การที่ชื่อของผู้ผลิตกล้องและเลนส์ Medium Format มาปรากฏอยู่บนสมาร์ทโฟนของ OnePlus 9 ซีรีส์ นอกจากมาเน้นย้ำให้เห็นถึงคุณภาพของภาพที่จะได้จากสมาร์ทโฟนเครื่องนี้แล้ว จริงๆ ความร่วมมือในครั้งนี้ยังบอกอะไรเราได้อีกหลายอย่างด้วยกัน โดยเฉพาะสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้
ด้วยประสบการณ์ในการผลิตกล้อง และเลนส์ระดับกลางสำหรับมืออาชีพของ Hasselblad ต้องย้อนให้ฟังก่อนว่า แบรนด์นี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1841 โดดเด่นในเรื่องของคุณภาพความละเอียด สีที่แม่นยำเป็นธรรมชาติ จนได้รับความไว้วางใจจากช่างภาพมืออาชีพ จนถึงการขึ้นไปบันทึกภาพก้าวแรกของมนุษย์บนดวงจันทร์
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2021/06/OnePlus9-04-1024x576.jpg)
มาถึงการทำงานระหว่าง OnePlus และ Hasselblad ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ คือเข้ามาร่วมมือวิจัยและพัฒนาร่วมกันในการปรับปรุงระบบกล้องให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดบนสมาร์ทโฟนของ OnePlus ในรูปแบบความร่วมมือระยะยาว ครอบคลุมตั้งแต่การปรับปรุงซอฟต์แวร์ ปรับแต่งสี และปรับเทียบเซ็นเซอร์ให้ดีที่สุด ก่อนขยายไปยังมิติอื่นๆ ในอนาคต
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2021/06/OnePlus9-06-1024x576.jpg)
จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Hasselblad Camera for Mobile บน OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ที่มีการปรับแต่งและสร้างระบบสีใหม่ Natural Color Calibration with Hasselblad ทำให้ได้สีที่แม่นยำ และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2021/06/OnePlus9-more-1024x576.jpg)
รวมถึง Hasselblad Pro Mode ที่ปรับปรุงอินเตอร์เฟส และการประมวลผลให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับรูปลักษณ์ของ Hasselblad โดยเฉพาะปุ่มกดชัตเตอร์สีส้มที่เป็นเอกลักษณ์ และเสียงชัตเตอร์แบบเดียวกับกล้อง Hasselblad
ความละเอียดในโหมดโปร คือเปิดให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ทั้ง ISO โฟกัส ระยะเวลาเปิดชัตเตอร์ ไวต์บาลานซ์ ความละเอียด โดยเฉพาะการบันทึกภาพในรูปแบบไฟล์ RAW 12 bit ทำให้ได้สีที่สมบูรณ์มากที่สุด
OnePlus 9 Pro 5G กับเอกลักษณ์สีเฉพาะตัวของ Hasselblad
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2021/06/OnePlus9-07-1024x576.jpg)
มาดูรายละเอียดกล้องของ OnePlus 9 Pro 5G ที่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ทั้ง 2 แบรนด์พัฒนาร่วมกัน โดยเลือกใช้เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล ที่นำเซ็นเซอร์ IMX789 ที่ออกแบบโดยเฉพาะร่วมกับทาง Sony มีจุดเด่นที่เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4” ที่รองรับไฟล์ RAW 12 bit ซึ่งนอกจากเก็บสีได้แม่นยำแล้ว เซ็นเซอร์ยังช่วยเรื่องการโฟกัสให้เร็วขึ้น เก็บรายละเอียดของภาพกลางวัน และกลางคืนที่ชัดเจน รวมถึงลดความเบลอของวิดีโอด้วย
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2021/06/OnePlus9-10-1024x576.jpg)
ถัดมาคือเลนส์มุมกว้าง (Ultra Wide) ที่ให้ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เลือกใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1.56” พร้อมเลือกใช้เลนส์แบบ Freeform ช่วยลดความผิดเพี้ยนขอบของภาพถ่าย และช่วยให้ถ่ายมาโครได้ใกล้ถึง 4 เซนติเมตร
นอกจากนี้ ยังมีเลนส์ซูม (Telephoto) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมระบบกันสั่น OIS ทำให้ซูมภาพได้สูงถึง 30 เท่า และกล้องขาวดำ ที่ประมวลผลร่วมกับกล้องหลัก ทำให้เก็บรายละเอียดภาพได้ดีขึ้น และได้มุมมองภาพที่แปลกใหม่ด้วย
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2021/06/OnePlus9-03-1024x576.jpg)
ในส่วนของกล้องหน้า OnePlus 9 Pro 5G ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K 120fps ทำให้ครีเอเตอร์สามารถบันทึกภาพ และนำไปสร้างสรรค์ในการตัดต่อได้แม้อยู่ในที่แสงน้อย
เมื่อนำรายละเอียดของเลนส์ และการปรับแต่งสีจาก Hasselblad จึงทำให้ภาพที่ได้จาก OnePlus 9 Pro 5G มีความโดดเด่นที่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องของสีที่ให้ความเป็นธรรมชาติมากที่สุดในเวลานี้
ภาพรวมระดับท็อป
![](https://spin9.me/wp-content/uploads/2021/06/OnePlus9-02-1024x576.jpg)
นอกเหนือจากเรื่องกล้องแล้ว OnePlus 9 Pro 5G ยังมากับเทคโนโลยีที่น่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 120 Hz Fluid Display รองรับการแสดงผล HDR10+ ดีไซน์ที่จับใช้งานถนัดมือ จากขอบจอโค้ง และมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
ภายในยังมากับขุมพลังอย่าง Qualcomm Snapdragon 888 ที่เป็นรุ่นท็อปสุดในเวลานี้ บนสถาปัตยกรรมแบบ 5 นาโนเมตร แบตเตอรี ที่ให้มา 4,500 mAh แต่มาพร้อม Warp Charge 65T ทำให้ชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียง 29 นาทีเท่านั้น
OnePlus 9 Pro 5G เตรียมวางจำหน่ายด้วยกัน 3 สี คือ สีเทา Morning Mist สีเขียว Pine Green และ สีดำ Stellar Black สำหรับรายละเอียดการวางจำหน่ายติดตามได้เร็วๆ นี้ผ่าน https://www.facebook.com/oneplusthailand
สนใจรีวิวฉบับเต็มกดไปดูกันได้เลย