รีวิว ANA Premium Economy ชั้นประหยัดพรีเมียม นั่งสบาย ในราคาไม่โหดร้าย

รีวิววันนี้ ผมพาไปขึ้น “Premium Economy Class” ชั้นประหยัดพรีเมียมของสายการบิน ANA ครับ ที่หลายคนน่าจะสนใจ เพราะตอนนี้มีที่นั่งแบบนี้ให้บริการในเส้นทางกรุงเทพ-โตเกียวแล้วด้วย แถมราคาก็เบากว่า Business Class ค่อนข้างมาก เอื้อมถึงได้ แลกความสบายได้มากกว่านั่ง Economy พอสมควร

Disclosure: บทความนี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือตัวแทนที่เกี่ยวข้อง

ANA เป็นหนึ่งในสายการบินที่ให้บริการชั้นโดยสาร Premium Economy มานานพอสมควรครับ และ ชั้นโดยสาร Premium Economy ก็เป็นเทรนด์ที่จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตด้วย เพราะว่าปัจจุบัน Business Class ของแต่ละสายการบิน ต่างแข่งขันกันทำที่นั่งได้ดีมากๆ จนมีช่องว่างระหว่าง Business Class กับ Economy Class มากเกินไป ทั้งความสบาย และราคาค่าตั๋วโดยสาร หลายสายการบินจึงเพิ่มตัวเลือกของ Premium Economy มาให้เป็นตัวเลือกเพิ่มเติม คั่นอยู่ตรงกลางระหว่างสองคลาสนี้ และเป็นคลาสที่ได้รับความนิยมอย่างมากเสียด้วย

ลองนึกดูว่าเราได้นั่งเครื่องบิน ในชั้นโดยสารที่ไม่อึดอัดเหมือน Economy แต่ก็ไม่ต้องจ่ายแพงจนเอื้อมไม่ถึงแบบ Business Class ดูครับ ถ้าเดินทางเที่ยวบินไกลหน่อย ก็น่าจะพอรับได้เนอะ

ไฟลต์นี้ผมเดินทางจากโตเกียวนาริตะ (NRT) ตรงไปยังเมืองซีแอทเทิล สหรัฐอเมริกา (SEA) ครับ ยาวนาน 9 ชั่วโมงครึ่ง พิสูจน์กันไปเลยครับ ว่าเที่ยวบินยาวขนาดนี้ Premium Economy ไหวมั้ย

Flight: NH178

Route: NRT-SEA
Date: 28 Oct 2017
Departure Time: 18:05
Arrival Time: 11:25
Duration: 9 hr 20 mins
Seat: 15A
Class: Premium Economy Class
Aircraft: Boeing 787-9

Check-in

ขั้นตอนเช็กอินของ Premium Economy สายการบิน ANA นี่จะมีเคาน์เตอร์แยกมาให้เลยครับ โดยใช้เคาน์เตอร์ร่วมกับเช็กอินของ Business Class ที่แน่นอนว่า ไม่ต้องต่อคิวยาวเลย

แม้ว่าจะเป็น Premium Economy แต่ใน boarding pass จะเขียนแค่ Economy ปกติครับ เพียงแค่เลขที่นั่งที่ระบุ จะอยู่ในโซน Premium Economy เท่านั้น

ANA Lounge Access

ชั้น Premium Economy ของ ANA นี่อนุญาตให้ใช้เลานจ์ได้ด้วยนะครับ เรียกว่าเทียบเท่ากับ Business Class กันเลยทีเดียว หากเดินทางจากสนามบินในญี่ปุ่น ก็จะสามารถใช้เลานจ์ ANA ได้ หรือถ้าเดินทางออกจากสนามบินที่ไม่มีเลานจ์ ANA ก็จะสามารถใช้เลานจ์ของสนามบินนั้นๆ ตามที่สายการบิน ANA กำหนด (เช่นที่สุวรรณภูมิ ก็จะสามารถใช้เลานจ์ของการบินไทยได้ครับ)

แน่นอนว่า ที่เลานจ์ ANA สนามบินนาริตะนี่ สามารถสั่งอาหารได้เต็มที่ครับ ราเมงทำสดใหม่ตามออเดอร์ ของโปรดของนักเดินทางหลายคนที่เดินทางผ่านสนามบินแห่งนี้

และยังใช้บริการห้องอาบน้ำได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงถึงขั้นตั๋ว Business Class ก็มีเลานจ์ให้นั่งรอขึ้นเครื่องได้แบบสบายๆ นะครับ

Boarding

ขั้นตอนการขึ้นเครื่อง ชั้นโดยสาร Premium Economy ไม่มีสิทธิ์ในการขึ้นเครื่องก่อนนะครับ ทางสายการบิน ANA ระบุไว้ชัดเจนว่า “ผู้โดยสารชั้นประหยัดพรีเมียมจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในการขึ้นเครื่องก่อน (Priority Boarding)” ยกเว้นแต่จะมีสิทธิ์ในสมาชิกบัตรทอง Star Alliance ก็จะได้รับสิทธิ์ตามปกติ แต่หากไม่ได้เป็นสมาชิกบัตรทองใดๆ ก็ต้องต่อคิวร่วมกับผู้โดยสาร Economy ทั่วไปครับ

On-board

Premium Economy ที่ผมพามาขึ้นวันนี้ อยู่บนเครื่องบินแบบ Boeing 787-9 Dreamliner ครับ จัดที่นั่ง Premium Eco แบบ 2-3-2 หลวมๆ สบายๆ ตามผังที่เห็นนี้เลย ส่วนถ้าเป็น Economy ก็จะจัดเรียงแบบ 3-3-3

ที่นั่งจริง กว้างกว่าที่คิดไว้มากครับ ดูเผินๆ จะเหมือนกับที่นั่ง Business Class รุ่นก่อนๆ เลย รอบนี้ผมได้ที่นั่ง 15A ซึ่งเป็นแถวหน้าสุดริมหน้าต่างของ Premium Economy ที่มีพื้นที่ยืดขามากกว่าแถวอื่นๆ หน่อย และปีนข้ามออกมาทางเดินได้ไม่ยากครับ เป็นที่ที่ผมแนะนำเลย แถวหน้าสุดนี่นั่งสบายทุกที่นั่ง (ใน seatguru ก็ระบุแถวหน้าสุด เป็นสีเขียว good seat เช่นกัน) ทุกที่นั่งจะมีหมอนกับผ้าห่มวางไว้ให้ด้วยครับ

ที่วางแขน เป็นที่วางแขนเล็กๆ มีรีโมทควบคุมหน้าจอความบันเทิงฝังอยู่ด้านข้าง พร้อมปุ่มกดเอนที่นั่ง ที่เอนได้พอสมควร เอนได้ลึกกว่า Economy ปกติเล็กน้อย

ด้านใต้ของขอบที่นั่งจะมีปลั๊ก Universal มาให้ด้วยครับ ทุกที่นั่งมีให้ครบถ้วนไม่ต้องแย่งกันใช้

ส่วนขอบที่นั่งอีกด้าน จะเป็นปุ่มสำหรับยกเบาะรองน่องขึ้นมา อันนี้ยกขึ้นมาได้เยอะจริงๆ และช่วยให้เรานอนได้แบบไม่เมื่อยหลัง ไม่เมื่อยขา ส่วนอีกปุ่มเป็นปุ่มปลดล็อกหน้าจอความบันเทิงที่พับเก็บเอาไว้ใต้ที่วางแขน

นี่ครับ เบาะรองน่องจะยกขึ้นมาได้ประมาณนี้เลย ข้อเสียของแถวหน้าสุด แม้ว่าจะมีที่ให้ยืดขาได้เยอะ แต่มันจะไม่มีที่วางเท้ามาให้ แต่ถ้าเป็นแถวที่ 2 หรือ 3 จะมีที่วางเท้า พับอยู่กับเก้าอี้ตัวข้างหน้ามาให้ด้วย เรียกว่าเป็นข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปในแต่ละแถวครับ

นั่งได้แป๊บเดียว พนักงานต้อนรับจะเอาชุด amenity มาให้หยิบครับ อันนี้หยิบได้ตามใจชอบเลย มีผ้าปิดตา แผ่นมาสก์หน้า ที่อุดหู ชุดแปรงสีฟัน กระดาษทิชชู่ ฯลฯ หรือถ้าจะขอเพิ่มตอนไหน ก็เรียกพนักงานได้ครับ

ในกระเป๋าหน้าที่นั่ง มีชุดหูฟังมาให้ (หูฟังแบบเดียวกับที่ให้ใน Business Class)

รองเท้าแตะสำหรับเดินบนเครื่องบินก็มีมาให้เช่นกัน อันนี้เป็นแบบเดียวกับที่แจกให้ Business Class เลย

หน้าจอความบันเทิง พับขึ้นมาแล้วก็มีหน้าตาประมาณนี้ครับ จอใหญ่พอสมควร แต่หาองศาที่ดูแล้วไม่เมื่อยคอค่อนข้างยากหน่อย มันจะเอียงๆ น่ะครับ (ใต้ขอบจอเป็นตำแหน่งของพอร์ต USB ให้เสียบชาร์จอุปกรณ์ได้เพิ่มเติมด้วย)

หน้าต่างของ Boeing 787-9 นี่จะเป็นแบบตัดแสงด้วยระบบไฟฟ้านะครับ ใช้กดปุ่มดิมเอาได้ 5 ระดับ เอกลักษณ์ของ Dreamliner เค้าเลย

Premium Economy นี่มี welcome drink ให้ด้วยนะครับ ผมเลือกรับเป็นไวน์ขาว (ในถ้วยพลาสติก แบระ..) เสิร์ฟมาพร้อม Rice Cracker

มาดูเรื่องอาหารบ้างครับ ชั้นโดยสาร Premium Economy จะได้รับตัวเลือกอาหาร แบบเดียวกับ Economy Class ทุกประการครับ คือมีตัวเลือกมาให้ 2 ช้อยส์ (ที่น่ารักของสายการบินนี้คือ จะมีรูปประกอบมาให้ครับ จะได้เลือกไม่พลาด ฮ่าๆ)

แต่! สิ่งที่แตกต่างไป คือ Premium Economy นี่มีตัวเลือกของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แบบจัดเต็มครับ เหล้า สาเก ไวน์ เหล้าบ๊วย โซจู และ Sparkling Wine ด้วย อย่างผมขอ Sparkling Wine มาพร้อมกับมื้ออาหาร พนักงานเอามาให้ทั้งขวดเลย เป็นขวดเล็ก ขนาดกำลังพอเหมาะพอดี จะน่าเสียดายก็ตรงที่เสิร์ฟกับถ้วยพลาสติกนี่แหละ

อาหาร ขาออกจากนาริตะนี่เข้าขั้นอร่อยเลยนะครับ ผมว่าสายการบินนี้แม้ว่าบน Economy Class ก็ไม่มีอะไรน่าผิดหวังเลยครับ รสชาติผ่านทุกอย่าง

มีน้ำเปล่าให้ด้วยทั้งขวด สำหรับใช้จิบได้ตลอดเที่ยวบิน

ตบท้ายด้วยของหวาน มาเป็นไอศครีม Häagen-Dazs เลยล่ะครับ แบบเดียวกับที่เสิร์ฟให้ Business Class เช่นกัน ไม่ธรรมดา

บนเที่ยวบินนี้ มีไวไฟบริการด้วยครับ โดย ANA WiFi Service คิดเงินแบ่งเป็น 3 แพ็ก คือ 30 นาที ราคา $6.95, 3 ชั่วโมง ราคา $16.95 และราคาแบบเหมาทั้งเที่ยวบิน ราคา $21.95 ผมว่าคิดเป็นระยะเวลาการใช้งานนี่คุ้มกว่าการคิดเป็น MB มากๆ ถ้าใครจำเป็นต้องใช้ ราคาพอรับได้ครับ

ผมหลับไปได้หลายชั่วโมงอยู่ครับบนไฟลต์นี้ หลังจากจัดท่านั่งท่านอนอยู่สักพัก ก็พบว่า หมอนกับผ้าห่มที่ให้มานี่ถือว่าใช้งานได้ดีเลย ที่นั่งปรับเอนได้ในระดับโอเค หลับได้แบบไม่ปวดต้นคอ ไม่ปวดหลังครับ อาหารมื้อก่อนแลนด์ มาให้เลือก 2 ช้อยส์เช่นกัน รสชาติโอเคครับ ไม่ได้ถึงกับโดดเด่นอะไรมากนัก สอบผ่านตามมาตรฐานของ ANA

สรุป

เป็นตัวเลือกที่ผมมักจะแนะนำอยู่เสมอครับ Premium Economy ในยุคนี้ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามาก และมาคั่นกลางระหว่างชั้น Business กับ Economy ได้ลงตัวมากๆ โดยเฉพาะในเที่ยวบินยาวๆ ที่หลายคนมักจะส่ายหัวให้กับ Economy Class เพราะอึดอัดจนทรมาน การได้ที่นั่งที่กว้างขึ้น และเอนในระดับที่นอนพักผ่อนได้ ผมว่าน่าจะเพียงพอสำหรับหลายๆ คนเลย

และ ANA เป็นสายการบินที่รักษามาตรฐานได้ดีมากเช่นกันครับ ผมว่า ANA กล้าให้อย่างมาก ที่ให้สิทธิ์ผู้โดยสาร Premium Economy ในการใช้เลานจ์เทียบเท่ากับ Business Class รวมถึงใีตัวเลือกของแอลกอฮอล์จากชั้น Business Class มาเสิร์ฟให้ด้วย ที่นั่งโดยรวมโอเคมาก และอาหารที่มาจาก Economy ก็ไม่ได้แย่อะไรเลย รวมถึงเมื่อมารอกระเป๋าที่สายพาน ยังได้สิทธิ์ของ Priority Bag ที่เจ้าหน้าที่จะติดแท็กให้ตั้งแต่ตอนโหลดกระเป๋าด้วย ประสบการณ์โดยรวมถือว่าสะดวกสบายเลยทีเดียว

ปัจจุบัน ANA มีให้บริการชั้น Premium Economy บนเครื่องบินแบบ Boeing 777-300ER ทุกลำ, Boeing 787-8 บางลำ และ Boeing 787-9 ทุกลำครับ ดังนั้น บางเส้นทางในบางเที่ยวบิน อาจจะไม่มีชั้น Premium Eco ให้บริการนะครับ เท่าที่ผมเช็คดู ตอนนี้เส้นทางกรุงเทพ-โตเกียวส่วนมาก มี Premium Eco ขายแล้ว ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยครับ

นี่ผมหวังให้การบินไทยทำบ้างเหมือนกันนะ

พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ

บทความโดย:
อู๋ spin9

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save