[เที่ยวแบบ geek] พกสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ลุย Rio de Janeiro ก่อนมหกรรมโอลิมปิก

5 – 21 ส.ค. นี้ เมืองรีโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล จะเป็นเมืองที่ถูกพูดถึงอย่างมากไปทั่วโลก จากการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ หรือ Rio 2016 Olympic Games ซึ่งเป็นหนึ่งในงานที่มีผู้ชมสูงที่สุดในโลก โดยคณะกรรมการโอลิมปิกคาดว่า จะมีผู้ชมการถ่ายทอดสดสูงสุดทะลุหลัก 5 พันล้านคน จากจำนวนประชากร 7 พันล้านคนทั่วโลก

แน่นอนว่าในช่วงมหกรรมโอลิมปิกตลอดเดือนสิงหาคม รวมถึงหลังจากการจัดงานเสร็จสิ้นลงแล้ว เมืองรีโอเดจาเนโร จะเป็นหนึ่งในจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่จะหลั่งไหลกันไปสัมผัสวัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามของทวีปอเมริกาใต้แห่งนี้นับล้านคน จากการที่มหกรรมโอลิมปิกเป็นตัวช่วยโปรโมตสถานที่ให้กับนักท่องเที่ยวได้เห็นผ่านการถ่ายทอดสดตลอดเดือนนั่นเอง

Rio-Olympics

ถ้าเราจำกันได้ เมื่อปี 2008 ที่ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกนั้น ถูกยกให้เป็น “Internet Games” การแข่งขันกีฬาทุกประเภท สามารถอ่าน coverage และดูผลการแข่งขันผ่านทางหน้าเว็บได้ (ในปีนั้น Facebook มีผู้ใช้งานเพียง 100 ล้านคนทั่วโลก, Twitter เพียง 6 ล้านคน และ YouTube ยังไม่มีความละเอียด HD ให้ดูด้วยซ้ำ) จนถัดมาในปี 2012 ที่กรุงลอนดอน เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก จึงถูกยกให้เป็น “Social Media Games” ที่ผลการแข่งขันทุกประเภทกีฬา ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น Facebook (ผู้ใช้งาน 900 ล้านคนในปี 2012), Twitter รวมถึงการชมย้อนหลังผ่านทาง YouTube … มาถึงปีนี้ 2016 การแข่งขันโอลิมปิกที่รีโอ กำลังจะถูกยกให้เป็น “Cell Phones Games” ที่เกือบทุกกิจกรรมของการแข่งขันกีฬานั้น จะถูกรับชมผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนนั่นเองครับ

ผมมาเยือน Rio de Janeiro ครั้งนี้ ด้วยคำเชิญจาก Google ครับ กับภารกิจที่ Google ตั้งใจจะสื่อสารว่า ในยุค 2016 ที่สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องมือชั้นยอดในมือของทุกคน กับเมือง Rio ที่กำลังจะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายล้านคนทั่วโลก วันนี้ผมจะพาคุณผู้อ่านทุกคนไปดูว่า เพียงสมาร์ทโฟนในมือ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่กูเกิลได้พัฒนามาจนถึงยุคของปี 2016 นี้ เราสามารถสนุกกับเมืองริโอได้อย่างไรบ้าง รวมถึงความพร้อมของการจัดการแข่งขันโอลิมปิกที่นี่ ว่าอีกเพียง 30 วัน ก็จะเริ่มงานแล้ว บรรยากาศที่นี่เป็นอย่างไรกันบ้าง

DSC09283

ประเทศบราซิล ใช้ภาษาโปรตุเกส เป็นภาษาท้องถิ่นครับ และที่น่าสนใจคือ ประชากรน้อยกว่า 10% ของคนที่นี่เท่านั้น ที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ ร้านค้าต่างๆ ที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งของสถานที่ท่องเที่ยว แทบจะไม่มีภาษาอังกฤษให้ได้เห็น เมนูอาหาร ป้ายบอกทาง และการสื่อสารกับคนท้องถิ่น เป็นไปได้ค่อนข้างลำบากเอาเรื่องเลย

Google Translate

DSC09057

เรารู้จักกับการแปลภาษาด้วย Google Translate กันมาอย่างยาวนานหลายปีครับ แน่นอนว่ามันย่อมมีพัฒนาการที่เก่งกาจขึ้นจากเดิมไม่น้อย จากเดิมที่เรารู้จักการแปลด้วยวิธี ก็อป-แปะ-แปล ตอนนี้ Google Translate หลายภาษา (รวมถึงภาษาโปรตุเกส) สามารถแปลข้อความได้ง่ายสุดๆ เพียงแค่เปิดกล้องแล้วเอาไปส่องบนข้อความค้างไว้เท่านั้น ข้อความภาษาโปรตุเกส อย่างเมนูอาหารที่เราอ่านไม่ออก ก็จะแปลเป็นภาษาอังกฤษทับบนข้อความบนหน้าจอ แคนี้ก็สั่งได้ทุกเมนูเหมือนคนท้องถิ่นครับ

DSC09167

ยังไม่พอแค่นั้นครับ เพราะ Google Translate ปัจจุบัน รองรับการแปลเสียงสนทนาแบบสลับภาษาไปมาได้ด้วย เช่นผมพูดภาษาอังกฤษใส่ตัวแอป มันก็จะแปลเป็นภาษาโปรตุเกสให้คู่สนทนาฟังทันที และคู่สนทนาก็สามารถตอบเป็นภาษาโปรตุเกสกลับมา เพื่อให้ตัวแอปแปลเป็นภาษาอังกฤษให้ผมฟังได้ สลับกันไปแบบนี้เรื่อยๆ ก็จะสามารถสนทนากันได้แบบยาวๆ โดยที่ทั้งสองคนไม่จำเป็นต้องรู้อีกภาษาเลย เดินทางมาครั้งนี้ ผมได้ใช้ Google Translate บ่อยครั้งมากๆ และคู่สนทนาชาวบราซิล ก็ค่อนข้างประทับใจกับความแม่นยำของเทคโนโลยีการแปลใน Google Translate ครับ มันอยู่ในระดับที่สามารถสื่อสารได้โอเคทีเดียว ทั้งหมดนี้สามารถดาวน์โหลดแพ็กของภาษาที่ต้องการมาเก็บไว้แบบออฟไลน์ได้ล่วงหน้า ตอนที่ใช้งาน ไม่ต้องมีเน็ตก็แปลได้ครับ

Google Maps

DSC09017

แผนที่ เป็นเรื่องใหญ่ของนักท่องเที่ยวเวลาไปต่างเมืองนะครับ ที่ผมเชื่อแน่ว่าเกือบทุกคนตอนนี้เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ก็จะต้องพึ่งพาความสามารถของ Google Maps กันไม่มากก็น้อย เริ่มจากฟีเจอร์พื้นฐาน อย่างการค้นหาสถานที่ ร้านอาหาร หรือกดนำทางแบบง่ายๆ ไปจนถึงฟีเจอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ที่ตอนนี้ Google Maps มันเก่งมากจนมีหลายฟีเจอร์ที่คุณผู้อ่านอาจจะไม่รู้มาก่อนก็ได้ครับ

IMG_1401

แผนที่ออฟไลน์ มีประโยชน์มากนะครับเวลาไปต่างประเทศ และไม่ได้มีอินเทอร์เน็ตให้ใช้บนมือถือตลอดเวลา (ค่าโรมมิ่งก็แพง หรือบางคนก็ไม่ได้หาซิมท้องถิ่นมาใช้) ตอนนี้ Google เปิดให้เราดาวน์โหลดแผนที่มาเก็บไว้ในเครื่องได้แบบออฟไลน์แล้ว กำลังจะไปเมืองไหน ผมแนะนำให้ซูมไปที่เมืองนั้น และเลือก ‘Offline areas’ เพื่อดาวน์โหลดข้อมูลแผนที่ทุกอย่างมาเก็บไว้ในมือถือก่อน พอไปถึงเมืองนั้นๆ เรายังสามารถใช้ Google Maps นำทาง ค้นหาได้ทุกสถานที่ แม้ไม่ได้ต่อเน็ตครับ โคตรจะสะดวก และผมก็ใช้เป็นประจำ รวมถึงทริป Rio ครั้งนี้ด้วย

DSC09031

แต่สิ่งที่น่าสนใจที่รีโอ ก็คือความซับซ้อนของแผนที่ของเมืองนี้ครับ รีโอเป็นเมืองที่มีสลัม (Favela) อยู่เป็นจำนวนมาก โดยประชากร 1 ใน 5 ของรีโอ อาศัยอยู่ใน Favela … เป็นตัวเลขที่สูงจนน่ากลัว ซึ่งในอดีต Favela ในรีโอ เป็นแหล่งที่เข้าถึงได้ยาก มีการค้ายาเสพติด และมีอัตราการก่ออาชญากรรมค่อนข้างสูง แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ทางการต้องเข้ามาจัดการให้สภาพความเป็นอยู่ขแง Favela ดีขึ้น อีกทั้งรีโอก็จะเป็นเจ้าภาพการจัดมหกรรมโอลิมปิกด้วย สภาพความเป็นอยู่ก็ดีขึ้นตามลำดับ จากสลัมที่มีความน่ากลัว ก็กลายเป็น community ที่มีการเอื้อเฟื้อต่อกัน เป็นชุมชนที่มีความแข็งแกร่ง แต่ก็หนีไม่พ้นความซับซ้อนของพื้นที่ภายใน Favela อยู่ดี

DSC09035

บ้านเรือนใน Favela จำนวนมาก ไม่มีบ้านเลขที่ ไม่มีโฉนดที่ดิน ทางเดินเป็นเพียงทางเดินแคบๆ ที่สวนกันแทบไม่ได้ และส่วนมากก็สร้างในพื้นที่ลาดชันสลับกันไปมาอย่างไม่มีระบบระเบียบ คนที่นี่อาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจกันเวลาจะซื้อขายบ้าน เพราะไม่มีหลักฐานอื่นใดในการแสดงความเป็นเจ้าของได้ และแน่นอนว่า ไม่มีใครประสบความสำเร็จในการทำแผนที่ Favela มาก่อน แม้กระทั่งทางการของบราซิลเอง ก็ไม่สามารถทำแผนที่ของ Favela ได้อย่างละเอียดมากนัก

DSC09264

แต่กูเกิลก็ไม่ได้ย่อท้อกับอุปสรรคนี้ครับ ทีมงาน Google Maps ลงพื้นที่สำรวจ ประสานงานกับชาวบ้านในชุมชน เริ่มทำแผนที่ Favela ในรีโอตั้งแต่ปี 2014 และประสบความสำเร็จในการทำแผนที่ Favela ไปแล้วมากถึง 26 แห่ง ครอบคลุมทุกตรอกซอกซอย และผลพลอยได้คือ ทีมงาน Google ได้ค้นพบธุรกิจต่างๆ ใน Favela ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร บริการต่างๆ มากกว่า 3,000 ธุรกิจ ซึ่งทั้งหมดนี้ปรากฏอยู่ในแผนที่ของ Google ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว และคนท้องถิ่นได้ค้นเจอ เปิดทางให้กับคนท้องถิ่นได้มีโอกาสในการทำธุรกิจที่ดีขึ้นด้วย

DSC09171

ผมมีโอกาสได้มาลองทานข้าวที่ร้าน Bar do David ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจร้านอาหารใน Favela ครับ ร้านนี้เป็นร้านท้องถิ่นที่ฝีมือดี ซึ่ง Google มาค้นพบ และทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้รู้จัก จนได้รับรางวัลมากมาย ไปปรากฏอยู่ในหนังสือท่องเที่ยวรีโอหลากหลายสำนัก เจ้าของร้าน (ซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก) บอกว่า ถ้าไม่เป็นเพราะกูเกิลมาค้นพบ จนร้านของเขาสามารถค้นเจอ และได้เรตติ้ง รีวิวต่างๆ ที่ดีจากโลกดิจิทัล เขาและชาวบ้านในชุมชนก็คงไม่ได้รับโอกาสที่ดีขนาดนี้

Screen Shot 2016-07-10 at 18.01.15

The Rio 2016 Olympic Park

DSC09216

สำหรับไฮไลต์ของการเยือน Rio ในช่วงนี้ ก็คงหนีไม่พ้นมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ หรือ มหกรรมโอลิมปิก 2016 ที่ Rio de Janeiro เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครับ และถือว่าเป็นงานสำคัญของประเทศบราซิล ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเป็นครั้งแรก รวมถึงยังเป็นครั้งแรกของทวีปอเมริกาใต้อีกด้วย ท่ามกลางความวิตกกังวลถึงเรื่องความพร้อมในการจัดการแข่งขัน ทั้งสภาพเศรษฐกิจของบราซิลเอง บ้านเมืองและผู้คนที่ยังไม่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมากเท่าที่ควร การคอร์รัปชั่น ระบบสาธารณูปโภค และระบบการรักษาความปลอดภัย ซึ่งวันที่ผมมาเยือนนี้ ก็เหลืออีกแค่ 30 วันเท่านั้น ที่จะเริ่มพิธีเปิดของโอลิมปิก 2016 แต่สภาพที่เห็น ยังคงบอกได้ว่า ยังไม่พร้อมมากเท่าไรนัก

DSC09215
DSC09238

แม้ว่าอาคาร สนามกีฬา และสิ่งปลูกสร้าง จะปรากฏขึ้นเป็นส่วนมากของพื้นที่จัดงาน หรือ Olympic Park แล้วก็ตาม แต่พื้นที่โดยรอบยังคงจัดเตรียมไม่เรียบร้อยครับ ยังมีคนงานจำนวนมาก กระจายอยู่โดยรอบ Olympic Park เพื่อเก็บงาน ก่อสร้าง ทาสี และยังมีพื้นที่โล่งๆ ที่ดูแล้วยังเหลืองานอีกมากพอสมควรกว่าที่จะพร้อมต้อนรับคณะนักกีฬาจาก 207 ประเทศทั่วโลกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

DSC09204

ผมมีโอกาสได้เยี่ยมชม Main Press Center (MPC) หรืออาคารผู้สื่อข่าวซึ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่ สำหรับการจัดงาน Olympic 2016 โดยเฉพาะ พร้อมได้รับข้อมูลจากคณะกรรมการจัดงานโอลิมปิกโดยตรงครับ พบว่าอาคารแห่งนี้ จะเป็นสถานที่รองรับกองทัพนักข่าวมากกว่า 25,000 คนจากทั่วโลก จะมีการถ่ายทอดสดด้วยเวลารวมมากกว่า 5,600 ชั่วโมงตลอดการแข่งขัน และ มหกรรมโอลิมปิก Rio 2016 นี้ จะเป็นอีเวนต์ที่จะมีผู้ชมมากที่สุดในโลก ที่คาดว่าจะมีผู้ชมมากกว่า 5 พันล้านคนเลยทีเดียวครับ แม้ส่วนตัวผมดูจากสถานที่นั่งทำงานของนักข่าวแล้ว ยังรู้สึกว่า ไม่น่าจะเหมาะสมกับสเกลงานระดับนี้สักเท่าไหร่ก็ตาม

DSC09240

จากนั้น ผมได้มาดูสนามกีฬาหลายแห่งครับ พบว่าหลายสนามก็สร้างเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว และมีการตกแต่งอย่างสวยงาม ซึ่งทางกูเกิลให้ข้อมูลว่า การจัดโอลิมปิกครั้งนี้ รีโอใช้สนามกีฬาเดิมจำนวน 18 แห่ง (แต่ก็ต้องปรับปรุงใหม่เยอะเหมือนกัน), สร้างใหม่อีก 9 แห่ง และสร้างแบบชั่วคราว (คือจบงานแล้วรื้อทิ้ง) อีก 7 แห่ง ไม่นับรวมโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ที่ต้องก่อสร้างเพิ่มเติมเพื่อรองรับมหกรรมโอลิมปิกครั้งนี้อีกค่อนข้างมาก ดังนั้น ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา แผนที่เมืองของรีโอ จึงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญ เช่นเดียวกับใน Google Maps ที่ต้องเร่งปรับปรุงข้อมูลให้ทันช่วงงาน เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวและคณะทีมงานของนักกีฬาสับสนด้วยครับ

13558668_10153781022772685_7253019115071800660_o

Google ให้ข้อมูลกับผมว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ Google ต้องทำงานอย่างหนัก เพราะกำลังอยู่ในช่วงที่สถานที่ใหม่ๆ ใน Olympic Park กำลังสร้างเสร็จ และใกล้เปิดใช้งาน ซึ่ง Google ต้องส่งทีมงานเข้าไปถ่ายภาพทั้งภายนอกและภายในอาคาร เพื่อนำภาพมาปรากฏอยู่ในแผนที่ Google StreetView ได้ทันช่วงการจัดงานโอลิมปิกครับ ซึ่งเมื่อถึงเวลา เราจะได้เห็น Olympic Park ทั้งจากภายนอก และภายในอาคาร ผ่านทางแอป Google Maps ที่สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ในโลก

DSC09221

Ok, Google…

เสิร์ช หรือการค้นหา ยังเป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดของกูเกิลมาโดยตลอดนะครับ แต่ในยุคนี้แล้ว การพิมพ์คำค้นหาลงไปในช่องค้นหาที่เราคุ้นเคยกันมานานหลายปี อาจจะเริ่มล้าสมัยลงไป เมื่อ Google พยายามอย่างหนักในการพัฒนาฟีเจอร์การค้นหาให้เก่งขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการ “ค้นหาจากเสียงพูด” ที่ไม่ต้องจิ้มคีย์บอร์ดเล็กๆ บนมือถือให้ยุ่งยาก แต่สามารถแตะปุ่มไมโครโฟนตรงช่องค้นหา หรือ แค่พูดคำว่า “Ok, Google…” เพื่อเริ่มให้มันฟังสิ่งที่เราต้องการจะค้นหา แล้วออกเสียงพูดไปได้เลยแบบง่ายๆ เป็นหนึ่งในการเที่ยวด้วยสมาร์ทโฟนที่ทำให้เราค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้รวดเร็ว และ สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะฟีเจอร์ล่าสุด ที่การค้นหาทำงานร่วมกับ Google Now เช่นผมเปิดกล้องและส่องไปที่รูปปั้น Cristo Redentor จากนั้นก็ถาม Ok, Google… How tall is it? แบบนี้ได้เลย โดยไม่ต้องพูดชื่อรูปปั้นด้วยซ้ำ กูเกิลก็จะรู้ว่า เรากำลังหมายถึงรูปปั้นแห่งนี้ และหาคำตอบมาให้เราได้เลยครับ

DSC09063

Ok, Google มันไม่ได้ทำได้แค่ค้นหาทั่วไปนะครับ เพราะตอนนี้ฟีเจอร์ Ok, Google สามารถใช้ในการตอบคำถามของเราได้แบบรวดเร็ว รวมถึงสามารถใช้ออกคำสั่งบางคำสั่งให้กับสมาร์ทโฟน (แอนดรอยด์) ได้ด้วย สั่งได้แม้กระทั่งเปิดกล้องหน้าเพื่อถ่ายเซลฟี่, สั่งให้เล่นเพลงตามชื่อเพลงที่เราพูด, หรือ จะสั่งให้ตั้งปลุก ก็ทำได้เช่นกัน และก็รองรับหลายภาษา รวมทั้งการสั่งงานเป็นภาษาไทยด้วย ใครลองใช้แล้ว จะรู้ว่าสะดวกมากครับ

YouTube Space Rio is coming

DSC09176

อีกหนึ่งบริการของกูเกิลที่มีจำนวนผู้ใช้บริการสูงมากในบราซิล ก็คือบริการ YouTube ครับ ชาวบราซิล มีอัตราการดู YouTube เฉลี่ยอยู่ที่ 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมียอดการชมโดยรวมสูงเป็นอันดับสองของโลก (รองจากสหรัฐฯ เท่านั้น) จึงไม่น่าแปลกใจที่ Google จะรุกหนักกับบริการ YouTube ในบราซิลครับ มารอบนี้ ผมมีโอกาสได้มาเยี่ยมชมโกดังแห่งหนึ่ง ใกล้กับ Olympic Park ที่กูเกิลเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า จะแปลงร่างโกดังแห่งนี้ ให้กลายเป็น YouTube Space Rio พื้นที่สำหรับนักสร้างวิดีโอ YouTube ให้ได้เข้ามาใช้อุปกรณ์สตูดิโอระดับมืออาชีพ และเป็นพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ YouTuber คนอื่นๆ โดย YouTube Space Rio ถือเป็น YouTube Space แห่งที่สองของบราซิล ถัดจาก YouTube Space Sao Paolo ที่ได้เปิดให้บริการไปตั้งแต่ปลายปี 2014

DSC09189

การพรีวิวสถานที่ YouTube Space Rio คราวนี้ กูเกิลทำให้มองเห็นภาพชัดเจนขึ้นด้วยการให้ชมวิดีโอ 360 องศา ผ่านทางแว่นตา Google Cardboard ครับ ซึ่งเมื่อเข้าไปยืนอยู่กลางโกดังแห่งนี้ และมองแบบจำลองของ YouTube Space Rio ผ่านวิดีโอ 360 องศาแบบ Virtual Reality ก็ให้ความรู้สึกเหมือนวาร์ปไปยังโลกอนาคตตอนที่มันสร้างเสร็จแล้วจริงๆ เลย

DSC09192

YouTube Space Rio จะมีพื้นที่มากถึง 2,000 ตารางเมตร มีทั้งสตูดิโอขนาดใหญ่ ห้องเวิร์กช็อป, เวที, ห้องตัดต่อ ตามคอนเซ็ปต์ Learn, Connect และ Create ที่กูเกิลยึดถือมากับการสร้าง YouTube Space ทั่วโลกครับ โดย YouTube Space Rio จะเปิดให้บริการภายในปี 2017 หรือปีหน้านี้แล้ว

Smartphone, Smart Travel.

ยุคที่หลายคนเอาแต่ก้มหน้ามองจอสมาร์ทโฟน ที่อาจจะมองเป็นภาพลบ แต่แท้จริงแล้ว ฟีเจอร์ในสมาร์ทโฟนปัจจุบันได้เก่งขึ้นกว่าเดิมและนำมาประยุกต์ใช้ในการท่องเที่ยวได้อย่างมีประโยชน์อย่างมาก วันนี้กูเกิลได้พิสูจน์แล้วว่า ผมสามารถพกสมาร์ทโฟน เดินทางไปยังประเทศที่เราไม่ได้คุ้นเคย ใช้ภาษาที่เราสื่อสารไม่ได้แม้แต่นิด หาร้านอร่อย เดินทางไปยังจุดต่างๆ ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องพึ่งพาคนท้องถิ่น ไม่ต้องพึ่งหนังสือพาเที่ยว ไม่ต้องหาล่ามแปลภาษาแต่อย่างใด

DSC09308

ข้อมูลสำคัญต่างๆ ถูกค้นหาเจออย่างรวดเร็วขึ้น แสดงผลได้ในรูปแบบที่เอาไปใช้งานจริงได้ดีขึ้น และทำให้เราได้เปรียบเรื่องข้อมูลมากกว่าคนที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยนะครับ เช่น ข้อมูลเรตติ้งของร้านอาหาร ราคากลางของสินค้าท้องถิ่น ราคาค่าเดินทาง สายรถเมล์ หรือข้อมูลการจราจร เป็นต้น ผมกลับมาจากทริปรีโอรอบนี้ สิ่งที่ได้รับกลับมาอีกอย่างคือความชำนาญในการใช้เครื่องมือในสมาร์ทโฟนช่วยในการท่องเที่ยวครับ ซึ่งผมอยากให้คุณผู้อ่านได้ทดลองใช้ดูหลายๆ อย่าง ทั้งแผนที่ การแปลภาษา ข้อมูลสถานที่เที่ยว การแปลงสกุลเงิน ซึ่งตอนนี้ทำได้เร็วมาก สะดวกมาก และช่วยให้การท่องเที่ยวทุกจุดเป็นไปได้อย่างราบรื่นขึ้นมากๆ เลยล่ะครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save