Apple ออกอัพเดตครั้งใหญ่ใน Final Cut Pro 11 เพิ่มฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ เข้ามาช่วยให้การตัดต่อวิดีโอทำง่ายขึ้น ทั้งเวอร์ชั่นเดสก์ทอป และ iPad

ฟีเจอร์ Magnetic Mask นักตัดต่อสามารถกดเลือกคน หรือวัตถุเพื่อมา edit ปรับแต่งสี สร้างเอฟเฟกต์เพิ่มเติมได้ในคลิกเดียว โดยไม่ต้องพึ่งหา green screen, Transcribe to Captions สร้างคำบรรยายได้จากไทม์ไลน์ โดยใช้โมเดลเทรนภาษาของ Apple

Final Cut Pro 11 รองรับการตัดต่อวิดีโอ Spatial Video สำหรับ Apple Vision Pro สามารถอิมพอร์ตไฟล์ Spatial เข้ามาเพื่อตัดต่อ ปรับแต่งสีเอฟเฟกต์เพิ่มเติมได้ เลือกดูวิดีโอจากตาแต่ละข้างได้ทั้งบน Mac และ Mac Virtual Display ในสัดส่วนพาโนรามากว้าง 32:9 ส่วนเวอร์ชั่น iPad หรือ Final Cut Pro for iPad 2.1 มีการอัพเดทเช่นกัน คือฟังก์ชั่น Enhance Light and Color สามารถใช้งานใน iPad ได้ด้วย ปรับแต่งสีได้ง่ายเหมือนเวอร์ชั่น Mac

รองรับการใช้ Apple Pencil Pro เขียนแบบ Live Drawing ลงไปในฟุตเทจได้ด้วย รวมถึง Haptic Feedback ที่มีในปากกาก็สามารถใช้งานได้ดีระหว่างทำงานบน Final Cut Pro for iPad 2.1
โปรแกรมตัดต่อและสร้างเสียงเพลงอย่าง Logic Pro ก็มีการอัพเกรดเล็กๆ น้อยๆ ด้วยเช่นกัน เพิ่มปลั๊กอิน Quantec Room Simulator ให้เข้าถึงคลังเพลงหรือซาวด์คลาสสิคที่มีความแม่นยำสูง, Reorder Mixer Channels จัดเรียงแถบช่องสัญญาณใหม่ได้ตามต้องการ, รองรับการค้นหาปลั๊กอิน ทั้งชื่อบริษัท ชื่อส่วนหนึ่งของปลั๊กอิน, เพิ่ม Sample Folders เข้าถึงคอลเลกชั่นส่วนตัวได้ทั้งในแอป สตอเรจภายนอก และ iCloud Drive
ที่มา : Apple