เคยแต่ได้ยินกรณีกระเป๋าหายจากการเดินทาง โหลดกระเป๋าไปแล้วหาย ได้คืนบ้าง ไม่ได้คืนบ้าง (ส่วนมากไม่ค่อยจะได้คืน) มาคราวนี้ผมโดนเองบ้างแล้ว โหลดกระเป๋าไป 2 ใบ แต่ได้กลับมาแค่ใบเดียว … หายแบบนี้ต้องทำอย่างไรถึงได้คืน และมีวิธีป้องกันไม่ให้กระเป๋าหายอย่างไรบ้าง มาดูกันครับ
เหตุการณ์
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 58 ที่ผ่านมา ผมเดินทางไปกับสายการบิน EVA Air เส้นทางซานฟรานซิสโก (SFO) ไปเซี่ยงไฮ้ (PVG) โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่ไทเป (TPE) และได้โหลดกระเป๋าเดินทางไปทั้งหมด 2 ใบ ที่เคาน์เตอร์เช็กอิน EVA Air สนามบินซานฟรานซิสโกตามปกติ แต่มาค้นพบภายหลังว่า กระเป๋าถูกโหลดเข้าระบบไปเพียงใบเดียว โดยไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ากระเป๋าอีกใบหายไปไหน และเป็นความผิดพลาดจากขั้นตอนไหนของสายการบิน หรือ ของเจ้าหน้าที่สนามบิน
สำคัญมาก แท็กกระเป๋า ต้องได้เท่าจำนวนกระเป๋าที่โหลด
หลักการทำงานของการโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องนั้น ตามปกติแล้ว เจ้าหน้าที่เช็กอินจะทำการชั่งน้ำหนักกระเป๋าที่จะโหลด พร้อมกับพันแถบบาร์โค้ดที่บริเวณหูหิ้วกระเป๋าเดินทาง และจะต้องมอบแท็กกระเป๋า เป็นบาร์โค้ดเล็กๆ คืนกลับมาให้เรา เท่ากับจำนวนกระเป๋าที่เราเช็กอินครับ ซึ่งโดยส่วนมาก เจ้าหน้าที่เช็กอินของสายการบิน จะแปะแท็กกระเป๋ากลับมาให้เราบริเวณด้านหลังของบอร์ดดิ้งพาส หรือ อาจจะแยกมาเป็นแผ่นกระดาษอีกใบก็ได้
สิ่งสำคัญก็คือ เราต้องได้รับแท็กกระเป๋าเท่ากับจำนวนกระเป๋าที่เราโหลดไปครับ (กระเป๋า 1 ใบ ต้องได้แท็ก 1 ใบ) ตรงนี้เป็นจุดที่หลายคนละเลย เผลอ ไม่ทันได้ตรวจสอบ และครั้งนี้ก็เป็นผมเองที่พลาด ไม่ได้ตรวจสอบว่า เจ้าที่หน้าเช็กอิน EVA Air ของสนามบินซานฟรานซิสโก ให้แท็กกระเป๋าผมกลับมาเพียง 1 ใบเท่านั้น แทนที่จะเป็น 2 ใบเท่ากับจำนวนกระเป๋าที่โหลดไป โดยกว่าจะรู้ตัว ก็สายเกินไปแล้ว…
รู้ตัวแล้ว รีบแจ้งให้ไว
กรณีของผม ผมมารู้ตัวตอนที่อยู่บนเครื่องบินแล้ว ด้วยความเอะใจพลิกดูด้านหลังบอร์ดดิ้งพาส และพบว่าตัวเองมีแท็กกระเป๋าเพียงแค่ 1 ใบ (แทนที่จะเป็น 2 ใบตามจำนวนกระเป๋าที่โหลด) ซึ่งกว่าจะแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ ผมก็เดินทางมาถึงสนามบินไทเป (TPE) เป็นที่เรียบร้อย จึงได้รีบเข้าไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่สายการบิน EVA Air บริเวณเคาน์เตอร์ Transfer เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่า ในระบบนั้น ชื่อของเรามีการโหลดกระเป๋าเข้าไปกี่ใบ จึงได้ทราบว่า ในระบบฟ้องว่ามีกระเป๋าเพียงแค่ใบเดียวจริงๆ นั่นหมายความว่า กระเป๋าอีกใบที่เรามอบให้กับเจ้าหน้าที่เช็กอินที่สนามบินซานฟรานซิสโก ได้สูญหายไปจากระบบ โดยไม่มีแม้แต่หลักฐาน ว่าเราได้เช็กอินกระเป๋าไป 2 ใบจริงหรือไม่…
ผมได้สอบถามเพิ่มเติม ไปถึงน้ำหนักกระเป๋าของใบที่อยู่ในระบบ (เพื่อที่จะได้รู้ว่า ใบที่หายไป คือใบใหญ่หรือใบเล็ก โดยระบบการเช็กกระเป๋าของสายการบินพาณิชย์ปัจจุบัน จะมีบันทึกไว้ทั้งหมดเลยครับ ว่าผู้โดยสารคนไหน มีกระเป๋ากี่ใบ ใบไหนหนักกี่กิโลกรัมบ้าง) หลังจากที่รู้แล้วว่าใบไหนหายไป สิ่งที่ทำได้คือ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ EVA Air ไปครับ ว่ารูปพรรณสัณฐานของกระเป๋าที่หายไปนั้น หน้าตาเป็นอย่างไร สีอะไร มีอะไรสังเกตได้บ้าง เช็กอินที่เคาน์เตอร์ไหน เวลาประมาณกี่โมง ของวันที่เท่าไหร่ และผมได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชื่อ ที่อยู่ในไทย เบอร์โทรศัพท์ พร้อมอีเมลไปด้วย โดยที่ไม่มีความหวังเลยว่า จะได้รับกระเป๋าใบนี้คืนหรือไม่ และ ไม่มีข้อมูลเลยว่า ตอนนี้กระเป๋าใบนี้อยู่ที่ไหนกันแน่..
แจ้งไว ก็ได้กลับมาไว
ข่าวดีมาเร็วกว่าที่คิดครับ เพียงไม่ถึง 8 ชั่วโมงหลังจากที่แจ้งไปกับเคาน์เตอร์ของสนามบินไทเป ผมก็ได้รับอีเมลจากสำนักงาน EVA Air ของสนามบินซานฟรานซิสโก ถ่ายรูปกระเป๋าของผมแนบมา เพื่อให้ผมยืนยันความเป็นเจ้าของ โดยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมภายหลังว่า กระเป๋าใบนี้ไม่ได้รับการเช็กอินเข้าสู่ระบบ โดยตกค้างอยู่บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอินตามที่เราแจ้ง และถูกสายการบิน United Airlines เจ้าถิ่นของ SFO ยึดไว้เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากไม่สามารถหาเจ้าของกระเป๋าเจอ รวมถึงไม่มีป้ายชื่อบนหูกระเป๋าเดินทาง
วันรุ่งขึ้น สำนักงาน EVA Air ของสนามบิน SFO ก็ส่งข่าวอีกครั้ง ว่ากระเป๋าของเราได้ถูกส่งขึ้นเครื่องบินของ EVA Air เพื่อส่งมายังสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของ EVA Air กรุงเทพ ติดต่อมาอีกครั้งเมื่อกระเป๋ามาถึงครับ
ส่งมอบให้ถึงบ้าน ไม่ต้องไปรับที่สนามบิน
อีกหนึ่งวันให้หลัง เจ้าหน้าที่สำนักงาน EVA Air กรุงเทพ ก็โทรเข้าเบอร์มือถือที่ผมได้ให้ไว้ตั้งแต่ที่แจ้งเรื่องกระเป๋าหายที่สนามบินไทเป เพื่อสอบถามที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง (มีถามด้วยนะครับ ว่าอยู่ กทม. หรือ ต่างจังหวัด) โดยที่จะมี messenger วิ่งเอากระเป๋ามาส่งให้ถึงบ้านในวันนั้นเลย นับเป็นบริการที่น่าประทับใจอย่างมากครับ
สภาพกระเป๋าที่ส่งมอบมาให้ถึงบ้าน ถูกห่อด้วยถุงพลาสติกอีกหนึ่งชั้น ล็อกด้วยตัวล็อกพลาสติกชนิดแกะออกไม่ได้ (ต้องตัดอย่างเดียว) เพื่อความปลอดภัย และความแน่ใจว่า กระเป๋าถูกส่งมาในสภาพเดียวกับที่พบที่สนามซานฟรานซิสโก
ป้ายที่ห้อยหน้ากระเป๋า ก็ถูกเขียนใหม่เป็นของ EVA Air แบบไม่มีบาร์โค้ดกำกับ ระบุชัดเจนว่าถูกส่งมาที่ BKK ส่วนอีกด้าน เป็นรายละเอียดชื่อ-ที่อยู่ของผม
ซิปกระเป๋า แม้ว่าจะเป็นกระเป๋าแบบล็อกไม่ได้ และไม่มีตัวล็อก แต่เจ้าหน้าที่ก็เอาพลาสติกมาล็อกไว้ให้ ชนิดที่เปิดไม่ได้ถ้าไม่ตัดตัวล็อกนี้ออกก่อน ถือว่าทำงานได้เรียบร้อยและมีขั้นตอนดีมาก
ของภายในกระเป๋าอยู่ครบเหมือนเดิมครับ กรณีนี้เป็นการจบสวย Happy Ending โดยกระเป๋าใบนี้ใช้เวลาเดินทางตามมาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น แม้ EVA Air จะหละหลวมตอนเช็กอิน แต่ก็แก้ไขสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ต้องขอชมเชยและขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมากครับ ถ้าหายไปจะเสียดายมาก เพราะมีของที่มีคุณค่าทางจิตใจอยู่ในนั้นด้วย
หลายคนที่เดินทาง อาจจะกังวลทุกครั้งเมื่อโหลดกระเป๋าว่า กระเป๋าจะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่เราไปด้วยหรือไม่ ก็ลองไปดูกันครับว่า ถ้ากระเป๋าจะหาย มันจะหายไปได้อย่างไร?
กระเป๋าหายได้อย่างไร?
กระเป๋าหายจากการโหลดใต้เครื่องเมื่อเดินทางด้วยเครื่องบิน สามารถแบ่งได้เป็น 3 กรณีใหญ่ๆ ครับ
1) กระเป๋าไม่ได้ถูกเช็กอินเข้าสู่ระบบ
กรณีแรกนี้ เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับผมที่เล่าให้ฟังไปข้างต้นครับ คือเราส่งมอบกระเป๋าให้เจ้าหน้าที่เช็กอินแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำการเช็กกระเป๋าใบนั้นเข้าระบบให้กับเรา สถานการณ์นี้ เราจะไม่ได้รับแท็กกระเป๋ากลับมา ซึ่งถือว่าเป็นการหายแบบเราเสียเปรียบมาก เพราะจะไม่มีหลักฐานยืนยันใดๆ ว่าเราได้ส่งมอบกระเป๋าใบนั้นไปให้กับสายการบิน
สาเหตุอาจเกิดได้จากความหละหลวมของเจ้าหน้าที่เอง ไม่ได้ดูให้ละเอียดว่าเรามีกระเป๋ากี่ใบ หรืออาจจะตกหล่นจากใบที่เล็กกว่าปกติ เพราะต้องเอาไปใส่ถาดก่อนที่จะปล่อยไปตามสายพานกระเป๋า ดังนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจทุกครั้งที่เช็กอินครับ ว่าเราได้รับแท็กกระเป๋ากลับมาครบถ้วนตามจำนวนกระเป๋าที่เราโหลดใต้เครื่อง (แท็ก 1 ใบ ต่อกระเป๋า 1 ใบ)
2) กระเป๋าถูกขโมย
กรณีนี้เกิดขึ้นบ่อยที่สุดครับ ทั้งจากการทุจริตของเจ้าหน้าที่สนามบินในการที่จะขโมยกระเป๋าไปทั้งใบ ซึ่งส่วนมากจะเกิดกับสนามบินขนาดเล็ก ที่ไม่ได้มีมาตรฐานในการควบคุมจำนวนกระเป๋าเข้าออกจากระบบที่รัดกุมมากนัก และอาจเกิดจากผู้โดยสารกันเองเอากระเป๋าเราไปด้วยการไปถึงสายพานกระเป๋าก่อนเรา โดยกรณีที่เกิดจากเจ้าหน้าที่สนามบินขโมยไปทั้งใบนั้น ปัจจุบันแม้จะเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก เพราะระบบการจัดการกระเป๋า ไม่เปิดช่องว่างให้เจ้าหน้าที่ได้เอากระเป๋าออกนอกระบบไปทั้งใบได้อย่างง่ายๆ (มีระบบ CBIS, มีการนับจำนวนกระเป๋าเข้าออก, และควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด) แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับที่ผู้โดยสารในเที่ยวบินเดียวกัน หรือเที่ยวบินเวลาใกล้เคียงกัน ขโมย หรือหยิบผิดใบ และคว้ากระเป๋าเดินออกไปก่อน
กรณีนี้ โอกาสได้คืน ให้ทำใจไว้เลยว่า ไม่มีทางได้คืนทั้งใบครับ (เพราะโดนขโมยไปแล้ว) แต่หลักฐานแท็กกระเป๋าที่อยู่กับเรา จะสามารถใช้ในการเรียกค่าเสียหายจากทางสายการบินได้ ด้วยอัตราที่แต่ละสายการบินกำหนด รวมถึงอาจมีสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตบางใบ ในการเคลมค่าเสียหายเพิ่มเติมได้อีกด้วย
3) กระเป๋าถูกส่งไปผิดที่
มักเกิดกับกระเป๋าที่มีการ transit มีการต่อเครื่อง, เปลี่ยนเครื่อง, เปลี่ยนสายการบิน ซึ่งจะเพิ่มโอกาสผิดพลาดของการทำงานจากจุดใดจุดหนึ่งของสนามบินที่เราไป transit ได้ กรณีนี้ เมื่อแจ้งกระเป๋าหาย พร้อมหลักฐานเป็นแท็กกระเป๋าที่เราเก็บไว้ มักจะได้คืนครับ และจะถูกส่งตามมาด้วยเครื่องบินของสายการบินที่เราใช้บริการ หรือสายการบินในกลุ่มพันธมิตรเดียวกัน แม้ว่ากระเป๋าเราจะถูกส่งไปผิดเมืองก็ตาม และเช่นเดียวกับกรณีที่เกิดขึ้นกับผม คือกระเป๋าจะถูกส่งถึงหน้าบ้านเลย ไม่จำเป็นต้องไปรับกระเป๋าที่สนามบินแต่อย่างใด
ข้อควรจำเมื่อโหลดกระเป๋าเดินทาง
- ต้องได้รับแท็กกระเป๋า เท่ากับจำนวนกระเป๋าที่เราโหลดทุกครั้งที่เคาน์เตอร์เช็กอิน (สำคัญมากๆๆๆๆ ที่สุด)
- ควรมีป้ายชื่อติดหูกระเป๋า ระบุชื่อ-นามสกุลภาษาอังกฤษ พร้อมที่อยู่ Home Address
- ล็อกกระเป๋าทุกครั้งที่โหลดเข้าระบบ
- แกะแถบบาร์โค้ดเก่าออกจากหูกระเป๋าทุกครั้ง ถึงแม้ว่าตอนเช็กอิน เจ้าหน้าที่จะแกะออกให้เราอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้ระบบสับสน แต่เจ้าหน้าที่ก็อาจจะพลาดได้ (กระเป๋าบางแบบมีหูหิ้วหลายที่) ดังนั้น เราแกะออกเองทุกครั้งดีกว่าครับ
- จำรูปพรรณสัณฐานของกระเป๋าที่เราใช้ให้ได้ หรือถ่ายรูปเก็บไว้
- ทำกระเป๋าให้แตกต่าง และมีเอกลักษณ์ที่เราจำได้ เพื่อป้องกันการหยิบผิดของผู้โดยสารคนอื่น ที่อาจะใช้กระเป๋ายี่ห้อ หรือ ทรงใกล้เคียงกับเราครับ
- เหตุการณ์กระเป๋าหาย เกิดขึ้นได้กับทุกคน อย่าประมาทใส่ทุกอย่างไว้ในกระเป๋าโหลดเพียงใบเดียว แพ็กเสื้อผ้าสำรองไว้ในกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องบ้าง เพื่อความไม่ประมาทครับ
ถ้าค้นพบว่ากระเป๋าหาย
- กรณีที่ยังเดินทางไม่ถึงสนามบินปลายทาง ให้แจ้งเคาน์เตอร์ Transit ที่สนามบินที่เราทำการเปลี่ยนเครื่องโดยเร็วที่สุด
- กรณีที่กระเป๋าหาย ไม่ออกมาที่สายพานที่สนามบินปลายทาง ให้แจ้งที่เคาน์เตอร์ Lost & Found หรือ Baggage Enquiry ซึงจะอยู่บริเวณสายพานรับกระเป๋าของทุกๆ สนามบินครับ
