พาไปรู้จัก oka HAUS Sukhumvit 36 คอนโดพร้อม Innovation แนวคิดใหม่ ใจกลางสุขุมวิท

วันนี้ผมจะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักกับคอนโดไฮเทคแห่งใหม่ ที่พ่วงเอาเทคโนโลยี Smart Home และ เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย เข้ามาใช้ในโครงการอย่างเต็มรูปแบบ ในชื่อ oka HAUS คอนโดความสูง 47 ชั้น ภายใต้แนวคิด Retreat and Rebound ครับ

Disclosure: บทความนี้ ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
Sky Lounge ของโครงการ oka HAUS

oka HAUS เป็นคอนโดแนวคิดใหม่ ที่เน้นความไฮเทคแบบใช้งานได้จริง เอาเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยมาช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้น เข้าคอนเซ็ปต์ Smart Living Transformation ที่เป็นเทรนด์ใหม่ของที่พักอาศัย ซึ่งกำลังเกิดขึ้น เปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยแบบเดิมๆ ให้ชาญฉลาด และสะดวกสบาย ด้วยการเชื่อมต่อทุกอย่างผ่านอินเทอร์เน็ต ควบคุมสิ่งของต่างๆ ภายในบ้านได้ทุกที่ทุกเวลา ไร้ความกังวล และปรับให้เข้ากับลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ละคนได้อย่างลงตัว ซึ่งห้องคอนโดในโครงการ oka HAUS ทุกห้อง จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ครับ

Easy Access เมื่อมือถือของเรา คือคีย์การ์ด

พกมือถือของเราเครื่องเดียว ก็แทนคีย์การ์ดของโครงการได้เลย โดยแอพพลิเคชั่น oka HAUS บนมือถือ จะทดแทนการใช้คีย์การ์ดได้ทั้งหมด สามารถเข้าได้ทั้งโถงล็อบบี้, โถงลิฟต์ และ เข้าห้องพัก ซึ่งอาศัยเทคโนโลยี Bluetooth ที่มือถือ ร่วมกับตัวรับสัญญาณ ที่เพียงแค่เอามือถือเปิดแอปของ oka HAUS ไว้ และนำไปแตะ เพื่อทดแทนการใช้คีย์การ์ดได้ ในขณะเดียวกัน แม้จะมีระบบไฮเทคนี้ ผู้พักอาศัยก็ยังสามารถใช้ระบบคีย์การ์ดได้ตามปกติด้วย

นอกจากนี้ ด้วยแอป oka HAUS จะช่วยให้เราสามารถสร้าง QR Code ชั่วคราว เพื่อส่งให้เพื่อน, ญาติ หรือแม่บ้านที่จะเข้ามาทำความสะอาดได้ด้วย โดยสามารถตั้งเวลาหมดอายุของ QR Code นั้นๆ เพื่อจำกัดการเข้าถึงโถงลิฟต์ และล็อบบี้ได้ตามความต้องการ สะดวก และปลอดภัยกว่าการส่งมอบคีย์การ์ดไปให้ผู้อื่นเป็นอย่างมาก

ส่วนรถยนต์ จะมีแถบสติ๊กเกอร์ RFID ติดที่กระจกหน้ารถหรือกระจังหน้ารถ เพื่อรับส่งสัญญาณระยะไกลกับประตูทางเข้าโครงการ ไม้กั้นจะเปิดให้โดยไม่ต้องลดกระจกลงมาแตะบัตร ผ่านได้สะดวก รวดเร็วสำหรับรถทุกคันในโครงการครับ

Digital Doorlock ล็อกห้องแบบไม่เหมือนใคร

โครงการ oka HAUS จะติดตั้งตัวล็อกห้องแบบดิจิทัล หรือ Digital Doorlock มาให้ทุกห้องครับ อย่างที่หลายๆ คนน่าจะรู้จักกับ Digital Doorlock กันมาบ้างแล้ว คือเป็นตัวล็อกห้อง ที่เราสามารถเปิดได้ทั้งจากคีย์การ์ดปกติ, กดรหัสที่ตั้งไว้ หรือเปิดจากแอพพลิเคชั่นบนมือถือก็ได้ แถมยังสามารถส่ง QR Code one-time password ให้กับแม่บ้านหรือเพื่อนที่จะแวะมาชั่วคราวได้ ฟีเจอร์พื้นฐานเหล่านี้ ทาง oka HAUS ติดมาให้เลยกับโครงการ โดยไม่ต้องไปหามาติดตั้งเพิ่มเติมภายหลังแต่อย่างใด

แต่ฟีเจอร์ที่เด็ดมาก และเหมาะกับยุคนี้อย่างมาก คือ ในห้องมีระบบ Home Automation สั่งงานร่วมกับอถอปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น เราสามารถตั้งให้แอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างเริ่มทำงานทันทีเมื่อเราเปิดประตูห้อง หรือตั้งให้อุปกรณ์ทุกอย่างปิดการทำงานลง เมื่อเราออกจากห้อง เป็นต้น คลายความกังวลว่าลืมปิดอุปกรณ์ตัวนั้นตัวนี้รึเปล่า แถมยังปลอดภัยมากขึ้น เพราะมีการแจ้งเตือนมาที่มือถือของเราทันที หากมีการงัดแงะ หรือเมื่อมีความพยายามในการเปิดห้องแบบไม่ปกติเกิดขึ้นครับ

Auto Access สั่งงานด้วยเสียง หรือแค่แตะหน้าจอ

ระบบ Home Automation เป็นสิ่งที่บ้านแห่งอนาคตจะต้องมีครับ และโครงการ oka HAUS ก็เริ่มต้นด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมสิ่งต่างๆ ภายในห้องผ่านทาง Touchpad ขนาด 7 นิ้ว ที่จะมีมาให้ทุกยูนิต เปิดปิดอุปกรณ์ เปิดไฟ ควบคุมแอร์ ได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส โดยไม่ต้องลุกไปกดสวิตช์ที่ตำแหน่งต่างๆ เหมือนสมัยก่อน นอกจากนี้ ทุกยูนิตยังมี Amazon Echo Dot ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงติดตั้งมาให้ ควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างในห้องได้ ถามคำถาม เช่น ตารางงานของวันพรุ่งนี้, สภาพอากาศ, สภาพการจราจร, เปิดเพลงตามที่ต้องการ ได้ด้วยคำสั่งเสียงของเรา ทุกที่ทุกเวลา แค่เรียก “Alexa” และตามด้วยคำถามหรือคำสั่งที่เราต้องการได้เลย (รองรับเฉพาะเสียงภาษาอังกฤษนะครับ)

Security Access ความปลอดภัยเหนือระดับ

Touchpad ขนาด 7 นิ้ว ที่มากับทุกยูนิตของ oka HAUS เชื่อมต่อกับระบบ VDO Door Phone ที่ล็อบบี้ สามารถดูได้ว่าใครมาหาเรา ก่อนที่จะลงไปรับ หรือสามารถส่ง QR Code ให้เค้าขึ้นมาหาเราได้โดยที่ไม่ต้องลงไปรับด้วยตัวเองก็ได้ บวกกับยังมีปุ่มติดต่อขอความช่วยเหลือกับนิติบุคคลของโครงการในกรณีฉุกเฉินได้ทันที และหากกรณีที่เราไม่อยู่ห้อง แต่ตัวล็อกประตูแบบดิจิทัลสามารถตรวจจับการงัดแงะได้ เราก็จะได้รับการแจ้งเตือนผ่านทางมือถือของเราได้ทันทีเช่นกัน อุ่นใจ และปลอดภัยกว่าระบบห้องพักแบบเดิมๆ เป็นอย่างมากครับ

Mailbox Access ไม่พลาดจดหมายทุกฉบับ

กิจวัตรของคนอยู่คอนโด รวมถึงบ้านพักอาศัยก็ตาม ก็คือต้องไปคอยตรวจดูกล่องจดหมาย รวมถึงไปเช็คกับสำนักงานนิติฯ ว่ามีพัสดุมาส่งถึงเราหรือยัง หากกลับบ้านดึก ก็รับพัสดุไม่ได้อีก จึงมีเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหานี้ ในโครงการ oka HAUS ด้วยระบบ Smart Mailbox ส่งแจ้งเตือนมายังแอพพลิเคชั่นในมือถือของเราเมื่อมีจดหมายหรือพัสดุมาส่งครับ ไม่จำเป็นต้องเดินไปเช็คกล่องจดหมายทุกวันอีกต่อไป แถมการรับพัสดุ ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ผ่านทาง QR Code ส่วนตัวในแอพพลิเคชั่น กลับดึกขนาดไหน ก็รับพัสดุที่เราต้องการได้เองทุกเวลา

Facilities Booking จองพื้นที่ส่วนกลางได้ล่วงหน้า

Rooftop Theatre บนชั้นสูงสุดของ oka HAUS

พื้นที่ส่วนกลางของ oka HAUS มีทั้งส่วนที่ให้ความบันเทิง และผ่อนคลายหลายอย่างเลยครับ ที่แตกต่างจากพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดอื่นๆ เช่น พื้นที่ Co-Kitchen สำหรับจัดปาร์ตี้สังสรรค์, พื้นที่ Retreat Room ห้องพักผ่อนพร้อมเก้าอี้นวดไฟฟ้าที่นวดสบายเหมือนอยู่ในสปา, พื้นที่ Co-Working Space ห้องทำงานที่มีโต๊ะ Wireless Charger ชาร์จอุปกรณ์ไร้สายได้แบบสุดไฮเทค, และพื้นที่ Roof Top Sky Theater สวนลอยฟ้าที่มีจอภาพยนตร์ขนาดยักษ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ เราสามารถจองการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้จากฟังกชั่น Facility & Service บนแอพพลิเคชั่น oka HAUS ในมือถือ แค่เลือกพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องการใช้งาน และจองผ่านแอปล่วงหน้า 1 วัน พร้อมระบบแจ้งเตือนด้วย บริหารจัดการเวลาได้ด้วยตัวเอง จบในแอปเดียวครับ


oka HAUS (โอกะ เฮาส์) สุขุมวิท 36 ที่พักอาศัยใจกลางเมืองบนความสูง 47 ชั้นจากแสนสิริ คุณผู้อ่านที่สนใจโครงการ สามารถเข้าไปชมห้องตัวอย่างได้ที่ oka HAUS Sales Gallery ราคาเริ่มต้น 4.1 ล้านบาท หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.sansiri.com/condominium/oka-haus/th/

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save