ปี 2023 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปเป็นปีแห่ง Generative AI จากการเปิดตัว ChatGPT ในปลายปีที่แล้ว ทำให้ในปีนี้เราเห็นการเคลื่อนไหวของหลายบริษัทเทคโนโลยีเข้ามาในตลาด Generative AI กันมากขึ้น เร่งพัฒนา Gen AI ในชื่อของตัวเอง จากการใช้งานส่วนบุคคลสู่การใช้งานในองค์กร และในอนาคตเราก็จะมี Gen AI เป็นฟีเจอร์หนึ่งในมือถือเลยด้วย
IBM หนึ่งในผู้ที่พัฒนา Gen AI เพื่อองค์กร ออกมาแชร์เทรนด์เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในปี 2024 ผ่านการสำรวจของสถาบันการศึกษาคุณค่าทางธุรกิจของ IBM หรือ IBV ที่สำรวจความเห็นผู้บริหารในองค์กรทั่วโลก เผย 5 เทรนด์ที่องค์กรต้องรับมือ รวมถึงคนในวงการเทคโนโลยีที่จะต้องเตรียมตัวในปี 2024 นี้
1 องค์กรเปลี่ยนจาก Plus AI เป็น AI Plus คือ AI ไม่ใช่ของแถมแต่เป็นของที่ต้องมีเป็นพื้นฐาน และต้องขยายการใช้งาน Gen AI เพื่อเพิ่ม productivity ให้ได้ทั้งองค์กร แต่ความท้าทายคือ ข้อมูลที่นำไปใช้ต้องมีความถูกต้อง ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ใคร ดังนั้นในแต่ละองค์กรจึงควรมีตำแหน่งงานประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจริยธรรม AI ที่ดูแลเรื่องการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบโดยเฉพาะ เพื่อวางรากฐานและสื่อสารกับพนักงานให้ชัดเจน
2 คนที่ใช้ AI เป็นจะมาแทนที่คนที่ไม่ใช้ เมื่อ Gen AI เติบโตขึ้น จำนวนของตำแหน่งงาน และผู้ที่จะได้รับผลกระทบจาก Gen AI จะยิ่งมากขึ้น job description ในอนาคตจะเพิ่มทักษะการทำงานกับ AI เข้าไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก และภายในอีก 5 ปี ผู้นำในหน่วยงานรัฐคาดว่าจะต้องใช้จ่ายด้าน AI และระบบออโตเมชั่น มากกว่าใช้จ่ายด้านบุคลากร
เพราะฉะนั้น ทักษะการทำงานร่วมกับ AI จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก จากผลสำรวจของ IBV บอกด้วยว่า พนักงาน 40% จะต้องเรียนรู้ทักษะใหม่อย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีข้างหน้า Generative AI มีศักยภาพในการทำกิจกรรมโดยอัตโนมัติ รวมแล้วกินเวลา 60-70% ของเวลาที่พนักงานต้องทำ
แต่มีสิ่งให้พอชื้นใจได้บ้างคือ จากการสำรวจความเห็นของซีอีโอ 87% มองว่าจะใช้ AI มาสนับสนุนคนทำงานมากกว่าจะมาแทนที่ หรือนำ AI มาเป็นเพื่อนร่วมงานคนใหม่นั่นเอง
3 ข้อมูลไม่ใช่เรื่องของฝ่ายไอทีอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องที่ผู้บริหารระดับสูงต้องสนใจ สืบเนื่องจากที่มาของข้อมูลที่อาจได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เป็นอุปสรรคที่ทำให้ไม่กล้าใช้ Gen AI ในองค์กร
ซีอีโอ 61% มองว่าความกังวลเกี่ยวกับต้นกำเนิดและแหล่งที่มาของข้อมูล จะเป็นอุปสรรคต่อการนำ Gen AI มาใช้
57% มองว่าการรักษาความปลอดภัยข้อมูลจะเป็นอุปสรรคเช่นกัน ขณะที่ 45% พุ่งเป้าไปที่ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
IBM จึงแนะนำว่าการสร้างมูลค่าที่ดีที่สุด คือเริ่มต้นที่ความปลอดภัยไซเบอร์ก่อน ทำให้ระบบ zero trust และข้อมูลที่เชื่อถือได้กลายเป็นจุดต่างสำคัญของตน ยึดเรื่องการรักษาความปลอดภัยเป็นเกณฑ์หลักเมื่อต้องตรวจสอบคู่ค้าหรือยุทธศาสตร์ของคู่ค้า
4 องค์กรต้องมีความยืดหยุ่นสูง ทำงานข้ามสายงานเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย
ผู้บริหารส่วนใหญ่ มองว่า Gen AI จะช่วยให้องค์กรคาดการณ์เหตุไม่คาดฝันได้ดีขึ้น แดชบอร์ดที่อาศัยความสามารถของ Gen AI จะก้าวล้ำยิ่งขึ้นในปี 2024 ช่วยให้เห็นภาพกว้างและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
ที่ผ่านมา เทคโนโลยีไปจนถึงโครงสร้างองค์กรไม่เอื้อให้เกิดการรับมือเหตุการณ์ได้เร็วพอ สิ่งที่ IBM แนะนำคือ องค์กรควรทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อแจกแจงบทบาทหน้าที่ การตัดสินใจ และความรับผิดชอบก่อนเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง โดยใช้โมเดลที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล รวมถึงเครื่องมือ Gen AI เพื่อวางแผน จำลองสถานการณ์ขึ้นมาและจัดการความเสี่ยง
5 หน่วยงานต่างๆ จะรวมตัวกันเป็นอีโคซิสเต็มมากขึ้น เพื่อทำงานที่มีเป้าหมายสอดคล้องกัน
ผู้บริหาร 69% ระบุว่าองค์กรของตนได้รับผลตอบแทนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากการมีส่วนร่วมในอีโคซิสเต็มทางธุรกิจ และในโลกที่มีการขาดแคลนบุคลากรทักษะสูง ผู้บริหาร 65% ระบุว่าพวกเขาสามารถเข้าถึงทักษะที่เกี่ยวข้องและเป็นที่ต้องการสูงได้ผ่านการร่วมมือกันทางธุรกิจ
IBM จึงแนะนำว่า แต่ละองค์กรควรแบ่งปันความสามารถ แนวคิด ทรัพยากรข้อมูล เทคโนโลยี เพื่อพัฒนาในหลายด้าน ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการสนับสนุนหลังการขาย
ใครที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ https://www.ibm.com/thought-leadership/institute-business-value/en-us/report/business-trends-2024
