ในงาน AIS Vision ปีที่แล้ว AIS พูดถึงแพ็กเกจพิเศษที่จะเปิดตัวในปีนี้คือ Living Network ให้ลูกค้าได้ซื้อเน็ตเพิ่มในช่วงเวลาเร่งด่วน
ในงาน Mobile Expo วันนี้ AIS เปิดตัวแพ็กเกจ 5G Mode อย่างเป็นทางการ คือเราสามารถซื้อเน็ตเพิ่มในช่วงเวลาเร่งด่วน ที่มีความจำเป็นต้องใช้เน็ตในช่วงเวลาที่คุณภาพสัญญาณแย่ ใช้ได้ 3 ชั่วโมง 5GB 49 บาท
แพ็กเกจ 5G Mode แบ่งเป็นสามโหมดด้วยกันคือ
1 ) Boost Mode เป็นการซื้อเน็ตเพิ่มในจุดที่ทีคนแย่งสัญญาณเยอะ เป็นเหมือนเปิดไซเรนในจุดที่รถติด โดยเราสามารถขอเพิ่ม priority ให้เครื่องเรา และจะไม่มีผลถ้าเน็ตตรงนั้นเร็วอยู่แล้ว
2 ) Live Mode เป็นการล็อกช่องสัญญาณให้เราได้ไลฟ์โดยเฉพาะ เจาะกลุ่มคนขายของออนไลน์ คงความสามารถไลฟ์เป็น Full HD ได้ตลอดเวลา รองรับ 5 แอปสำคัญคือ TikTok Facebook Instagram Shopee Lazada ส่วน YouTube กำลังตามมาในอนาคต
โหมดนี้จะยังใช้ได้เฉพาะ กทม. และปริมณฑลจังหวัดอื่นๆ จะสามารถใช้งานได้ในช่วง 1-2 เดือนนี้ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้งานได้ครึ่งปีหลัง
3 ) Game Mode เป็นโหมดที่ช่วยคุมปิงให้นิ่ง ไม่แกว่งไปแกว่งมา โดยเน็ตเวิร์คจะดูลิสต์ของ IP address เกมที่เรารองรับ โดยเครือข่ายจะให้คิวเราก่อน รองรับเฉพาะ 12 เกมตามรูปภาพประกอบ
สาเหตุที่ไม่รองรับเกมทั้งหมด เพราะ AIS จะไม่รู้ว่า IP ไหนจะได้ไปก่อน Game Mode เปิดให้ใช้งานแล้ว ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะใช้งานได้ครึ่งปีหลัง
แล้วเราจะสามารถเช็คคุณภาพสัญญาณได้ยังไง จะรู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ในจุดที่เครือข่ายแน่นที่ควรเพิ่มแพ็กเกจพิเศษ ทาง AIS ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในแอป myAIS ตรงเมนู myNetwork เราจะมองเห็นเป็นกราฟิก grid หลายๆ ชิ้นในตำแหน่งที่เราอยู่ มองเห็นเลยว่าสัญญาณของเรา down ลง และถ้าเป็นสีเขียวแสดงถึงสัญญาณยังดีอยู่ ซึ่งถ้าสัญญาณดี จะไม่สามารถกดใช้งาน 5G Mode ได้
ฟังก์ชั่นนี้ยังช่วยลดการรีพอร์ตและลูกค้าไม่ต้องคอยโทรถามคอลเซนเตอร์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสัญญาณ ซึ่งในจุดที่มีคนเยอะ คุณภาพสัญญาณจะต่ำลงเป็นเรื่องปกติ ซึ่งถ้าลูกค้าคนไหนจำเป็นต้องใช้เน็ตจริงๆ ก็สามารถซื้อแพ็กเกจ 5G Mode เพิ่มได้
AIS อธิบายเพิ่มว่า แพ็กเกจ 5G Mode ควรใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ เพราะใช้งานได้แค่ 3 ชั่วโมง และจำกัดการใช้งานต่อ 1 พื้นที่ที่ AIS ประเมินไว้ที่ 15 คน เพื่อไม่ให้กระทบลูกค้าคนอื่นๆ และสามารถใช้งานได้กับมือถือที่รองรับ 5G เท่านั้น
