ในทุกๆ ปี จะมีสินค้า Apple ที่เป็นอุปกรณ์เสริมผลิตออกมาวัดใจความเป็นแฟน Apple นั่นก็คือถ้าคุณเป็นแฟน Apple จริงจะต้องมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งในลิสต์นี้ หรือบางอย่างต้องเรียกได้ว่าอย่าเรียกตัวเองว่าเป็นสาวกถ้าคุณยังไม่มีสิ่งนี้!
1.ผ้าเช็ดรอย
สินค้าชิ้นแรกแก็คือผ้าเช็ดรอย หรือว่าผ้าเช็ดทำความสะอาดหน้าจอจากทาง Apple ที่น่าจะเป็นผ้ายี่ห้อ Apple อันแรกเลยที่ทำผ้าออกมาวางขาย แต่ต้องย้อนไป ก่อนนี้ว่า ผู้ที่ซื้อหน้าจอ Pro Display XDR แบบ Nano-texture กับคนที่ซื้อจอ iMac จะได้ผ้าลักษณะเดียวกัน
แต่ว่า Apple เพิ่งจะเอามาวางแยกขายสำหรับลูกค้าทั่วไปในราคา 690 บาท สร้างเสียงฮือฮาตั้งแต่ผ้าผืนนี้อยู่บน Online Store ของ Apple ผ้าผืนเล็กๆ ราคา 690 บาท นี้มีอะไรพิเศษ ก็คือบนผ้านี้จะตีตราโลโก้ Apple อยู่ที่บริเวณด้านขวาล่างของผ้าแค่นั้นเอง
สังเกตได้ว่าผ้าผืนเล็กที่วางจำหน่ายนั้น เล็กกว่าที่ให้มากับผ้าแถมจอ Pro Display XDR ที่เป็น Nano-texture ด้วย เพราะถ้าไซต์ใหญ่นี้อาจจะต้องรอรุ่น Pro Max ที่จะวางขายปีหน้า ในราคาเป็นพันก็ได้
2.Magic Mouse สีดำ
ชิ้นถัดมาสำหรับสาวก Apple ก็คือ Magic Mouse ที่ถูกใช้งานกันทั่วๆ ไป อาจจะมากับเครื่อง iMac หรือถ้าเกิดซื้อแยกถือว่าคุณเป็นแฟนระดับหนึ่งเลย แต่ว่าถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ Apple จริง จะรู้ว่าในอดีตนี้เขาไม่ได้มีขายแค่สีขาว เพราะมีขายสีดำด้วย เสียบชาร์จทีไรก็ตลกทุกทีกับเมาส์ตัวนี้ที่ต้องหงายท้องชาร์จ
และนี่คือ Magic Mouse สีดำครับ แต่ที่บอกว่าทำไมสีดำต้องสำหรับแฟน Apple ตัวจริงเพราะว่าต่างกันแค่สีแต่ราคาต่างกันมหาศาล ในอดีตตัว Magic Mouse สีขาวเขาขายอยู่ราว 2,490 บาท เปลี่ยนเป็นสีดำราคาขาย 3,190 บาท แต่ว่าไม่ได้มีอะไรพิเศษนอกจากสีที่เพิ่มมาเลย
ที่ลิมิเต็ดไม่ได้มีแค่ Magic Mouse สีดำ เพราะว่าในกล่องของ Magic Mouse สีดำเป็นสินค้าชิ้นเดียว ที่จะได้สาย USB-A to Lightning สีดำ และตอนนี้ไม่มีขายแล้ว เพราะเปลี่ยนเป็น USB-C to Lightning แทนเรียบร้อย
ส่วน Magic Keyboard สีดำราคาขายก็ต่างกัน คือสีขาวจะขายถูกกว่ารุ่นสีดำ โดยอัปเดตล่าสุดมาพร้อมกับ Touch ID และสาย USB-C to Lightning สีเดียวกับคีย์บอร์ด ในรุ่นสีขาว วางจำหน่ายอยู่ที่ 5,890 บาท ส่วนสีดำขึ้นมาเป็น 6,590 บาท ซึ่งไม่มีฟังก์ชันอะไรที่แตกต่างกันเลยนอกจากสีของคีย์บอร์ดเท่านั้น
3.แท่นชาร์จ Apple Watch Magnetic Charging
ถัดมาเป็นไอเทมสุดยอดแฟน Apple Watch ตามปกติสายชาร์จ Magnetic ที่ติดอยู่ด้านหลัง Apple Watch จะมีมาให้ในกล่องอยู่แล้ว ดังนั้นสินค้าที่จะวัดใจแฟน Apple ก็คือ Magnetic Charging Dock สำหรับ Apple Watch โดยเฉพาะ
ความเจ๋งของแท่นชาร์จนี้ ก็คือสามารถยกแท่นขึ้นมา ให้ชาร์จ Apple Watch ในแนวตั้งได้ เหมาะกับเวลาใช้สายนาฬิกาที่ไม่ใช่ Sport Band อย่างพวก Sport Loop หรือว่า Solo Loop ต่างๆ ที่ต้องตั้งขึ้นมาถึงจะเท่
รวมถึง Apple Watch มีโหมด Nightstand ที่จะโชว์เป็นนาฬิกาให้เห็นอยู่ตลอดเวลานี่คือประโยชน์ของแท่นชาร์จ Magnetic Charging Dock จากทาง Apple 2,990 บาท
4.แท่นชาร์จ MagSafe Duo Charger
ถัดมาไอเทมสุดยอดแฟน MagSafe Duo Charger แท่นชาร์จที่สามารถชาร์จทั้ง iPhone ที่รองรับ MagSafe กับ Apple Watch ในแท่นเดียวกัน ที่สามารถพับเก็บเล็กๆ ได้ด้วย
มองถึงการออกแบบก็คือเอาแท่นชาร์จ MagSafe ของ iPhone กับแท่นชาร์จ Apple Watch มาติดกันเป็นผืนเดียวกัน เอามาขายในราคามหัศจรรย์ 4,990 บาท ประโยชน์ก็คือใช้อะเดปเตอร์ เชื่อมต่อกับสาย Lightning เพียงเส้นเดียว ก็สามารถชาร์จทั้ง iPhone และ Apple Watch ได้พร้อมกัน
ส่วนตัว แท่นชาร์จ MagSafe Duo Charger ผมชอบใช้ตอนที่ต้องเดินทาง อย่างเช่นตอนไปต่างประเทศ หรือว่าไปต่างจังหวัด เพราะไม่อยากจะพกอะแดปเตอร์ไปหลายๆ ตัว ก็สามารถพกอะแดปเตอร์ไปตัวเดียวแล้วกับแท่นชาร์จพับเก็บได้ไป โดยบริเวณแท่นชาร์จนาฬิกาตรงนี้ ยังสามารถยกขึ้นมาได้เหมือนกับแท่นชาร์จ Magnetic ได้ด้วย
5.MagSafe Leather Wallet
นอกจากนี้ ยังมีไอเทมวัดใจแฟน Apple คือ MagSafe Leather Wallet กระเป๋าใส่บัตรที่ทำมาจากหนัง รองรับกับ MagSafe iPhone 12 กับ 13 ทุกรุ่น สามารถแปะเข้าด้านหลัง iPhone ก็จะขึ้นมาเป็น Wallet ให้เราสามารถเพิ่มเข้าไปในแอป Find My ได้
ข้อดีของ MagSafe Wallet รุ่นใหม่นี้ คือเวลาที่มันถูกแยกออกจากกันเกิน 1 นาที iPhone ก็จะแจ้งเตือนว่าเราลืมกระเป๋าใส่บัตร หรือว่ากระเป๋าใส่บัตรตัวนี้ตกหล่นหายไป จะได้หาเจอได้อย่างทันท่วงที ชิ้นนี้ที่บอกว่าวัดใจเพราะว่าราคาชิ้นหนึ่งอยู่ที่ 2,590 บาทเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานจริงก็มีทั้งความสะดวก และไม่สะดวก เพราะเวลาจะหยิบใช้งานบัตร ต้องแกะออกมาก่อน แล้วใช้นิ้วดันบัตรขึ้นจากด้านใน แล้วค่อยแปะเข้าไปติดกับเครื่องอีกที อีกอย่างก็คือจะไม่สามารถใช้งานร่วมกับที่ชาร์จไร้สายด้วย MagSafe เพราะจะไม่สามารถชาร์จทะลุไปได้ ต้องถอดออก
6.iPhone Battery Case
นี่คือ iPhone Battery Case หรือว่าเคสปูดในตำนานของ Apple ในลักษณะของเคสซิลิโคนที่ฝังเอาก้อนแบตเตอรี่อยู่ด้านหลังของเคส ตัวนี้ถือว่าเป็นตัวสุดท้ายแล้วเพราะว่า iPhone 12 มี MagSafe Apple ก็ทำตัว Battery Pack ของ MagSafe มาขายแทน
แต่ว่ารุ่นก่อนหน้านี้มีเคสปูดมาหลากหลาย iPhone เลยทีเดียวมาสิ้นสุดที่ iPhone 11 วิธีการใช้งานก็แค่สไลด์เครื่อง iPhone เข้าไปในเคสแบตเตอรี่ หลังจากนั้นก็จะมีอินเตอร์เฟสโชว์ว่าแบตเตอรี่ของเคสเหลือเท่าไหร่ แบตเตอรี่ของ iPhone เหลือเท่าไหร่น
ที่บอกว่าเป็นสินค้าวัดใจแฟน Apple เพราะว่าพอใส่เข้าไป มันก็เป็นทรง iPhone ที่มันปูดออกมาประหลาดๆ แบบนี้นะครับ กับราคาที่มหัศจรรย์ราคา 4,990 บาท กับแบตเตอรี่ไซส์ที่แทบจะชาร์จ iPhone ตัวมันเองได้ไม่เต็มด้วยซ้ำ
7.ซองหนัง MacBook Pro
ถัดมาคืออุปกรณ์เสริมราคาแพง ซองหนังใส่ Macbook Pro ไซส์ใหญ่เขนาด 15 นิ้วด้านหน้ามีโลโก้ Apple ทำมาจากหนังคุณภาพของ Apple ด้านหลังมีนูนๆ ขึ้นมาเพื่อที่จะรองรับบริเวณขาของ MacBook Pro เพื่อปกป้องรอยต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นหรือว่ากันกระแทกให้กับเครื่อง MacBook Pro
ซองหนังผืนนี้ ขนาด 15 นิ้วของ MacBook Pro ราคาขายอยู่ที่ 7,790 บาท แทบจะซื้อ Apple Watch เครื่องใหม่ได้เครื่องหนึ่งเลยทีเดียวครับ
8.Apple x Hermes AirTags
ต่อมาเป็นความร่วมมือระหว่าง Apple กับ Hermes ที่ก่อนหน้านี้ Apple ได้จับมือกับ Hermes ทำนาฬิกา Apple Watch Collection พิเศษ เพราะว่ามันถือว่าเป็น Accessories ที่พอมาอยู่ในข้อมือ นาฬิกาเรือนละสัก 4-5 หมื่นบาท หรือถึงแสนก็ตาม คิดว่าการเป็นนาฬิกาข้อมือที่ไม่ได้เวอร์เกินไป เพราะว่ามีนาฬิกาข้อมือระดับราคาเป็นล้านในตลาดมากมาย
แต่ว่าชิ้นที่น่าจะวัดใจแฟน Apple มากก็คือ AirTag ที่ราคาปกติขายอยู่ 990 บาทแต่พอจับมือกับ Hermes ตัว AirTag ทำงานได้เหมือนกันทุกอย่าง พอเป็นซองหนังของ Hermes ขึ้นมาขาย 11,690 บาท ใครมีในครอบครองน่าจะวัดความเป็นแฟน Apple ได้ระดับหนึ่งเลยครับ
9.สาย Thunderbolt 3 Pro
ในส่วนของสายสัญญาณ สายชาร์จต่างๆ Apple ก็ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าขายราคาไม่ถูก แต่ชิ้นที่เป็นสายแล้วก็ราคาสูงที่สุดของ Apple คือสาย Thunderbolt 3 Pro มีคำว่า Pro อยู่ในสายสัญญาณด้วย ตัวนี้มีวางขายอยู่ในเว็บ Apple ความยาว 2 เมตรเป็นสายถักอย่างดี สามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็ว Thunderbolt 3 ได้เต็มที่ ขายอยู่ 4,390 บาท กับสายความยาว 2 เมตร
10.Magic Keyboard
สินค้าสุดยอดแฟนชิ้นสุดท้าย ก็คือ Magic Keyboard ราคามหัศจรรย์จากทาง Apple เป็นเคสสำหรับใช้กับ iPad Pro พอใช้งานด้านหลังติดด้วยแม่เหล็กเข้าไปก็เหมือนกับตัวเครื่องลอยได้ มีคีย์บอร์ด Full size มี Trackpad ให้ใช้งานกับ iPad Pro ติดเข้าไปเรียบร้อยน้ำหนักเยอะกว่า MacBook Air อีก
ที่บอกว่าต้องเป็นสินค้าสุดยอดแฟนเพราะว่าราคาขายของ Magic Keyboard อยู่ที่ 11,690 บาท เฉพาะเคสคีย์บอร์ดไม่ได้รวมเครื่อง iPad Pro 12.9 เข้าไป ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่วัดใจความเป็นแฟนของ Apple ในการที่จะเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมตัวนี้ ถ้าจะเสริมความเป็นแฟนในการซื้อ Magic Keyboard ขึ้นไปอีก ต้องซื้อสีขาว เพราะว่าใช้งานมาไม่นานก็จะดำๆ ด่างๆ ดังนั้นต้องวัดใจแฟนระดับหนึ่งเลย
นอกจากอุปกรณ์เหล่านี้แล้ว ยังมีของที่รวบรวมมาไม่ครบอย่าง หนังสือภาพ Designed by Apple in California ราคาเป็นหมื่น หรือว่าพวกอุปกรณ์เสริมที่ออกมาแล้ว แฟน ๆ Apple มองตั้งแต่ตอนแรกว่าใครจะซื้อ ใครมีสินค้าอะไรก็มาแชร์ๆ กันได้นะครับ