CMF by Nothing หรือแบรนด์ใหม่ของ Nothing เปิดตัว Phone 1 เป็นมือถือรุ่นแรกของแบรนด์ CMF ที่มาพร้อมสีส้มซึ่งเป็นสี CI ของ CMF และกิมมิคน่าสนใจคือเป็นมือถือที่เพิ่มเครื่องมือถอดเปลี่ยนฝาหลังและ accessories สายคล้อง ขาตั้ง เพิ่มความเก๋ได้
Phone 1 เป็นมือถือระดับกลาง ที่ยังคงเน้นราคาเข้าถึงได้กว่าแบรนด์หลักอย่าง Nothing โดย Phone 1 ใช้ชิปรุ่นรองลงมาจากเรือธงคือ MediaTek Dimensity 7300 5G เทคโนโลยี 4 นาโนเมตร แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็ว 33W กล้องหลัก 50 MP บวกเซนเซอร์ถ่ายรูปบุคคล กล้องหน้า 16MP จอ 6.67 นิ้ว Super AMOLED LTPS สว่างสูงสุด 2000 nits อัตรารีเฟรชเรท 120 Hz มีสองรุ่นความจุให้เลือกคือ 8 GB + 256 GB และ 8 GB + 256 GB อัพความจุได้สูงสุด 2TB
Phone 1 ราคาเริ่มต้น 200 ดอลลาร์ หรือราวกว่า 7,000 บาทเท่านั้น ถือว่าทำราคาออกมาน่าสนใจทีเดียว
เปิดตัว CMF Watch Pro 2
นอกจาก CMF Phone 1 แล้วยังเปิดตัว gadget อื่นๆ อย่าง CMF Watch Pro 2 ที่คงคอนเซปต์ถอดเปลี่ยนได้เหมือน CMF Phone 1 โดยเราสามารถถหมุนเพื่อถอดเปลี่ยนขอบหน้าปัดนาฬิกาได้ รอบนี้ยังใช้หน้าปัดทรงกลงแทนเหลี่ยมแบบรุ่นที่แล้ว ทำออกมาสี่สีคือ Dark Grey, Ash Grey, Blue, Orange
หน้าจอ 1.32 นิ้ว AMOLED สว่างสุด 620 nits ตรวจจับการออกกำลังกาย 120 โหมด แบตเตอรี่ 305 mAhใช้งานทั่วไปนาน 11 วัน การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 กันน้ำกันฝุ่น IP68
CMF Watch Pro 2 เปิดตัวที่ราคา 69 ดอลลาร์ หรือกว่า 2,500 บาท
เปิดตัว CMF Buds Pro 2
Gadget สุดท้ายที่เปิดตัวมาในรอบนี้คือ หูฟัง Buds Pro 2 ปุ่มหมุนควบคุมที่สามารถปรับแต่งได้ ใช้งาน ANC ตัดเสียงรบกวนได้ และใช้โหมด Spatial Audio แบบอัลกอริทึม ที่ตัวเคสมีปุ่ม Smart Dial ควบคุมการใช้งานได้ หมุนเพื่อควบคุมระดับเสียง การเล่นเพลง และกดเพื่อเปิดโหมด ANC ได้ด้วย
Buds Pro 2 มีสี่สีให้เลือกคือ Dark Grey, Light Grey, Orange, Blue ตัวหูฟังมีขนาดแบตเตอรี่ 60 mAh ส่วนเคสมี 460 mAh ใช้ได้นาน 43 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคส แต่ถ้าใช้โหมด ANC จะเหลือ 26 ชั่วโมง
Buds Pro 2 เปิดตัวราคาที่ 59 ดอลลาร์ หรือกว่า 2,100 บาท