รีวิววันนี้ ผมพาไปใช้จริง กับ AIS Pocket WiFi ที่ตอนนี้เปิดให้เช่า เพื่อนำไปใช้งานต่างประเทศ และเลือกแพ็กเกจได้โดยคิดเป็นรายวัน (ไปกี่วัน ก็จ่ายแค่เท่าที่ใช้) มีให้เลือกใช้ได้หลายประเทศ ราคาเริ่มต้นแค่วันละ 150 บาท และสามารถแชร์อุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่อง เหมาะสำหรับเดินทางมากกว่า 1 คน หรือคนที่มีอุปกรณ์พกพาหลายตัวครับ
Disclosure: บทความนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก AIS โดยความคิดเห็นทั้งหมด เขียนจากประสบการณ์จริงของผู้เขียน โดยไม่ถูกดัดแปลงเนื้อหาจากบุคคลอื่น
ระบบการให้เช่า Pocket WiFi ของ AIS เนี่ย เราสามารถไปทำเรื่องเช่าได้ล่วงหน้า ที่ AIS Shop (ล่วงหน้าไม่เกิน 7 วันก่อนเดินทาง) หรือจะไปเช่าที่สนามบินสุวรรณภูมิ / ดอนเมือง ตอนก่อนเดินทางเลยก็ได้ จากนั้น ต้องเลือกแพ็กเกจว่าจะเดินทางไปประเทศไหน พร้อมกับเลือกจำนวนวันที่จะใช้งาน และต้องชำระค่ามัดจำเครื่อง 1,500 บาท ซึ่งจะได้รับเงินคืน ตอนนำเครื่อง Pocket WiFi กลับมาคืนครับ
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2018/04/pocket-wifi-ais.jpg)
ส่วนราคาแพ็กเกจ เริ่มต้นที่วันละ 150 บาท (ญี่ปุ่น), วันละ 180 บาท (เกาหลีใต้, ไต้หวัน), วันละ 200 บาท (สิงคโปร์, มาเก๊า, มาเลเซีย, ฮ่องกง) หรือ วันละ 350 บาท (ออสเตรเลีย, ลาว) โดยจะได้รับเน็ตความเร็วสูงสุดรวมทั้งสิ้นตามจำนวนวันที่เช่า คูณด้วย 1GB นะครับ เช่น เราเดินทาง 4 วัน ก็จะได้รับเน็ตความเร็วสูงสุดรวมกัน 4GB (โดยไม่ได้จำกัดว่าต้องใช้วันละ 1GB) หากใช้หมด 4GB แล้ว ความเร็วจะถูกปรับลดลงมาเหลือ 128kbps ซึ่งก็จะยังใช้ได้ตลอดระยะเวลาที่เช่า
หลายคนดูราคาแล้ว อาจจะคิดว่า ใช้ SIM2fly ถูกกว่า แต่ก็ไม่แน่เสมอไปครับ เพราะ Pocket WiFi จะได้รับความสะดวกตรงที่เราสามารถแชร์ให้หลายอุปกรณ์ได้ (สูงสุด 10 เครื่อง) โดยไม่ต้องถอดเปลี่ยนซิม มือถือทุกเครื่องยังเป็นซิมเบอร์เดิมที่เราใช้งานเป็นประจำทุกวัน แถมประหยัดแบตเตอรีของมือถือ มากกว่าการใช้งานเซลลูลาร์ตลอดเวลาอีกด้วย หากเดินทางพร้อมกันหลายคน นี่เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าครับ
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2018/04/DSC09897.jpg)
เมื่อเราเช่ามาแล้ว อุปกรณ์ที่ได้รับ ก็จะมีตัวเครื่อง Pocket WiFi, อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ, สายชาร์จ Micro USB, และกระเป๋าสำหรับใส่อุปกรณ์พร้อมคู่มือการใช้งานเบื้องต้น รอบนี้ผมถือไปใช้งานที่ประเทศญี่ปุ่น
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2018/04/DSC09896.jpg)
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2018/04/DSC09901.jpg)
เปิดใช้งาน และเอามือถือที่ต้องการต่อเน็ต ค้นหาชื่อ WiFi เดียวกับที่อยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง ใส่รหัสที่ระบุไว้ ก็พร้อมที่จะใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทันทีครับ ง่ายและสะดวกมากๆ
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2018/04/DSC09904.jpg)
ที่ผมคิดว่าการใช้ Pocket WiFi สะดวกกว่าการเปลี่ยนซิมเข้าไปในเครื่องหลักอย่างนึงก็คือ เราสามารถใช้ซิมเบอร์หลักของเรา และต่อ WiFi Calling ได้ เพื่อที่เราสามารถโทรออก หรือรับสายจากเบอร์หลักได้ ในอัตราค่าโทรเหมือนกับอยู่เมืองไทย (นั่นคือ รับสายฟรี และโทรออกได้ตามโปรโมชั่นหลักของเราครับ)
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2018/04/DSC09893.jpg)
เท่าที่ผมลองใช้ดู แบตเตอรีของ Pocket WiFi ตัวนี้ ถือว่าอึดใช้ได้เลยนะครับ ชาร์จเต็มๆ นี่อยู่ได้เต็มวัน แม้จะขึ้นเตือนเป็นแบตอ่อน ไฟสีแดงกระพริบในช่วงเย็นๆ แต่ก็ยังลากยาวถึงช่วงค่ำๆ ได้ หรือถ้าใครใช้งานหนักๆ ก็เตรียมพาวเวอร์แบงก์เอาไว้สักตัว ก็เอาอยู่ได้จนจบวันอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือมัน stable มาก เชื่อมต่อทั้งวันแบบไม่หลุดเลยครับ
สรุป
เป็นตัวเลือกที่ดีอีกอันเลยนะครับ สำหรับคนที่เดินทางมากกว่า 1 คน และอยู่ด้วยกันตลอดทริป ประหยัดกว่าซื้อซิมแยกคนในหลายๆ กรณีครับ รวมถึงประหยัดแบตเตอรีมือถือ และสะดวกในการใช้งานซิมเบอร์เดิมของตัวเองด้วย ที่สำคัญก็คือ หากมือถือที่ใช้ รองรับ WiFi Calling เราสามารถทำการโทรออก หรือรับสายด้วยเบอร์ไทยเบอร์หลักของเราได้ด้วยราคาเหมือนกับโทรออกและรับสายอยู่เมืองไทยเลยครับ
ข้อเสียของ Pocket WiFi ตัวนี้ คือยังมีประเทศที่รองรับไม่มากนัก และบางประเทศ เมื่อใช้งานหลายวัน ยังมีราคาสูงกว่า SIM2fly พอสมควรเลย
คุณผู้อ่านที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ais.co.th/pocketwifirental/
บทความโดย:
อู๋ spin9