Apple เปิดตัว iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max มาพร้อมปุ่มใหม่ Camera Control เช่นเดียวกันกับรุ่น 16 และ 16 Plus และอีกความเปลี่ยนแปลงภายนอกที่เห็นชัดคือจอใหญ่กว่าเดิม ขนาด 6.3 นิ้ว สำหรับ iPhone 16 Pro และ 6.9 นิ้ว สำหรับ iPhone 16 Pro Max ซึ่งถือเป็นจอภาพที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone แต่อัพเกรดชิปเป็น A18 Pro และสีมาร์เก็ตติ้งใหม่ Desert Titanium หรือไทเทเนียมทะเลทราย
ฟังก์ชั่นของปุ่ม Camera Control นอกเหนือจากควบคุมกล้อง ระยะต่างๆ แล้ว ในรุ่น Pro จะได้รับการอัปเดตให้สามารถทำงานเป็นชัตเตอร์แบบสองจังหวะเพื่อล็อคโฟกัสและค่าแสงที่ตัวแบบโดยอัตโนมัติ เมื่อกดเบาๆ ช่วยให้ผู้ใช้จัดเฟรมภาพใหม่ได้โดยที่ตัวแบบไม่หลุดโฟกัส นอกจากนี้นักพัฒนายังสามารถนำตัวควบคุมกล้องมาอยู่ในแอปของตนเองได้ด้วย เช่น Kino ซึ่งให้ผู้ใช้ปรับไวท์บาลานซ์และตั้งจุดโฟกัสได้ รวมถึงการตั้งจุดโฟกัสที่ความลึกหลายๆ ระยะในฉากนั้น
ชิป A18 Pro เทคโนโลยี 3 นาโนเมตรรุ่นที่ 2 และมาพร้อมสถาปัตยกรรมใหม่ที่มีทรานซิสเตอร์เล็กลงและเร็วขึ้นNeural Engine แบบ 16-core ใหม่ประหยัดพลังงานขึ้นเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แบนด์วิดท์ของหน่วยความจำรวมทั้งระบบเพิ่มขึ้น 20% เพื่อรองรับ Neural Engine และสนับสนุนการทำงานของ GPU แบบ 6-core เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าสูงสุด 20% เรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ยังเร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า ทำให้แหล่งกำเนิดแสงและภาพสะท้อนมีความสมจริงมากขึ้น และโหมดเกมใน iOS 18 ยังช่วยให้อัตราเฟรมมีความสม่ำเสมอยิ่งขึ้นด้วยโดยที่ AirPods, อุปกรณ์ควบคุมเกมแบบไร้สาย และอุปกรณ์เสริมแบบไร้สายอื่นๆ CPU แบบ 6-core โดยมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ที่สามารถทำงานกับเวิร์กโหลดในระดับเดียวกันได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า 15% แต่ใช้พลังงานน้อยลง 20% พร้อมด้วยตัวเร่งความเร็ว ML เจเนอเรชั่นถัดไป
ฟังก์ชั่นกล้องโดยเฉพาะด้านการถ่ายวิดีโอมีการอัพเกรดและมีซอฟต์แวร์ใหม่ๆ เพื่อครีเอเตอร์ โดยกล้องอัพเกรดเป็น Fusion 48MP ใหม่พร้อมด้วยเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel อ่านข้อมูลได้เร็วขึ้น 2 เท่า ทำให้ชัตเตอร์ไม่มีความหน่วงเลยเมื่อถ่ายภาพ 48MP ในแบบ ProRaw หรือ HEIF อินเทอร์เฟซใหม่ Apple Camera ถ่ายวิดีโอ Dolby Vision ระดับ 4K ที่ 120 fps บันทึกในโหมดสโลว์โมชั่นหรือวิดีโอระดับ 4K ที่ 120 fps แล้วปรับความเร็วในการเล่นหลังจากบันทึกแล้วในแอปรูปภาพ สามารถปรับแก้สีด้วยคุณภาพระดับภาพยนตร์แบบเฟรมต่อเฟรมสำหรับวิดีโอ Dolby Vision ระดับ 4K ที่ 120 fps และผู้ใช้ยังสามารถบันทึก ProRes และ Log ระดับ 4K ที่ 120 fps ลงบนอุปกรณ์ได้
รุ่น Pro ทั้งสองรุ่นมาพร้อมไมโครโฟนใหม่คุณภาพระดับสตูดิโอ 4 ตัว บันทึกวิดีโอพร้อมเสียงในระบบเสียงตามตำแหน่งได้ ซอฟต์แวร์ใหม่ Audio Mix ขับเสียงคนในวิดีโอให้เด่นขึ้น เหมือนกับบันทึกในสตูดิโอระดับมืออาชีพ หรือวางตำแหน่งของแทร็คเสียงพูดให้อยู่ด้านหน้าและวางตำแหน่งของเสียงในสภาพแวดล้อมให้เป็นเสียงรอบทิศทางก็สามารถทำได้
iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max จะมาในแบบไทเทเนียมดำ ไทเทเนียมธรรมชาติ ไทเทเนียมขาว และไทเทเนียมทะเลทราย พร้อมด้วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB ราคา iPhone 16 Pro เริ่มต้นที่ 39,900 บาท และ iPhone 16 Pro Max ราคาเริ่มต้นที่ 48,900 บาท
