เมื่อวันที่ 20-23 พ.ค. ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองบริสเบน (Brisbane) ครับ เมืองที่ได้ยินชื่อแล้ว หลายคนยังไม่รู้ว่าอยู่ประเทศอะไร เพราะถ้าพูดถึงออสเตรเลียแล้ว คนส่วนมากจะไปนึกถึงซิดนีย์ เมลเบิร์น เพิร์ทกันมากกว่า แต่แท้จริงแล้ว บริสเบนมีอะไรที่น่าหลงใหลมาก ชนิดที่วันหยุดยาวครั้งต่อไปของคุณผู้อ่าน ควรพิจารณาบริสเบนเป็นหนึ่งในจุดหมายเลยครับ
Disclosure: บทความนี้ ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)
Brisbane เป็นเมืองทางทิศตะวันออกของทวีป (และประเทศ) ออสเตรเลีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสาม รองจาก Sydney และ Melbourne รวมถึงเป็นเมืองหลวงของรัฐควีนสแลนด์ด้วย แต่เหตุที่เราอาจจะไม่คุ้นเคยกับเมือง Brisbane มากนัก ก็เพราะว่ามันอยู่อันดับสามแบบทิ้งห่างจากเมืองอันดับสองอย่าง Melbourne ถึงเกือบเท่าตัว จึงทำให้เราอาจจะไม่ได้คุ้นเคยกับชื่อเมืองบริสเบนมากเท่าไหร่ครับ
Brisbane เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของออสเตรเลีย มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญเกี่ยวกับการค้นพบทวีปออสเตรเลียมาตั้งแต่อดีต แต่นั่นคงไม่สำคัญเท่ากับปัจจุบัน ที่มันกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่นักท่องเที่ยวหลงรัก มีความเป็นเมืองตากอากาศ และใกล้กับบริสเบนเอง ก็เป็นสวรรค์ของคนชอบชายหาด รวมถึงกีฬาทางน้ำ จนได้ชื่อว่าเป็น Surfers Paradise ซึ่งอยู่ในเขต Gold Coast ที่มีชายหาดสวยงามยาวต่อเนื่องกันถึงกว่า 70 กิโลเมตร
นอกจากนี้ โดยรอบบริสเบนยังคงมีเอกลักษณ์ของประเทศออสเตรเลีย ที่มีสัตว์อนุรักษ์ สัตว์ป่าหายากนานาชนิด ที่เราคุ้นเคยกับจิงโจ้ โคอาล่า ที่มีสถานที่เที่ยวให้เราได้ใกล้ชิดกับสัตว์ายากเหล่านี้แบบสุดฟินอีกด้วย … ครบพร้อมขนาดนี้ในจุดหมายเดียว บริสเบนจึงเป็นจุดหมายน่าเที่ยวในวันหยุดยาวของใครหลายคนได้ไม่ยากเลยครับ
และนี่คือ 8 เหตุผล น่าเที่ยว Brisbane! …
1. อุ้มโคอาล่า!
โคอาล่า (Koala) เป็นสัตว์น่ารักน่าเอ็นดู ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ สัญลักษณ์สำคัญของออสเตรเลีย ที่มีกฎหมายควบคุมอย่างเคร่งครัด แต่ต้องถือว่าบริสเบนโชคดีมาก ที่อยู่ในรัฐควีนสแลนด์ และเป็นเพียงไม่กี่ที่ในออสเตรเลียที่ยังอนุญาตให้คนอุ้มโคอาล่าเพื่อถ่ายรูปได้ครับ (การอุ้มโคอาล่า จะทำให้สัตว์เกิดความตึงเครียด และรัฐบาลออสเตรเลียได้ยกเลิกไม่ให้มีการอุ้มโคอาล่าไปเกือบทั้งหมดแล้ว) ถ้าอยากได้ภาพน่ารักแบบนี้ ต่อให้ไปสวนสัตว์ในรัฐอื่นๆ ของออสเตรเลีย ที่มีโคอาล่าให้ถ่ายรูปได้มากมาย ก็ไม่สามารถนำมันมาอุ้มเพื่อถ่ายรูปแบบนี้ได้.. เรียกว่าฟินกันแบบสุดๆ ไปเลยครับ
ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่า Currumbin Wildlife Sanctuary (CWS) อยู่ในเขต Gold Coast ห่างจากตัวเมือง Brisbane ไปทางใต้ประมาณ 96 กิโลเมตร มีค่าเข้าชมคนละ A$49 และต้องจ่ายเพิ่มอีกคนละ A$23 เพื่อถ่ายภาพกับโคอาล่า โดยภายในศูนย์อนุรักษ์ CWS นี้ ยังมีกิจกรรม และสัตว์หายากอีกหลายชนิด รวมถึงสามารถให้อาหารจิงโจ้แบบใกล้ชิดด้วย
2. ชายหาด Gold Coast สวรรค์ของคนรักทะเล
Gold Coast เป็นเมืองริมทะเล ที่คึกคักมากที่สุดในออสเตรเลียครับ อยู่ทางทิศใต้ของบริสเบนลงไปประมาณ 80 km มีชายหาดสวยงาม และคลื่นลมทะเลที่เหมาะกับการโต้คลื่น จนได้ชื่อว่า Surfers Paradise มาตั้งแต่อดีต ตลอดแนวชายฝั่ง มีชายหาดที่สามารถลงเล่นได้มากกว่า 30 หาด (มีธงบอกสถานะ ว่าปลอดภัยที่จะลงเล่นได้หรือไม่) และมียามชายฝั่งตรวจตราความปลอดภัยอยู่ตลอด หาดที่มีชื่อเสียง ประกอบไปด้วย Surfers Paradise, หาด Broadbeach และหาด Burleigh Heads
ใจกลาง Gold Coast มีโรงแรม Q1 (ย่อมาจาก Queensland Number One) และหอชมวิว SkyPoint Observation Deck (ชื่อเดิมคือ QDeck) ที่เป็นตึกสูงที่สุดในออสเตรเลีย และเคยเป็นตึกอาคารพักอาศัยที่สูงที่สุดในโลก (ปัจจุบันอยู่อันดับ 7) บนชั้น 77 หรือชั้นสูงสุดของอาคารนี้ สามารถมองเห็นโดยรอบ Gold Coast และแนวชายฝั่งได้สุดลูกหูลูกตา
นอกจากนี้ Gold Coast ในยามค่ำคืน ก็คึกคักในรูปแบบของ Nightlife มีผับ บาร์ และวงดนตรีสดหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันตามร้านต่างๆ ส่วนมากเปิดให้บริการถึงตีห้า ถ้าเที่ยวใน Gold Coast ก็แค่เดินไปไม่ไกล แต่ถ้าจะไปเที่ยวฝั่ง Broadbeach ก็อาจจะต้องนั่ง Taxi ที่มีบริการอยู่มากมายครับ
3. Warner Bros. Movie World เครื่องเล่นสุดโหด
ใกล้กันกับ Gold Coast ก็มีสวนสนุกเก่าแก่อย่าง Warner Bros. Movie World ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “Hollywood on the Gold Coast” เปิดมาตั้งแต่ปี 1991 แต่ก็มีการอัปเดตเครื่องเล่น การแสดง และ ขบวนพาเรดของตัวละครต่างๆ ให้เข้ากับยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา โดยมีตัวชูโรงคือ Batman, Superman, Looney Tunes, Austin Powers และ Scooby-Doo มีเครื่องเล่นสุดโหด ทั้งรถไฟเหาะตีลังกาและไม่ตีลังกา มีทั้งแบบกลางแจ้งและในร่ม เครื่องเล่น Spaceshot, โรงภาพยนตร์ 4 มิติ ฯลฯ
คนที่มาเที่ยว WB Movie World ก็มีทั้งนักท่องเที่ยว และ คนท้องถิ่นที่พาลูกหลานมาพักผ่อนครับ มี Kids Zone เป็นเครื่องเล่นเด็กแยกเอาไว้ต่างหากด้วย พื้นที่โดยรวมของ Movie World ไม่ได้ใหญ่โตมากมายนัก แต่เครื่องเล่นก็มีหลายอย่างแบบจุใจ เวลาที่ใช้ในการรอเล่นก็ไม่นานมาก ส่วนโชว์หรือการแสดงก็มีเป็นรอบๆ ผมได้เข้าไปดู Stunt Show การขับรถผาดโผนแบบในหนัง Hollywood ก็ทำได้ดีมากๆ ฝีมือระดับโลกเลยครับ
ปีนี้จะมีการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี ของ Warner Bros. Movie World ด้วยนะครับ
4. Australian Outback Spectacular
อีกหนึ่งโชว์ที่ไม่ควรพลาด ถ้ามาเที่ยว Brisbane และ Gold Coast ก็คือ Australian Outback Spectacular ครับ เป็นโชว์พร้อมอาหารเย็น (กินไปด้วย ดูโชว์ไปด้วย) ตั้งอยู่ติดกับ Warner Bros. Movie World เลย โชว์ของ Australian Outback Spectacular จะเป็นโชว์ความสามารถของคนออสเตรเลียนท้องถิ่น โดยเฉพาะสกิลการขี่ม้า ที่เก่งสุดยอดมากๆ มีมุกตลกสอดแทรก สลับกับการเสิร์ฟอาหารเย็นถึงที่นั่งดูโชว์ และมีเครื่องดื่มมาบริการเป็นรอบๆ มาถึงที่นี่แล้ว ไม่ควรพลาด และเป็นโชว์ที่หาดูได้ยากจากที่อื่นครับ
5. Tangalooma! ป้อนอาหารโลมา
อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ และหาโอกาสได้ยากมากๆ ก็คือการป้อนอาหารโลมาแบบใกล้ชิดครับ ซึ่งไม่ใช่แค่โลมาธรรมดา แต่เป็นโลมาตามธรรมชาติ (Wild dolphin) ที่ไม่ได้ถูกเลี้ยงในพื้นที่ปิด การให้อาหารโลมาถูกควบคุมด้วยกฎหมายของออสเตรเลียอย่างเคร่งครัดเช่นกัน และมีเพียงไม่กี่ที่เท่านั้นที่อนุญาตให้มีการให้อาหารโลมาได้ครับ กิจกรรมนี้อยู่บนรีสอร์ต Tangalooma Island Resort บนเกาะ Moreton ที่ต้องขึ้นเรือเฟอรี่จากฝั่ง Brisbane ใช้เวลาประมาณ 75 นาที ก็จะถึงรีสอร์ต Tangalooma ที่เป็นรีสอร์ตขนาดใหญ่ เหมาะแก่การพักผ่อนตากอากาศ พร้อมกิจกรรมมากมายให้เลือก แต่ไฮไลต์สุดๆ ของมัน อยู่ที่ตอนพลบค่ำ จะมีการให้อาหารโลมา โดยแขกที่เข้าพักรีสอร์ตสามารถนำปลาที่รีสอร์ตเตรียมไว้ ไปให้โลมาได้ด้วยตัวเองเลย (แต่มีการควบคุมโดยเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด) ซึ่งมีกฎเหล็กที่ควบคุมโดยรัฐบาลออสเตรเลียว่า ห้ามแตะตัวโลมาเป็นอันขาดครับ
โลมาในเขตนี้ เป็นโลมาตามธรรมชาติ (Wild dolphin) มีความแตกต่างจากโลมาที่เลี้ยงอยู่ใน aquarium ต่างๆ และมีอายุขัยที่สั้นกว่า เพราะโลมามีศัตรูทางธรรมชาติค่อนข้างมาก โอกาสที่จะได้ป้อนปลาให้กับโลมาแบบนี้ จึงหาได้ยากมากๆ เลยครับ และที่รีสอร์ตแห่งนี้ ยังมีศูนย์ให้ความรู้เกี่ยวกับโลมาอีกด้วย
6. ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ชมเกาะ Moreton
อีกหนึ่งไฮไลต์ของรีสอร์ต Tangalooma ก็คือการขึ้นเฮลิคอปเตอร์เล็กขนาด 4 ที่นั่ง เพื่อชมแนวชายหาด และเกาะ Moreton ครับ เฮลิคอปเตอร์จะบินต่ำๆ เพื่อชมความงามของท้องทะเลริมหาด ที่เราจะสามารถมองเห็นความสวยงามของน้ำทะเลสีฟ้า ใสแจ๋วพอที่จะสามารถมองเห็นปลาขนาดใหญ่ พะยูน รวมถึงซากเรืออับปาง และพื้นที่รอบรีสอร์ตบนเกาะ Moreton ที่ผสมผสานระหว่างป่าทึบ กับทะเลทรายในเขตพื้นที่เดียวกัน
ราคาค่าขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เริ่มต้นที่ A$65 ต่อคน และสามารถขึ้นพร้อมกันได้ 3 คนบนเฮลิคอปเตอร์ลำเดียวกันครับ
กิจกรรมอื่นๆ ของรีสอร์ต Tangalooma แห่งนี้ มีให้เลือกเล่นได้แบบจุใจ ทั้งการขี่ Segway ไปตามหาดทราย (เป็น Segway ล้อใหญ่ ลุยทรายและพื้นขรุขระได้สบายๆ), ขี่รถ ATV หรือที่นี่เรียกว่ารถ Quad bike, เล่น Parasailing ที่ติดร่มชูชีพไว้และให้เรือลากไปตามทะเล, รวมถึงการเล่นสไลเดอร์บนเนินทราย ที่ต้องนั่งรถเข้าป่าไปเจอกับทะเลทราย และเนินทรายขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่จะแนะนำวิธีการใช้ไม้กระดานเป็นสไลเดอร์ จากนั้นให้ปีนขึ้นเนินทรายความสูงกว่า 30 เมตร เพื่อสไลด์ลงมา … ถ้าทำตามคำแนะนำก็จะได้ท่าที่สวยงาม ส่วนถ้าเกิดผิดพลาดขึ้น ก็จะได้กินทรายคำใหญ่เลยล่ะครับ
7. อาหารอร่อย ทั้งคนรักเนื้อ และคนชอบซีฟู้ด
ออสเตรเลีย ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวัวมากครับ เป็นสเต๊กเนื้อคุณภาพที่ส่งออกไปทั่วโลก เมนูอาหารโดยทั่วไป สามารถหาทานเนื้อได้ไม่ยาก และส่วนมากเป็นเนื้อคุณภาพดี มีออปชั่นหลากหลายให้คนรักเนื้อได้ลิ้มลอง แต่ถ้าใครไม่ทานเนื้อ เมนูซีฟู้ดที่นี่ก็สดมากทุกเมนู เพราะอยู่ใกล้แหล่งอาหารทะเล ตลอด 4 วันที่ออสเตรเลียนี่โดยรวมผมประทับใจเมนูอาหารมากครับ จะมีก็แต่มื้อเช้าของโรงแรม ที่เป็นอาหารเช้าสไตล์ฝรั่งธรรมดาทั่วไป ไม่มีอะไรโดดเด่นมากมายนัก
8. มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ
บริสเบน เหมือนไม่ใช่เมืองจุดหมายหลักของใครหลายคน แต่ก็มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ด้วยการบินไทยวันละ 1 เที่ยวบิน เดินทางออกจากสุวรรณภูมิด้วย TG476 เวลา 23:59 น. ของทุกวัน ไปถึงบริสเบนเวลา 11:50 น. ส่วนขากลับเป็น TG474 เดินทางออกจากท่าอากาศยานบริสเบนเวลา 14:00 น. กลับถึงสุวรรณภูมิเวลา 20:00 น. ระยะการบิน 4,520 ไมล์ต่อเที่ยว และล่าสุดการบินไทยได้เปลี่ยนเอา Boeing 787-8 Dreamliner สุดไฮเทค เคบินใหม่ บินสบาย มาใช้กับเส้นทางบริสเบนนี้แล้ว
Boeing 787-8 Dreamliner ของการบินไทย จัดที่นั่ง Royal Silk Class จำนวน 24 ที่นั่ง และ Economy Class จำนวน 240 ที่นั่ง ให้ความสบายด้วยเทคโนโลยีอากาศยานรุ่นล่าสุด ที่เดี๋ยวผมจะเจาะลึกกับเจ้า Dreamliner นี้อีกครั้งในโอกาสหน้าครับ
เมืองน่าเที่ยว ที่ครบพร้อมในจุดหมายเดียว ทั้งดาวน์ทาวน์ที่ได้บรรยากาศเมืองหลวงของรัฐใหญ่ในออสเตรเลีย, ชายหาดที่เป็นสวรรค์ของคนรักทะเล, สัมผัสสัตว์น่ารักทั้งโคอาล่า จิงโจ้ วอมแบตได้อย่างใกล้ชิด, กิจกรรม adventure หลายรูปแบบ, โชว์และการแสดงสุดอลังการ, เครื่องเล่นหวาดเสียวเร้าใจ ผมว่าหาได้ยากที่จะมึครบในจุดหมายเดียวแบบนี้ บริสเบนจึงเป็นจุดหมายน่าเที่ยวอีกเมืองนึงที่ควรแพลนไว้ในลิสต์วันหยุดยาวของหลายๆ คนครับ นอกจากนี้ บริสเบนและเมื่องอื่นๆ ในออสเตรเลีย ยังมีระบบการขนส่งมวลชนที่ยอดเยี่ยม สามารถวางแผนเดินทางด้วยตัวเองได้ไม่ยาก สื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ บ้านเมืองโดยรวมสะอาด และปลอดภัย ใครกำลังหาที่เที่ยวจุดหมายใหม่ๆ ไม่ควรมองข้ามบริสเบนนะครับ
พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ
ขอขอบคุณ: บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)
บทความโดย: อู๋ @spin9