ปีนี้วงการเกมคอนโซลยังคงมีเรื่องน่าตื่นเต้น ทั้งการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ และเกมใหม่ๆ ที่ทำมาให้คนรักการเล่นเกม ได้สนุก และเพลิดเพลินได้ทุกที่
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า PlayStation Portal ไม่ใช่เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์ที่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง แต่เป็นอุปกรณ์เสริมที่ทำขึ้นเพื่อใช้งานฟีเจอร์ PlayStation Remote Play หรือสตรีมเกมจากเครื่อง PlayStation5 มาไว้ที่ PlayStation Portal ผ่าน Wi-Fi
ดังนั้นจะซื้อ PlayStation Portal ได้ก็ต่อเมื่อมีเครื่องหลักเป็น PlayStation5 อยู่แล้ว และนั่นเป็นเหตุผลที่ PlayStation Portal มีราคาถูกกว่าเกมมิ่งแฮนด์เฮลด์อื่นๆ ในตลาดมาก โดย PlayStation Portal ขายที่ 7,790 บาท
ฟีเจอร์ PlayStation Remote Play ยังสามารถใช้งานบน Windows, macOS, Android, iOS, iPadOS ได้ ไม่ต้องมี PlayStation Portal ก็เล่นเกม PlayStation ในคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตได้ แต่ PlayStation Portal มาในรูปลักษณ์ และฟีเจอร์ DualSense ที่ให้อารมณ์เล่นเกมได้ดีกว่าบนคอมพิวเตอร์แน่นอน
[ ดีไซน์ การจับถือ ]
น้ำหนักเครื่อง 529 กรัม ค่อนข้างเบา และจับถือเล่นเกมได้นาน ไม่เมื่อยข้อมือ มีลำโพงในตัว อยู่ด้านบนของเครื่องทั้งสองข้าง เพิ่มอรรถรสเวลาเล่นเกมในห้อง
หน้าจอ LCD ขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด Full HD เล่นที่ความละเอียด 1080p บน 60FPS อัตรารีเฟรชเรท 60Hz สัดส่วนภาพ 16:9 ให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดี จอใหญ่ให้สัดส่วนภาพบนหน้าจอแบบเต็มตา สีสันในเกมมีความสดใส แต่ด้วยข้อจำกัดของจอ LCD ที่ไม่สามารถขับสีให้สดได้เต็มที่ และไม่สามารถกดสีดำให้ดำสนิทได้แบบ OLED ทำให้น่าเสียดายไปบ้าง
เรื่องที่น่าเสียดายคือ PlayStation Portal ยังคงไม่รองรับ Bluetooth ในการเชื่อมต่อเสียง ทั้งที่เป็นเทคโนโลยีพื้นฐานใน gadget ยุคนี้ PlayStation Portal รองรับแค่ PlayStation Link เทคโนโลยีเชื่อมต่ออุปกรณ์หูฟังแบบไร้สายของ Sony ที่ใช้งานได้เฉพาะอุปกรณ์ที่รองรับเท่านั้น
ถ้าต้องการฟังเสียงเต็มๆ คนเดียวก็สามารถเสียบเข้ากับพอร์ตหูฟัง 3.5 ที่ด้านหลังเครื่องได้ อยู่ข้างกับพอร์ตชาร์จ USB-C ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถชาร์จไปเล่นไปได้ง่าย
[ DualSense และ Haptic Feedback ]
จุดเด่นของ PlayStation Portal ที่อาจทำให้คนตัดสินใจซื้อคือ DualSense คุณสมบัติหลักของ คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense จอยรุ่นล่าสุดสำหรับคอนโซล PS5 ได้มีการหยิบเอามาใช้ใน PlayStation Portal ด้วย
DualSense และ Haptic Feedback คือฟังก์ชั่นตอบสนองที่นิ้วมือ การสั่นหลากหลายระดับ และการเพิ่มแรงต้านในปุ่ม L2 R2 ให้เล่นเกมสะใจยิ่งขึ้น และยังมีเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวของจอย โยกซ้ายขวา เบี่ยงหลบ
เกมที่รองรับ DualSense เป็นเกมที่สามารถเล่นบน PlayStation 5 ได้เท่านั้น และยังขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาเกมแต่ละค่ายว่าออกแบบให้เล่นกับ DualSense ได้มากแค่ไหน ซึ่งเราลองเล่น Astro Bot ซึ่งเป็นเกมที่ออกแบบมาเพื่อใช้งาน DualSense อย่างเต็มที่
แรงต้านในปุ่ม L2 R2 ช่วยให้เล่นเกมสนุก สะใจขึ้นอย่างมาก ฟีลลิ่งการออกอาวุธดีทุกครั้งที่ได้ใช้งานปุ่ม L2 R2 ในบางช่วงของเกมจำเป็นต้องใช้การขยับเบี่ยงซ้ายขวา โยกขึ้นลง ก็สามารถทำได้ดี Astro Bot ยังเน้นสีสันจัดจ้าน ซาวด์เอฟเฟกต์และการสั่นที่หลากหลาย เพิ่มอรรถรสระหว่างเล่นเกมได้อย่างมาก
[ การเล่น PlayStation Portal นอกสถานที่ ]
ในรีวิวนี้ได้มีการทดลองเล่น PlayStation Portal จากที่อื่น ที่ไม่ได้อยู่ในวง Wi-Fi เดียวกันกับเครื่องหลัก PlayStation 5 ซึ่ง Sony แนะนำให้ใช้ความเร็ว 15Mbps เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด
แต่ประสบการณ์การเล่นเกม จะต่างออกไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งความแรง และความเสถียรของ Wi-Fi สภาพอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อความเร็วอินเทอร์เน็ต หากเล่นบนชั้นสองของบ้าน ก็อาจเจอประสบการณ์เล่นเกมหน่วง ซึ่งจากการใช้งานในคอนโดพบว่าเจอภาวะหน่วงอยู่เป็นระยะ แต่ยังสามารถเล่นเกมต่อได้ตามปกติ
ส่วนใครที่พกพาไปเล่นข้างนอก ก็สามารถแชร์เน็ต Hotspot จากมือถือ ที่เชื่อมต่อ 5G ได้แบบสบายๆ แต่ก็แน่นอนว่ายังคงขึ้นอยู่กับความครอบคลุมของเน็ต 5G ที่เชื่อมต่อและแชร์มาให้ PlayStation Portal ด้วย
ดังนั้น การนำ PlayStation Portal ไปเล่นที่อื่นนั้น ทำได้แน่นอน ขอแค่มี Wi-Fi ที่เสถียรเป็นพอ ดังนั้นใครที่มีเหตุจำเป็นต้องเดินทางบ่อย แต่รักฟีลลิ่งการเล่นเกม PlayStation ล่ะก็ PlayStation Portal ก็ถือเป็นของที่ต้องมี
อย่างไรก็ตาม PlayStation Portal ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในลักษณะของเครื่องเล่นเกมส่วนตัว ทำให้ฟีเจอร์อย่าง RemotePlay ที่พัฒนามา ยังไม่สามารถสลับล็อกอิน หลังการลงทะเบียนใช้งานเพื่อเชื่อมอุปกรณ์กับเครื่องคอนโซล ดังนั้นถ้าอยู่ในบ้านแล้วมีผู้ใช้งานหลายคน สลับบัญชีใช้งาน หรือเผลอปิดเครื่อง PlayStation5 ที่เปิดสแตนบายไว้ ก็จะทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อเข้ามาเล่นเกมได้
ล่าสุด มีข่าวดีสำหรับคนที่คาดหวังให้ PlayStation Portal เป็นมากกว่าอุปกรณ์เสริม ทำงานด้วยตัวเองได้มากขึ้น Sony ประกาศทดสอบให้ใช้ PlayStation Portal ในการเล่นเกมจากคลาวด์ได้ ซึ่งปกติคนมีเครื่อง Portal ต้องมีเครื่องหลักคือ PS5 เพื่อเชื่อมต่อระบบเข้ากับเครื่อง Portal
การอัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่ช่วยให้เราเล่นเกมจากคลาวด์ไม่ต้องพึ่งซีพียูของเครื่องหลัก แต่ใช้การประมวลผลจากคลาวด์แทน