คอวงการรถยุโรปคงได้ทราบข่าว Maserati แบรนด์รถจากอิตาลี เปิดตัวรถเอสยูวีไฟฟ้า 100% รุ่นแรกใน ประวัติศาสตร์ของแบรนด์ คือ Maserati Grecale Folgore ซึ่ง spin9 ได้ลงคลิปรีวิวให้ดูกันไปเรียบร้อยแล้ว และทาง Maserati ก็ได้นำตัวรถมาจัดแสดงที่งานมอเตอร์โชว์ด้วย รวมถึงเคาะราคาไทยที่ 7.89 ล้านบาท
การขยับมาทำรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 100% ของ Maserati เป็นความเคลื่อนไหวที่อาจเซอร์ไพรส์หลายๆ คน เพราะเป็นแบรนด์ที่ยึดมั่นในเครื่องยนต์สันดาปมาโดยตลอด และอาจเป็นความเคลื่อนไหวที่ช้าสักนิดเมื่อเทียบกับแบรนด์ลักชูรี่อื่นๆ แต่ทางบริษัทก็กำหนดเป้าหมายมาแล้วว่า ต่อจากนี้ไปเราจะทำแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าโดยใช้ชื่อว่า Folgore ซึ่งตอนนี้มีแล้ว 2 รุ่นคือ Maserati GranTurismo Folgore และ Maserati Grecale Folgore
ในงานมอเตอร์โชว์ ทีมงาน spin9 ได้พูดคุยกับ แฮมดี แอลฌองตูรี Head of Maserati Overseas Regions และ ปิยะเทพ ศิวากาศ Director of Operations Maserati ประเทศไทย พูดคุยเรื่องกลยุทธ์การทำการตลาดในไทยที่มีความท้าทายสูง มีคู่แข่งมากหน้าหลายตาแม้กระทั่งแบรนด์ยุโรปด้วยกันเองก็ตาม
ในประเด็นนี้ แอลฌองตูรี บอกว่า เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของแบรนด์ Maserati คือความเป็นอิตาลี 100% ทั้งวัสดุ-การผลิตตั้งแต่ต้นจนจบเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นในอิตาลีทั้งหมด ซึ่งช่วยคงภาพลักษณ์ความหรูหราเอาไว้ได้ และเชื่อว่าคนซื้อรถเองก็ต้องการวัฒนธรรมความหรูหรานี้จาก Maserati
แต่ในขณะเดียวกัน Maserati ก็ไม่ได้แข่งขันตัวเองกับ mass market แต่จะเน้นการทำดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ และทำเครื่องยนต์ให้คง performance แรงๆ ในแบบฉบับเดิมของ Maserati ที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป
สำหรับประสิทธิภาพตัวเครื่อง Maserati Grecale Folgore ที่เป็นรุ่นไฟฟ้าล้วนคือ แบตเตอรี่ความจุ 105 kWh ที่ใช้เทคโนโลยี 400V แรงบิดสูงสุด 820 นิวตันเมตร พลังสูง 410 กิโลวัตต์ทำความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ MAX RANGE, GT, SPORT และ OFFROAD ซึ่งยังเป็นสเปกที่แรงแม้เปลี่ยนมาเป็นรุ่นไฟฟ้าล้วน
คุณปิยะเทพ ยังให้ข้อมูลด้วยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยตอนนี้ แบรนด์จีนเริ่มเข้ามามีผลกระทบในเซกเมนต์แมสและตัว entry level แต่ไม่ได้กระทบกลุ่มรถยนต์กลุ่มลักชูรี่ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มองว่าพวกเขาไม่ได้ซื้อรถยนต์ แต่ซื้อสินค้าแบรนด์เนม ซื้อเรื่องราวหรือสตอรี่ที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์นั้นๆ ดังนั้นเซกเมนต์ลักชูรี่จึงยังเป็นกลุ่มที่จีนเจาะตลาดได้ยาก
ภาพรวมลูกค้าของ Maserati กลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไป ยังชื่นชอบกลุ่มเครื่องยนต์ ICE หรือเครื่องยนต์สันดาป ที่มีคาแรกเตอร์ สมรรถนะและเสียงการขับขี่จากเครื่องยนต์ แต่ในขณะเดียวกัน การขยับมาทำรถไฟฟ้าล้วนยังช่วยให้บริษัทเจาะกลุมคนอายุน้อย กลุ่มผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจอายุ 30 กลางๆ ไปจนถึง 40 กลางๆ เริ่มให้ความสนใจรุ่นไฟฟ้าล้วนเช่น Maserati GranTurismo Folgore มากขึ้น ที่สำคัญ ลูกค้ายังมีทางเลือก เพราะไม่ว่าจะรุ่นไหนของแบรนด์ Maserati จะมีเครื่องยนต์หลายรูปแบบให้เลือก ทั้งสันดาป ไฮบริด และไฟฟ้า
สำหรับเป้าหมายในอนคตของ Maserati แน่นอนว่าจะขยายเซกเมนต์รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ค่อยๆ ลดบทบาทของเครื่องยนต์สันดาปตามแนวโน้มของโลก โดยในปี 2025 จะต้องมีรุ่น Folgore ซึ่งเป็นระบบพลังงานไฟฟ้าให้ลูกค้าเลือก และในปี 2028 รถ Maserati ทุกรุ่นจะเป็นระบบพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ยกเลิกการผลิตเครื่องยนต์ระบบสันดาป