เมื่อสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา กลายเป็นบททดสอบให้หลายองค์กรธุรกิจหันมาเตรียมความพร้อมให้พนักงานได้มีอุปกรณ์ที่เหมาะสมใช้งาน เพื่อรับกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้การตอบรับของโน้ตบุ๊กในกลุ่มองค์กรธุรกิจยุคใหม่ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Lenovo เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความแข็งแรงในกลุ่มองค์กรธุรกิจ ด้วยประสบการณ์ในการทำตลาด Lenovo ThinkPad ที่ถือเป็นตำนานของโน้ตบุ๊กสำหรับกลุ่มธุรกิจ มาอย่างยาวนาน
เมื่อ Lenovo นำความเชี่ยวชาญ และเสียงตอบรับจากผู้ใช้ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ โน้ตบุ๊กขององค์กรธุรกิจรุ่นใหม่ จึงทำให้กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจขึ้นมาทันที เพราะนอกจากมาตรฐานคุณภาพของตัวเครื่องแล้ว ยังมีมุมที่ใส่ใจผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นมาให้ด้วย
ThinkBook 14 ตัวช่วยธุรกิจยุคใหม่
Lenovo ThinkBook 14 ถือเป็นซีรีส์โน้ตบุ๊กธุรกิจล่าสุดของ Lenovo ที่ชูจุดเด่นตอบรับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปในยุค Future of Work ซึ่งกลุ่มคนรุ่นใหมจะเน้นดีไซน์ที่คล่องตัว มีความเรียบหรู รองรับการทำงานจากที่ไหนก็ได้ แต่ยังอยู่บนพื้นฐานของการรักษาข้อมูลองค์กร และความปลอดภัยในการใช้งาน
ไม่ว่าจะเป็นการที่ตัวเครื่องมีความแข็งแรงจากการใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียม แม้ว่าตัวเครื่องจะไม่ได้บางเบา แต่ให้ความรู้สึกที่แข็งแรง มากับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ที่มีขอบจอบาง ปุ่มเปิดเครื่องที่สามารถเพิ่มเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้าไปเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
คีย์บอร์ดขนาดมาตรฐาน พร้อมแทร็กแพดขนาดใหญ่ จนถึงแบตเตอรี 3 Cell Li-Cylinder 45Wh ที่ช่วยให้การทำงานนอกสถานที่ต่อเนื่องได้ 8 ชั่วโมงสบายๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบชาร์จเร็ว 65W ทำให้สามารถชาร์จแบตได้ 80% ภายใน 1 ชั่วโมง
ตัวเครื่องยังมากับลำโพงสเตอริโอที่เป็น Dolby Audio มีการปรับแต่งไมค์ที่ได้การรับรองจาก Skype for Business ทำให้เสียงในการสนทนาชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่นับรวมเรื่องของความทนทาน และฟังก์ชันอย่างการป้องกันฮาร์ดดิสก์จากการตกกระแทกที่ให้มาเป็นมาตรฐาน
เพิ่ม 3 ฟังก์ชันช่วยอำนวยความสะดวก
เมื่อเป็นโน้ตบุ๊กที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจ แต่ยังมีความทันสมัย เหมาะกับกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ที่มีรูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป ไม่ต้องนั่งอยู่ในออฟฟิสอีกต่อไป ซึ่ง ThinkBook 14 มีการเพิ่ม 3 ฟังก์ชันใหม่ที่จะกลายเป็นมาตรฐานสำหรับโน้ตบุ๊กสำหรับคนทำงานในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น
ThinkShutter ม่านชัตเตอร์ปิดกล้องเว็บแคม ซึ่ง Lenovo คิดค้นขึ้น และนำมาใช้ตั้งแต่สมัยของ ThinkPad เพื่อปกป้องควมเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ให้มากที่สุด เพื่อทำให้มั่นใจว่ากล้องจะไม่เปิดในเวลาที่ควรปิด
ข้อดีของ ThinkShutter คือการเป็นม่านชัตเตอร์ที่เลื่อนมาปิด พร้อมแสดงสัญลักษณ์ปุ่มสีแดงชัดเจน ทำให้ทราบได้ว่ากำลังปิดกล้องอยู่ เมื่อต้องการเปิดใช้งานก็สามารถเลื่อนชัตเตอร์เพื่อเปิดกล้องได้ทันที ไม่ต้องไปตั้งค่าในโปรแกรมแต่อย่างใด
ถัดมาคือ ปุ่มลัดสำหรับ Skype หรือการเข้าร่วมประชุมสนทนาทางไกล เพิ่มความสะดวกให้กลุ่มคนทำงานที่ต้องสื่อสารผ่านระบบ VDO Call เป็นประจำ ทำให้เข้าถึงการสนทนาได้ง่ายขึ้น
รวมถึง ระบบ Smart Power On หรือการเปิดเครื่องจาก Standby ให้พร้อมทำงานทันที ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการทำธุรกิจ เมื่อต้องการเข้าถึงข้อมูล หรือนำเสนองาน ระบบนี้จะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลารอเปิดเครื่องอีกต่อไป
ขุมพลัง Intel Gen 10 ที่เลือกปรับแต่งได้
อีกความน่าสนใจของ ThinkBook 14 คือเปิดให้องค์กรธุรกิจสามารถเช้าไปเลือกปรับสเปกได้ตามความต้องการ โดยเริ่มต้นที่ราคาเพียง 16,200 บาทสำหรับ Intel Core i3 Gen 10 พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home RAM 4 GB SSD 128 GB
พร้อมปรับขึ้นไปได้สูงสุดคือ Intel Core i7 Gen 10 RAM 24 GB การเชื่อมต่อ WiFi 6 พร้อมบลูทูธ 5.0 ยังสามารถเลือกเพิ่มเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลให้เพิ่มขึ้นก็ได้เช่นกัน
เบื้องต้น ThinkBook 14 จะมากับหน้าจอ Full HD ขนาด 14 นิ้ว ที่สามารถกางจอได้ 180 องศา ตัวเครื่องบาง 17.9 มิลลิเมตร (326 x 230 x 17.9 มิลลิเมตร) น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ในตัวเครื่องสีเทา Mineral Gray
มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบทั้ง USB 3.1 Gen 2 Type-C สำหรับเชื่อมต่อ USB DisplayPort + Power, USB-C, USB Type C 1 พอร์ต, USB 3.1 Type A 2 พอร์ต USB 2.0 Type A แบบซ่อนตัว, HDMI, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ช่องต่อสาย LAN จนถึงช่องอ่าน SD Card
เรียกได้ว่า ThinkBook 14 นั้นให้มาครบเครื่องทั้งเรื่องของสเปกในการใช้งาน ความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูล จนถึงการเชื่อมต่อเต็มรูปแบบ ที่เครื่องเดียวจบไม่ต้องพกอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม
#Lenovo #ThinkBook #SmarterTechnologyForAll #Intel
