ฟีเจอร์ใหม่ Apple Intelligence มาช้านิดหน่อย แต่มาแล้วนะ

คีย์โน้ต WWDC25 รอบนี้หลายคนรอลุ้นฟีเจอร์ AI ว่าจะมีอะไรมาสู้ค่ายคู่แข่งได้บ้าง ซึ่งในงานมีการประกาศฟีเจอร์ใหม่ๆ Apple Intelligence อยู่พอสมควร แม้จะมาช้าในบางฟีเจอร์ แต่ก็น่าจะเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้อุปกรณ์ Apple ไม่น้อย

รองรับภาษามากขึ้น มีภาษาเวียดนามด้วย ส่วนไทยก็รอไปก่อน  

Live Translation แปลสดทั้งโทรคุย และข้อความ รองรับการใช้งานในแอปข้อความ, FaceTime และโทรศัพท์ แปลได้แม้ไม่ได้โทรหาเครื่องที่เป็น iPhone ประมวลผลบนเครื่องเพื่อความเป็นส่วนตัว (ยังไม่มีภาษาไทยอยู่ดี)

ฟีเจอร์แปลยังสามารถแปลเพลงใน Apple Music ได้ และแสดงคำอ่านเนื้อเพลงได้ด้วย ใครสาย K POP ต้องชอบฟีเจอร์นี้มากๆ 

สร้างสไตล์ภาพใหม่ๆ บน  Image Playground ด้วยโมเดล ChatGPT มีภาพเราหรือภาพเพื่อนในสไตล์ใหม่นอกเหนือจากสไตล์ของ Apple เช่น สไตล์สีน้ำ สีน้ำมัน 

Visual Intelligence ใช้ AI เรียนรู้ข้อมูลจากรูปภาพบนหน้าจอ iPhone ถามคำถาม ChatGPT เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังดูอยู่บนหน้าจอเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม รวมถึงใช้นิ้วลากๆ (ไม่ได้วงเหมือน Circle to Search) ตรงวัตถุในภาพเพื่อค้นหา Google, Etsy หรือแอปที่รองรับอื่นๆ เพื่อค้นหารูปภาพและผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน Visual Intelligence ยังตรวจจับข้อมูลบนรูปภาพได้ เช่นถ้าเป็นรูปโปสเตอร์คอนเสิร์ต ก็จะแสดงแอกชั่นเพิ่มลงตารางปฏิทินได้

Workout Buddy ด้วยพลัง Apple Intelligence บน Apple Watch ผู้ช่วยที่คอยบอกหลักไมล์สำคัญ รวมทั้งให้กำลังใจไปด้วยระหว่างออกกำลังกาย พูดในภาษาธรรมชาติ 

ยกเครื่อง Spotlight บน MacOS 26 โดย  Spotlight จะไม่ใช่แค่ต้วค้นหาของใน Mac แต่จะทำ action หลายอย่างให้เราได้บนแท็บเลย ประสบการณ์ใช้งานคล้าย ChatGPT 

Spotlight จะแนะนำเนื้อหา ไฟล์ที่เราทำงานอยู่โดยดูจากพฤติกรรม หรือสิ่งที่เราเปิดค้างไว้ ผสานการทำงานเข้ากับ Apple Intelligence ซึ่ง Apple บอกว่าฉลาดกว่าเดิม เปิดตัว quick keys หรือปุ่มลัด ให้เราเข้าถึงแอกชั่นได้ เช่น “SM” เพื่อส่งข้อความ หรือ “AR” เพื่อเพิ่มคำเตือนใหม่ เรากำหนดปุ่มลัดให้กับฟังก์ชันที่กำหนดเองใน Spotlight ได้ด้วย

ในคีย์โน้ต มีการใช้ Spotlight ในการส่งอีเมลทั้งชิ้น โดยไม่ต้องเข้าแอปอีเมลเลย ทำได้ผ่าน quick keys และทางลัดต่างๆ บน Spotlight ใช้ความสามารถ Spotlight ในแอปที่กำลังทำอยู่ได้ด้วย เช่นแอปแต่งรูป นักพัฒนาแอปอื่นถ้าอยากให้ Spotlight เข้าถึงการทำงานก็ส่งคำดำเนินการไปทาง API ของ Apple ได้ 

อีกฟีเจอร์ที่แม้ Apple ไม่ได้พูดว่านี่คือพลัง Apple Intelligence แต่ก็ถือว่านำความสามารถทางเทคโนโลยีมาใช้งานได้ดีคือ แอปโทรศัพท์ เพิ่มฟีเจอร์ Call Screening มาช่วยคัดกรองเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่รู้จัก แสดงตัวเลือกว่าตัดหรือรับสาย ระบบรอสายอัตโนมัติ Hold Assist ที่จะแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อคู่สนทนากลับมาคุยด้วย เช่นเดียวกับการกรองข้อความในแอป Message ที่จะแยกข้อความจากผู้ส่งที่ไม่รู้จักไปไว้อีกโฟลเดอร์ 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save