Apple ย้ำภาพลักษณ์เรื่องการรักษาความเป็นส่วนตัวผ่านวิดีโอโฆษณามาหลายชิ้น โดยวิดีโอชิ้นล่าสุด ความยาว เกือบ 2 นาที มีความน่าสนใจคือ Apple ออกแบบให้การที่เสิร์ชเอนจิ้นหรือเว็บไซต์อื่นๆ ติดตามเราผ่านคุกกี้เป็นเรื่องเรื่องสยองขวัญและเป็นภัยคุกคาม ซึ่งเราสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวได้ด้วยการใช้เบราว์เซอร์ Safari
Apple พยายามสื่อสารว่าเบราว์เซอร์ Safari เป็นหนทางการท่องเว็บไซต์ที่ปลอดภัย Safari เป็นเบราว์เซอร์เดียวที่เริ่มบล็อคคุกกี้ของบุคคลที่สามมาตั้งแต่ปี 2005 และบล็อคทั้งหมดจนถึงตอนนี้ นอกจากนี้ยังไม่แชร์ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งกับเสิร์ชเอนจิ้น ซึ่งต่างจากเจ้าอื่น
Safari เดินทางตั้งแต่เวอร์ชั่น 1.0 ซึ่งมีระบบป้องกันการติดตามข้ามเว็บไซต์ มาจนถึงเวอร์ชั่นที่ 17.0 ที่เพิ่มความสามารถหลายอย่างคือ
- การป้องกันการติดตามลิงก์
- การบล็อคตัวติดตามที่รู้จักไม่ให้ใช้งานเครือข่าย รวมถึงตัวติดตามที่รู้ว่าอำพราง CNAME
- การป้องกันการสร้างลายนิ้วมือขั้นสูง
- ส่วนขยายที่เข้าถึงเว็บไซต์หรือประวัติการท่องเว็บจะถูกปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น
- จำกัดอายุขัยของคุกกี้ที่ตั้งตามการตอบกลับจากที่อยู่ IP ของบุคคลที่สามที่มีการอำพราง
- SessionStorage ที่มีการแบ่งพาร์ติชั่น
- Blob URL ที่มีการแบ่งพาร์ติชั่น (เริ่มตั้งแต่ Safari 17.2)
- ขยายขอบเขตของ Web AdAttributionKit (เดิม Private Click Measurement) เพื่อใช้แทนพารามิเตอร์การติดตามใน URL ช่วยให้นักพัฒนาเข้าใจประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดถึงแม้อยู่ในโหมดการท่องเว็บแบบส่วนตัว