สั่งของจากเว็บนอกทีไร หงุดหงิดทุกที เพราะหลายเว็บดันไม่ส่งถึงเมืองไทย หรือไม่งั้นก็เจอค่าส่งมหาโหด จนต้องถอดใจกันไป จะฝากเพื่อนที่ไปอเมริกาหิ้วมาให้ ก็กลัวเพื่อนจะเลิกคบเอาซะก่อน … ปัญหานี้เจอกันทั่วโลกครับ จนต้องมีบริการ “สร้างที่อยู่ในอเมริกา” ขึ้นมาเพื่อรับของที่เราอยากจะสั่งก่อน แล้วค่อยส่งของชิ้นนั้นต่อมายังเมืองไทยอีกที .. วันนี้ผมจะรีวิวบริการลักษณะนี้ที่ผมใช้มาอย่างยาวนานในชื่อ MyUS
เว็บไซต์ MyUS.com เป็นบริการ “ส่งต่อสินค้า” ของอเมริกา โดยการทำงานของมันคือ เมื่อเราเป็นสมัครสมาชิก ก็จะได้รับ “ที่อยู่ในอเมริกา” มาเลยครับ เพื่อใช้ในการสั่งซื้อสินค้าจากหน้าเว็บต่างๆ ซึ่งส่วนมากเว็บของอเมริกาก็จะมีค่าส่งที่ถูกมากๆ หากส่งไปในอเมริกาด้วยกัน (หลายๆ ที่ส่งฟรีเลยด้วย) จากนั้น เมื่อสินค้าถูกส่งไปที่ที่อยู่ของ MyUS ที่เราสร้างไว้ เราก็จะได้รับอีเมลแจ้งเตือน เพื่อเข้าไปทำรายการ ส่งต่อสินค้าชิ้นนั้นมายังเมืองไทย ที่เราสามารถเลือกรวมสินค้าหลายๆ รายการเป็นกล่องเดียวก่อนได้เพื่อประหยัดค่าส่ง และเลือกได้ว่าจะส่งแบบด่วนแค่ไหน ใช้บริการการส่งของอะไร (DHL, UPS, FedEX อะไรก็ว่าไป แล้วแต่ว่าแบบไหนถูกกว่า) แล้วก็รอรับสินค้าที่เมืองไทยแบบชิลๆ ได้เลย
ข้อดีของบริการนี้ คือเราสามารถเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ไม่ส่งถึงไทยได้แบบสบายๆ หรือถ้าสั่งจากร้านที่ส่งถึงไทย ก็มักจะมีค่าส่งแพงกว่าบริการแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราสั่งซื้อจากหลายร้านค้าพร้อมๆ กัน แทนที่จะต้องเสียค่าส่งหลายกล่อง ก็ส่งมารวมกันก่อน แล้วแพ็กรวมส่งกล่องเดียวเลย ประหยัดกว่ากันมากๆ
มารีวิวใช้บริการกันจริงๆ ดูเลยครับ ว่ามันเวิร์กขนาดไหน
ประเภทสมาชิกของ MyUS ที่มีให้ตอนนี้ มีอยู่ 3 แบบครับ คือแบบ Basic ไม่มีค่าบริการรายเดือน แต่มีค่าแรกเข้า $10 สามารถเก็บสินค้าไว้ได้ไม่เกิน 5 วัน (จึงต้องระวังหน่อยหากสั่งซื้อจากหลายร้าน เพราะกว่าจะรวมกันได้อาจเกิน 5 วันไปแล้ว ต้องเสียเงินเพิ่ม), แบบ Premium มีค่าบริการรายเดือน $7 และค่าแรกเข้าอีก $20 สมาชิกประเภทนี้เก็บของไว้ได้ 30 วันแบบไม่ต้องจ่ายเพิ่ม และมักมีค่าส่งต่อมาไทยในราคาถูกเป็นพิเศษ, สุดท้ายคือแบบ Premium+Mail ที่เพิ่มในส่วนของการรับจดหมายให้เราได้ด้วย (เค้าจะสแกนและส่งเป็นเมลมาให้) อันนี้ถ้าจะเอาไว้แค่รับส่งของ ไม่จำเป็นหรอกครับ
ผมสมัครสมาชิกแบบ Premium เอาไว้นานแล้วครับ เมื่อเป็นสมาชิกก็จะได้ที่อยู่ในอเมริกามาแบบนี้
สังเกตว่าที่อยู่จะใช้ชื่อ-นามสกุลของเราเลย พร้อมเบอร์โทรศัพท์ Landline ของ USA มาด้วย ในกรณีที่บางเว็บไซต์ที่เราซื้อของบังคับให้กรอกข้อมูลเบอร์โทร เมื่อได้ที่อยู่แล้ว ก็ไปช้อปปิ้งได้เลย!
ผมสั่งซื้อสินค้าจาก Amazon ครับ เมื่อกรอกที่อยู่ USA ที่ได้มาจาก MyUS ไป ก็จะมีออปชั่นค่าส่งสินค้าราคาถูก หรือ ฟรีเลยก็มี แบบนี้ก็สบาย ช้อปกระจายเลยครับ ไม่ต้องกลัวค่าส่งจะแพง
ยังไม่พอแค่นั้น ขอแถมอุปกรณ์ถ่ายภาพจากเว็บ B&H Photo เว็บไซต์ขายอุปกรณ์กล้องชื่อดังของอเมริกา ไปซื้อสั่งมาอีกรัวๆ โดยกรอกที่อยู่เดียวกันที่ได้จากบริการ MyUS ทำให้ค่าส่งถูกกว่าส่งมาไทยเยอะมากๆ
จากนั้นก็รอครับ รอให้ร้านค้าต่างๆ ที่เราสั่งซื้อ ส่งสินค้าไปยังที่อยู่ MyUS ของเรา โดยทันทีที่ทาง MyUS ได้รับสินค้าภายใต้ที่อยู่ของเรา ก็จะมีอีเมลเด้งมาบอกเราทันที ว่ามีสินค้าไปส่งตามที่อยู่ของเรานะ แบบนี้ครับ
อีเมลที่ว่านี้ ไม่ได้มาแค่เตือนนะครับ แต่เค้าจะสแกนบิลส่งสินค้าแนบมาด้วย ทำให้เราสามารถตรวจสอบได้ว่า มีสินค้าจากที่ไหน และ รายการไหนบ้างที่มาส่งแล้ว (ส่วนถ้าจะดูภาพสินค้าหรือภาพกล่อง ต้องจ่ายเงินเพิ่มครับ ทาง MyUS ก็จะมีบริการถ่ายรูปส่งมาให้ดูกันก่อน)
ของที่ส่งมาถึงแล้ว ก็จะถูกบรรจุอยู่ในลิสต์ของสินค้าที่เก็บไว้ในคลังของเรา ซึ่งสมาชิกแบบ Premium สามารถเก็บไว้ได้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายนาน 30 วันครับ ระหว่างนี้ก็รอให้สินค้าจากร้านอื่นๆ ที่เราสั่งซื้อในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันส่งมาให้ครบได้แบบสบายๆ
เมื่อสินค้าส่งมาครบทุกรายการแล้ว เราสามารถเลือกรวมสินค้าจากทุกร้านให้แพ็กเป็นกล่องเดียวกัน เพื่อประหยัดค่าส่งกลับมาที่ไทยครับ ตรงนี้ทาง MyUS บริการรวมกล่องให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนกัน
หลังจากเลือกรายการที่จะรวมกล่องแล้ว ก็มาเลือกออปชั่นว่าจะส่งด้วยบริการไหน ซึ่งมีตารางคำนวนให้ในเว็บ ตามน้ำหนัก และขนาดของกล่อง อย่างกรณีนี้ผมเสียค่าส่งมาไทย $30.96 เท่านั้น ถูกกว่าให้แต่ละร้านส่งมาที่ไทยโดยตรงแน่นอน (สังเกตว่า สมาชิกแบบ Premium จะเสียค่าส่งที่ถูกกว่าเยอะเหมือนกัน)
เมื่อสร้างรายการส่งสินค้าแล้ว ทาง MyUS ก็จะให้ Tracking Number มาทางอีเมลครับ เพื่อตรวจสอบสถานะของสินค้าว่าจะส่งมาถึงไทยวันไหน แค่นี้เราก็รอรับของที่บ้านได้เลย
เพียง 2 วันหลังจากทำรายการ ผมก็ได้เจ้ากล่องเหลืองนี้มาส่งถึงหน้าบ้านจาก DHL ครับ
สินค้าบางรายการ จำเป็นต้องเสียภาษีอากรขาเข้า และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ตามราคาสินค้าจริงที่ระบุอยู่ในใบกำกับสินค้าครับ (ตามระเบียบของกรมศุลกากร) ตรงนี้เราสามารถจ่ายเงินสดให้กับเจ้าหน้าที่ของ DHL ที่มาส่งสินค้าได้เลย
ภายในกล่อง ทาง MyUS จะบรรจุวัสดุกันกระแทกมาให้ด้วย และแยกรายการที่มาจากร้านค้าต่างๆ ที่แตกต่างกันเอาไว้อย่างมีระเบียบ พร้อมแนบสำเนาของบิลแต่ละร้านมาให้เรียบร้อย
สรุป
ถือว่าเป็นบริการที่ดีงามมากครับ เพราะทำให้เราสามารถสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ไม่มีออปชั่นในการส่งมาถึงไทยได้แบบไม่แพง รวมถึงยังเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ ในกรณีที่ต้องการซื้อของจากหลายๆ เว็บและรวมค่าส่งสินค้าให้เหลือรายการเดียวอย่างที่ได้รีวิวให้ชมกันไป
ราคาค่าบริการ หากไม่ได้ใช้ประจำ จะเลือกแบบ Basic ที่ไม่มีค่าบริการรายเดือนเลยก็ได้ เสียค่าใช้จ่ายครั้งแรกเพียงครั้งเดียวก็ได้ที่อยู่อเมริกามาใช้ในการสั่งซื้อสินค้าแล้วครับ แถมค่าส่งสินค้าที่เว็บ MyUS คิดเราก็ไม่ได้แพงเว่ออะไร ส่วนมากแล้วมักจะถูกกว่าสั่งให้ร้านค้าส่งมาถึงไทยโดยตรงค่อนข้างมากทีเดียวครับ
ใครสนใจ ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเอาที่หน้าเว็บของเค้าเลยที่ MyUS.com ครับ