมิ
- รีวิว Emirates First Class Suites ห้องส่วนตัวสุดหรูบนเครื่องบิน
- รีวิว First Class สายการบิน Korean Air แบบใหม่ล่าสุดบน Boeing 777-300ER
- พรีวิว! ที่นั่ง Business Class แบบใหม่ล่าสุดของการบินไทย บน Boeing 787-9
- รีวิว Prestige Suites ที่นั่ง Business Class แบบใหม่บนสายการบิน Korean Air
- การบินไทย มีที่นั่ง Business Class แบบไหนบ้าง? + วิธีจองให้ได้ที่นั่งแบบใหม่
- รีวิว ScootBiz สายการบิน NokScoot เส้นทางดอนเมือง-ไทเป ที่นั่งกว้าง ราคาเบา
- รีวิว First Class แบบใหม่ของ Singapore Airlines – Boeing 777-300ER
- รีวิว “The Private Room” โคตรเลานจ์ของสนามบิน Singapore Changi
- รีวิวไฟลต์สุดน่ารัก เครื่องบิน “Gudetama” ไข่ขี้เกียจ ลำเดียวในโลก
- รีวิว การบินไทย Royal Silk Class บน Airbus A350-900 XWB รุ่นล่าสุด
- รีวิว Etihad ‘Business Studio’ ชั้นธุรกิจที่ไม่มีความทัดเทียม (B77W/A380)
- รีวิว United Polaris Business Class ชั้นธุรกิจรูปแบบใหม่ของ UA
- รีวิว First Class สายการบิน ANA สุดยอดความหรูหราแบบญี่ปุ่น
- รีวิว First Class Suite สายการบิน Asiana หรู เนี๊ยบ สไตล์เกาหลี
- รีวิว Business Class บน A380 สายการบิน Emirates
- รีวิว ชั้น Smile Plus (ชั้นประหยัดพรีเมียม) สายการบินไทยสมายล์
- รีวิว Lufthansa Business Class บน Boeing 747-8I
- รีวิว Etihad First Class “Apartment” ที่สุดของการเดินทางในชั้นเฟิร์สคลาส
- เจาะลึก การบินไทย Boeing 787-8 Dreamliner เครื่องบินที่ไฮเทคที่สุดในฝูงบินปัจจุบัน
- รีวิว Business Class บน Airbus A380 สายการบิน Singapore Airlines
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางโตเกียว-ซานฟรานฯ (Boeing 777-300ER)
- รีวิว Royal Silk Class บนการบินไทย Boeing 787 Dreamliner
- รีวิว United Business First Class บน Boeing 787-8 Dreamliner
- รีวิว Business Class สายการบิน ANA เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว (Boeing 777-200ER)
- รีวิว การบินไทย ชั้นธุรกิจ Royal Silk Class ใหม่ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการบินไทย
- รีวิว Business Class สายการบิน Austrian เส้นทางกรุงเทพ-เวียนนา
- รีวิว การบินไทย Royal First Class เส้นทางกรุงเทพ-แฟรงก์เฟิร์ต
- รีวิว Royal Laurel Class สายการบิน EVA Air เส้นทางไทเป-ซานฟรานซิสโก
- รีวิว เครื่องบินที่มุ้งมิ้งกระดิ่งแมวที่สุดในโลก Hello Kitty Jet
- รีวิว Royal First Class บนการบินไทย Airbus A380 เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว